สัปดาห์ก่อนผมเพิ่งเขียนถึง “ชนวนสงครามชื่อไต้หวัน”

ผมตั้งวงคุยกับผู้รู้หลายวงการว่าด้วยปัญหา “เงินหายจากมือถือ” โดยไม่รู้ตัว ได้ข้อสรุปว่า

ก่อนสิ้นปีนี้ ผู้นำไทยจะต้องเข้าร่วมประชุมระดับสากลที่มีความสำคัญต่ออนาคตของภูมิภาคและโลก

คำสั่งของกระทรวงมหาดไทยที่ให้หน่วยราชการให้เลิกการขอสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านจากประชาชนเมื่อเร็วๆ

มาถึงจุด “เปิดประเทศ” ในเดือนหน้า คงต้องประเมินว่าเศรษฐกิจของไทยปีหน้าเราจะมีหน้าตาอย่างไร

ผมอ่านแถลงการณ์จาก “ประธานอาเซียน” (บรูไน) ที่สรุปมติของที่ประชุม “นัดฉุกเฉิน”

คำแถลงของประธานอาเซียน (บรูไน) ที่ออกมาเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าจะไม่เชิญ “ผู้นำทางด้านการเมือง”

เกมการทูตเรื่องอาเซียนกับ “มิน อ่องหล่าย” ผู้นำรัฐบาลทหารพม่ามีสีสันและการทูตละเอียดอ่อนที่น่าวิเคราะห์เป็นอย่างมาก

สิ่งที่เรียกว่า “วิกฤตเพดานหนี้” ของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ นั้นยังต้องลุ้นกันต่อแม้ว่าพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับพรรครีพับลิกันฝ่ายค้านจะบรรลุ “การประนีประนอม”

วาทะของสี จิ้นผิง จากปักกิ่ง กับของไช่ อิงเหวิน จากเกาะไต้หวัน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อนแรงไม่น้อย เพราะเรื่อง “จีนเดียว” กลับมาเป็นประเด็นใหญ่

ลาวและจีนกำลังนับถอยหลังการเปิดเส้นทางรถไฟสายพิเศษที่เป็นส่วนหนึ่งของ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีนแล้ว

ขณะนี้เธอกลายเป็น “เจ้าหญิง” สำหรับคนจีนจำนวนไม่น้อย ที่แน่ๆ คือ รัฐบาลจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนถือว่า