เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศออกข่าวที่น่าสนใจชิ้นหนึ่งว่า

พอเกิดสงครามยูเครนเราก็เริ่มเห็นการ “ปรับทัพ” ทางด้านการทูตระหว่างประเทศขนานใหญ่

เมื่อทหารรัสเซียถอนตัวออกจากเมืองรอบๆ เมืองหลวงเคียฟของยูเครน ความจริงที่โหดร้ายก็ปรากฏ

สงครามยูเครนเข้าสู่วันที่ 40 วันนี้…เรากำลังเห็นการปรับแผนของทุกฝ่ายเพื่อบรรลุเป้าหมายของตน แต่ผู้คนก็ยังบาดเจ็บล้มตายกันอย่างต่อเนื่อง

ผู้คนจำนวนหนึ่งยังปักหลักอยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศแม้จะกลายเป็นเป้าของการโจมตีอย่างหนักหน่วงตลอดกว่าหนึ่งเดือนของการบุกใหญ่ของรัสเซียก็ตาม

การประชุมสุดยอดกลุ่ม G-20 จะมีขึ้นที่บาหลี, อินโดนีเซีย 15-16 เดือนพฤศจิกายนปีนี้

ยิ่งสงครามยูเครนลากยาวเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นภาพของการแบ่งขั้วอำนาจในโลกชัดขึ้นเท่านั้น เกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ล่าสุดเท่ากับตอกย้ำถึงท่าทีของ คิม จองอึน ที่ประกาศความพร้อมจะเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ อีกรอบ

สงครามยูเครนนอกจากจะถูกเกาหลีเหนือดึงเข้ามาในเอเชียแล้ว รัสเซียก็ยังลากญี่ปุ่นเข้ามาเป็นคู่กรณีด้วย เพราะมอสโกอ้างว่าโตเกียวร่วมกับวอชิงตันในการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียด้วย จึงถือว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน

คำถามใหญ่เกี่ยวกับทิศทางของคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือ เมื่อมีการทดลองขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป Hwasong-17 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ

กลายเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลกเมื่อผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน สวมบท “เจ้าพ่อ” Top Gun เพื่อไปบัญชาการยิงขีปนาวุธทันสมัยใหม่ล่าสุด

ไม่มีใครไม่รู้ว่ากำลังมีสงครามที่ยูเครน…เพราะข้าวของแพงขึ้นและความสงบสุขถูกรบกวนอย่างชัดเจน…แม้จะอยู่กันคนละซีกโลก

วันนี้นักวางแผนระดับโลกทั้งหลายต่างก็มีคำถามคล้ายกันว่า

นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง วัย 66 ปี เพิ่งประกาศให้ได้รับทราบโดยทั่วกันว่าเขาจะลงจากตำแหน่งภายใน 1 ปี

มีคนถามผมว่าทำไมรัสเซียจึงใช้ตัวหนังสือ Z เป็นสัญลักษณ์ของการบุกยูเครนครั้งนี้ ตามมาด้วยคำถามที่ว่าทำไมผู้นำรัสเซีย

ภาพนี้คือรถเข็นเด็ก 109 ตัววางเรียงกันกลางเมือง Lviv ซึ่งเป็นเมืองหลักทางตะวันตกของยูเครน

เพียงหนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ คุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยาวเกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนก็ประกาศขอเจรจาตรงกับประธานาธิบดีรัสเซียปูติน

ท่ามกลางกลิ่นคละคลุ้งของสงครามยูเครน ก็มีเสียงกระซิบกระซาบถึง “ความหวังเล็กๆ” ว่าอาจจะมีช่องทางของการเจรจาเพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและสันติภาพ

ผมฟังคำปราศรัยของประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียและเซเลนสกีของยูเครนเมื่อคืนวันพุธ แล้วอยากเห็นสองคนนี้มาดีเบตให้ชาวโลกได้ตัดสินว่า “สูตรสันติภาพ” ควรจะเป็นอย่างไร

มีคนถามผมว่า “มาตรา 5 ของ NATO” ที่มีการกล่าวถึงบ่อยๆ ในช่วงสงครามยูเครนนี้คืออะไร และมีผลอย่างไรกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

พอประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ “ยุน ซุก-ยอล” ประกาศว่าเกาหลีเหนือคือ “ศัตรูหลัก” ของประเทศ และเตรียมใช้ระบบสกัดขีปนาวุธโจมตีทางเหนือก่อน (pre-emptive strike) หากจำเป็น…ผมก็เห็นภาพของความตึงเครียดในระดับโลกขึ้นมาทันที