ถ้าพูดถึงเรื่องแผนผังโครงสร้างอาคารรัฐสภาเกียกกาย หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า สัปปายะสภาสถาน ที่เป็นอาคารขนาดใหญ่ โดยภายในจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร แต่ภายในอาคารทั้ง 2 ฝั่งจะคล้าย หรือเหมือนกันมากๆ

ใกล้เข้ามาทุกทีกับวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 วาระที่ 1 ในวันที่ 19-21 มิ.ย. ที่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ที่อภิปรายในวันนั้น เชื่อว่าบางคนที่ไม่เคยอภิปรายอาจจะได้เฉิดฉายในวันนั้น

เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย กับการเลือกสว.ระดับอำเภอ ด่านต่อไปก็จะเป็นระดับจังหวัด ซึ่งต้องยอมรับว่าการเลือกสว.ในครั้งนี้มีความซับซ้อน แต่สิ่งที่เป็นฮือฮากันในโลกโซเชียล และเห็นได้จากการเลือกระดับอำเภอคือ

เริ่มต้นเดือนสีรุ้งอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับเดือนมิถุนายนของทุกปีที่มีความจัดเต็มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเหล่าเซเลบริตี้ ดารา นักแสดง หรือนักการเมือง ต่างผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้เกิดขึ้นจริง และใช้ได้จริงโดยเร็ว

ประเด็นข่าวการเมืองในช่วงเวลานี้ร้อนแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 สว. ตีความคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน

ถ้ายังจำกันได้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เกือบจะเป็นดราม่า เพราะจากการที่พูดบนเวทีใหญ่ทำให้ทุกฝ่ายต่างติดตาม โดยเฉพาะคำพูด “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ทุกครั้งที่มีคำพูดออกมาไม่ว่าจะเป็นตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

ช่วงนี้ข่าวการเมืองก็จะเบาบางลงกว่าตอนที่ตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอะไรๆเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง แต่จะมีอยู่คนหนึ่งที่หายจากหน้าข่าวการเมือง คนนั้นคือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้ปรากฏตัวตามข่าวการเมือง

ยังจำกันได้หรือไม่ ช่วงที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ก่อนที่จะปรับตำแหน่งที่มีทั้งคนเข้าและคนออก ซึ่งมีทั้งคนที่เสียใจและดีใจในเวลาเดียวกัน หนึ่งในนั้นคือ มาดามนครบาล พวงเพ็ชร ชุนละเอียด

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

ช่วงนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองแต่ละพรรคก็เริ่มจะมีการประชุมใหญ่เป็นปกติ เพราะนอกจากจะทำหน้าที่ในสภาแล้ว นักการเมืองก็ต้องลงพื้นที่ด้วยเช่นกัน

ควันหลง “วันสงกรานต์” สุดแฮปปี้ของรัฐมนตรีเมืองคอน “ปุ้ย” พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และสส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ช่วงนี้เจองานหนักจากปมกากแคดเมียม

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ใครจะไปคิดว่าจังหวัดเชียงใหม่จะกลายเป็นสถานที่รวมเหล่ารัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยไว้แทบทั้งหมด เพราะมีผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย นั่นคือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปิ๊กบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยรัฐมนตรีทั้งหลายได้เดินทางไปรับประทานอาหารร่วมกับ ทักษิณ ซึ่งในเทศกาลสงกรานต์ แน่นอนว่าการแต่งกายต้องเป็นสีสันสู้กับแสงแดด หรือเป็นชุดลายดอกไม้ ที่จะได้เพิ่มสีสันในช่วงหน้าร้อนได้อย่างเต็มที่

ปิดสมัยประชุมสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนปิดได้เกิดเหตุการณ์มากมาย เพราะการเมืองในแต่ละวันร้อนแรงไม่แพ้แสงจากดวงอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นวันอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)

จบไปแล้วกับการพิจารณากฎหมายอีก 1 ร่าง เพราะในวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา การประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ …) พ.ศ. …. หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ผ่านการเห็นชอบในวาระที่ 2-3 ของสภาแล้ว

ควันหลงช่วงอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณปี 67 ที่เพิ่งจะผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปในวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจในการประชุมกันอย่างยิ่ง เพราะเวลาในการเริ่มประชุมค่อนข้างเช้าติดต่อกัน

ประเด็นที่ฉายสปอร์ตไลท์ในประเทศไทยตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องของการไปทัวร์เชียงใหม่ ที่มีคนดังรายล้อมรอต้อนรับอดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ตอนนี้ไม่ว่ามองไปทางไหน หรือดูข่าวช่องอะไรก็ไม่วายมีแต่เรื่อง “ทักษิณ” เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ

ช่วงเช้าของวันจันทร์ เป็นปกติที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภา จะไปดักสัมภาษณ์เหล่าสว.ที่จะเข้าประชุมวุฒิสภา

ในวันจันทร์เป็นประจำที่จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล โดยวันที่ 4 มี.ค. วิปรัฐบาลได้ประชุมกันที่อาคารรัฐสภา โดยเหล่าผู้สื่อข่าวขึ้นไปที่ห้องประชุมวิปเพื่อทำข่าวเป็นปกติ แต่บรรยากาศเหมือนจะเงียบกว่าปกติ อาจจะเป็นเพราะเหล่าสส.ได้เข้าห้องประชุมไปก่อนแล้ว

ช่วงนี้นอกจากข่าวการเมืองที่กำลังเป็นประเด็นร้อนฉ่าในสังคม โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ที่อยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ที่ใครๆก็รู้ว่าภายในบ้านมีเจ้าของบ้านกลับมาอยู่แล้ว ซึ่งเจ้าของบ้านนั้น เป็นคนที่สังคมกำลังจับจ้องเพราะไม่ว่าใครเข้า-ออก หรือประตูบ้านเปิดให้ใครเข้าไป สื่อมวลชนก็จะรีบถ่ายรูป

ข่าวใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในวงการการเมืองคือเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่นานเหลือเกินว่ากว่าจะได้คำตอบจะทำหรือจะไปต่ออย่างไร เพราะเรื่องนี้คงมีแค่รัฐบาลว่าจะตัดสินใจจะไปต่อหรือพอแค่นี้