สัปดาห์นี้น่าจะได้เห็นฝีมือการบริหารงานบุคคล ของ “ผบ.ต่อศักดิ์” ในการจัดทัพปรับทิศ “สีกากี” ระดับ “นายพล” ครั้งแรก แบบอำนาจเต็มๆ มือ

นี่ซิ..นักรัฐศาสตร์ของจริง แค่ก้าวแรกในการกุมบังเหียน “กรมปทุมวัน” ของ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี ก็ใช้หลักบริหารงานเชิงรัฐศาสตร์การปกครอง ที่น่าสนใจ ที่น่าติดตาม โดยเฉพาะการบริหารงานบุคคล

ชื่นชมๆ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ยึดหลักการและแนวทางของตัวเองในการพิจารณาหลักเกณฑ์ของกฎหมายในการแต่งตั้ง

ใจหาย…เหลืออีกเพียง 7 วัน ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็จะครบเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย. 2566

เผลอแป๊บเดียวเหลืออีกเพียงไม่ถึงครึ่งเดือน ก็จะถึงวันที่ 30 ก.ย. 2566 วันเกษียณอายุราชการของข้าราชการทุกๆ หน่วย

จริงๆ ตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” หรือ “ผบ.ตร.” คนที่ 14 ที่จะเข้ามาแตะมือต่อไม้ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งจะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. 66

หลัง “โผนายพลสีกากี” เดิม ในยุค นายกฯ ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกรื้อ ถูกล้างไพ่ ตามแรงบีบ แรงกดดัน ในเรื่อง “ความเหมาะสม” และ “หลักธรรมาภิบาล”

“ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้…” มอตโตสุดคลาสสิกของ “พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์” อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ที่ใช้ได้กับทุกเหตุการณ์ กับทุกยุคทุกสมัย ในแวดวง “ตำรวจ”

ต้องออกตัวล้อฟรีกันก่อน “จั่วหัว” แบบนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง ไม่ได้เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ตอนนี้
“รวดเดียวจบ”

พอการเมืองไม่นิ่ง การโหวตนายกรัฐมนตรีต้องเลื่อนออกไป การจัดตั้งรัฐบาลที่ตกมาอยู่ในมือ “เพื่อไทย” ก็ต้องลากยาวตามไปด้วย

เมื่อสัปดาห์ก่อน นายกฯ ประยุทธ์ ในฐานะประธาน ก.ตร. เซ็นออกข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 มีเนื้อหาเป็นกฎเหล็กเอาไว้ 47 ข้อ

จำได้ว่าหลังการประชุม ก.ตร.ครั้งล่าสุด ที่มีการหารือกันเรื่อง ข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 มีข้อมูลออกมาว่าการแต่งตั้งระดับ “นายพัน” ปีนี้

มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ชื่อ “ตำรวจห้องประชุม” ส่ง จ.ม.น้อย มาระบายความอึดอัด ระบายความไม่สบายใจ ระบายข้อคับข้องใจในการทำงาน ให้ช่วยเป็นกระจกสะท้อนไปยัง “ผู้บังคับบัญชา” ได้รับรู้ ได้รับทราบบ้าง

นี่ซิ…สีกากี ช่วงการเมืองกำลังชุลมุนชุลเก รัฐบาลใหม่ยังลูกผีลูกคน นายกรัฐมนตรีไม่รู้ต้องโหวตกันกี่หน กี่รอบ

เห็นทุกภาคส่วนร่วมใจกันช่วยเหลือ พ.ต.ท.วิริยะ เจิมจำนงค์ สว.ฝอ.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีปัญหาทางการเงินจากการค้ำประกันเงินกู้ตำรวจที่ถูกออกจากราชการและเสียชีวิต

ประเด็นศึกชิงเก้าอี้ “ผบ.ตร.” คนใหม่ ที่ถูกจุดขึ้นมา พร้อมๆ กับการจับกุม “ผู้การชลบุรี” และเครือข่าย ร่วมกันรีดเงินเว็บพนันออนไลน์ 140 ล้าน ด้วยวลีกระชากใจ

ดูท่าคงถึงเวลาที่ บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ต้องสังคายนา “บ้านไฮเวย์” หรือ กองบังคับการตำรวจทางหลวง กันขนานใหญ่ซะแล้ว

ใจเย็นๆ เด้อ…ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบไปดรามาตามกระแสเรื่องตำรวจหญิงโตไว จากยศ ส.ต.ต.พุ่งพรวดไปเป็น ร.ต.อ. ภายในไม่กี่ปี

จำได้ว่าช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เคยหยิบยกเนื้อหาที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้โพสต์เอาไว้ในเฟซบุ๊ก Aek Angsananont ตั้งแต่ตอนที่ได้รับเลือกแต่งตั้งเป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิประเภท ก. หลังได้รับการเลือกตั้งจากตำรวจระดับ รอง ผกก.ขึ้นไปใหม่ๆ

เข้มข้นๆ แบบห้ามกะพริบตา การตั้ง “รัฐบาล” ของพรรคก้าวไกล ที่ตอนนี้เข้าเกียร์ 5 เดินหน้าเต็มพิกัด รวบรวม 8 พรรคการเมือง 313 เสียง จับมือ “ตั้งรัฐบาล” ภายใต้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล