วันจันทร์ที่แล้ว (20 มีนาคม) บันทึกเตือนความจำเป็นวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร!

บันทึกบรรทัดแรก จันทร์ที่ 20 มีนาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร การเมืองเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง “อย่างเป็นทางการ”

20 มีนาคม ว่ากันว่ายุบสภาแน่ และเมื่อวานนี้(14 มีนา) เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ครั้งสุดท้าย จริงหรือไม่จริงวันจันทร์หน้ารู้กัน

เกือบทุกสุดสัปดาห์ “ประชาธิปัตย์” รุกหนักปักษ์ใต้ เปิดเวทีปราศรัย เปิดตัวผู้สมัครตามจังหวัดต่างๆ ขอเสียงพี่น้องประชาชนสนับสนุนส่งคนของพรรคเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎร

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ศึกแย่งพื้นที่สื่อในช่วงโหมโรงเลือกตั้งดุเดือด โดยเฉพาะเมื่อวันเสาร์(25 ก.พ.) ทั้งพรรคเพื่อไทย รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ก้าวไกล แข่งหาเสียง แย่งซีนกันน่าดู

คลุมเครืออยู่นานว่า “สาธิต ปิตุเตชะ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และส.ส.ระยอง จะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่หรือไม่ มีข่าวลือนั่นนี่ ไปเพื่อไทยบ้าง ไปภูมิใจไทยบ้าง

ช่วงนี้ “คนเมืองหลวง” ต้องเผชิญปัญหาหลายอย่าง โควิดคลี่คลายในทิศทางที่ดีได้ไม่เท่าไหร่ น้องฝุ่นPM2.5 ก็เข้ามาแทนที่ แล้วอยู่นานตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วจนถึงเดี๋ยวนี้

สัญญาณยุบสภาไม่ใช่เรื่องปกปิดอีกต่อไป ไม่กี่วันก่อนฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมานับนิ้วไล่ตามปฏิทินแล้ว ปรากฏว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอเวลาเดือนแห่งความรักทั้งเดือนในการแบ่งเขตเลือกตั้ง

เก็บตก “เทศกาลตรุษจีน” หลายพรรคตะลุยเยาวราช หวังจะได้พบปะประชาชน ดังที่ได้เห็นภาพตามสื่อ

เก็บตกควันหลง “วันเด็ก” เพลง “ทรงอย่างแบด” ดังกระหึ่มทั่วประเทศ กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตของวัยรุ่นฟันน้ำนม ปีนี้หลายที่จัดงานกันอย่างคึกคัก หลังจากที่ไม่ได้จัดมาอย่างต่อเนื่องเพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาด

สัปดาห์นี้ยกให้เป็นสัปดาห์ของ “อนาคตชาติ” วันเด็ก ปี66 ตรงกับวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. ซึ่งเป็นประจำทุกปีที่ผู้หลักผู้ใหญ่จะมีคำขวัญวันเด็กออกมา

การเมืองไทยตอนนี้ฝุ่นตลบ ด้านหนึ่ง ส.ส. อดีต ส.ส. เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ย้ายไปอยู่บ้านใหม่กันหลายคน ซึ่งแต่ละท่านก็มีเหตุผลส่วนบุคคล ทั้งไม่มีที่ยืนในพรรคเดิมบ้าง บ้างก็เพราะเงินตรา

“ยามศึกร่วมรบ ยามสงบเรารบกันเอง” ยังคงเป็นประโยคที่ใช้ได้กับ “พรรคประชาธิปัตย์” เสียจริง ไม่ว่าจะสมัยใด ประโยคนี้คือจริงที่สุด ล่าสุด เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว รอบนี้กะผลัก “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ตกเก้าอี้หัวหน้าพรรค

ภายหลังร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ได้รับการปลดล็อก ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยผ่านฉลุย กฎหมายทั้งสองฉบับไร้จุดขัดรัฐธรรมนูญ

คนอายุมากมักมีโรคประจำตัว เช่นเดียวกับสภาพ รัฐบาลที่ใกล้ครบวาระ 4 ปี ก็จะได้เห็นอาการป่วยออดๆ แอดๆ พรรคการเมืองเลือดไหล ส่วนสภาป่วยโคม่า สามวันดี สี่วัน “สภาล่ม”

ช่วงนี้ถือเป็นช่วงย้ายบ้านของ ส.ส. คนไหนตั้งใจจะย้ายพรรคคงต้องรีบดีล รีบเก็บกระเป๋ากันหน่อย เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้งกำหนด ด

น่าเสียดายที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปัดตก “ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต” หรือกฎหมายสุราก้าวหน้า เพราะไม่เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นการทำ การค้าขายเสรีที่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตเบียร์คราฟต์รายย่อยที่ “ก้าวไกล” ต่อสู้คอยเป็นปากเป็นเสียงให้

เมื่อวันอังคารที่ 1 พ.ย.เปิดสมัยประชุมรัฐสภา และเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) มีประชุมสภาผู้แทนราษฎร เปิดมานัดแรกก็ชิงไหวชิงพริบกันสุดฤทธิ์

สถานการณ์น้ำท่วมเวลานี้ทั้งภาคกลางและภาคอีสานอ่วมหลายจังหวัด ประชาชนใช้ชีวิตด้วยความทุลักทุเล

พักหลัง “ชาติพัฒนา” มีกระแสเป็นระยะ ตั้งแต่เปิดตัว “กรณ์ จาติกวณิช” มาร่วมพรรค