ศาลอาญาอนุญาตปล่อยทานตะวันชั่วคราว 1 เดือน วางเงื่อนไขห้ามกระทำการกระทบสถาบันฯ ตั้ง”พิธา”เป็น ผู้กำกับดูเเลปฏิบัติตามเงื่อนไข

‘จาตุรนต์’ ร่ายยาวชี้กฎหมายเมื่อบังคับใช้ต้องยุติธรรมและมีมนุษยธรรม บอกคดีทานตะวันต้องปล่อยตัวเพราะเด็กเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าทำเพื่อประโยชน์บ้านเมือง

ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ20ปี นักเคลื่อนไหวอิสระ อดีตกลุ่มทะลุวัง จำเลยคดีดูหมิ่นสถาบันฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 112 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ม.368 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้นำตัวนายปริญญ์ พานิชย์ภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีกระทำอนาจารหญิงสาวรายหนึ่งเมื่อปี 2556 มายื่นคำร้องฝากขังเป็นครั้งแรกรวม 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.- 4 มิ.ย. นี้เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม และอื่นๆ

มีเหตุผลสำคัญคือ “ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมที่ศาลได้มีคำสั่งไม่ให้ประกัน” เหตุผลที่ศาลสั่งไม่ให้ประกันมาก่อนนี้คือ เกรงว่าจะออกไปกระทำความผิดซ้ำ

ศาลอาญาอนุญาตฝากขัง ”ทานตะวัน” ต่ออีก 7 วัน หลังอัยการยื่นฝากขังครั้งที่ 8 อ้างเหตุตำรวจเพิ่งส่งสำนวนเมื่อวาน ศาลนัดไต่สวนประกันตัว 26 พ.ค.นี้ให้ “พิธา” เสนอพฤติการณ์พิเศษเป็นผู้กำกับดูแลพฤติการณ์เเละรับผิดชอบ ม็อบตะโกนหน้าศาลคืนสิทธิประกันตัว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระ วัย 20 ปี ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นสถาบันฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 112 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ม.368

ที่หน้าศาลฎีกา สนามหลวง นักศึกษาและนักกิจกรรมฯ กลุ่มมังกรปฏิวัติ, พรรคโดมปฎิวัติ และกลุ่มเคียงคู่โดมยื่นหนังสือต่อ น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ประธาน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความซึ่งเดินทางมายื่นคัดค้านการฝากขังครั้งที่ 7 น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระ วัย 20 ปี ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นสถาบันฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 112

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค. 2565) ที่ศาลอาญา จะครบกำหนดฝากขัง “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมวัย 20 ปี ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเธอถูกกล่าวหาจากการไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จ
.

ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องประกันตัวครั้งที่ 2 ‘สมบัติ ทองย้อย’ อดีตการ์ดเสื้อแดงหมิ่นเบื้องสูง ชี้ ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม แม้ทนายจะยื่นเหตุผลการเป็นเสาหลักของครอบครัว และยินยอมทำตามเงื่อนไข

ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ยื่นคำร้องฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค

ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความว่า ด่วน! เวลา 15.30 น. ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เก็ท-โสภณ สุรฤทธิ์ธำรงค์ โดยเขาจะถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ศาลอ่านคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ในคดีที่ศาลมี คำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานอาญากรุงเทพใต้ ฟ้องนายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดคนเสื้อแดง และหัวหน้าการ์ดแนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า”ราษฎร” หรือม็อบ 3 นิ้ว ในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3)

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ศาลอนุญาตให้ประกันวงเงินคนละ 9 หมื่นบาท โดยกำหนด เงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว ว่าห้ามมิให้ผู้ต้องหาทั้งสามกระทำการใด ๆ ในลักษณะหรือทำนองเดียวกับที่ถูกกล่าวหา

พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ยื่นคำร้องขอฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ น.ส.ณัฐนิช หรือใบปอ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี, น.ส.สุพิชฌาย์ หรือเมนู (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปีและ น.ส.เนติพร หรือผักบุ้ง (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปีในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ลุ้นศาลอาญาใต้ เพิกถอนประกันปล่อยชั่วคราวใบปอกับพวกหรือไม่ หลัง สน.ปทุมวันยื่นถอนเพราะมีการกระทำผิดซ้ำ

นายสนทยา น้อยเจริญ ทนายความของส.ต.ต.นรวิชญ์ ได้สัมภาษณ์ว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ ยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา จึงยอมรับในคดีนี้ทุกชั้น ซึ่งหลังจากศาลพิพากษาลงโทษ

พนักงานสอบสวน ปอท. ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 1 ผู้ต้องหาคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ประกอบด้วย น.ส.ณัฐนิช (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปึ ผู้ต้องหาตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ ฝ.457/2565

ศาลอ่านคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของศาลฎีกา ในคดีดำ อ. 1032/62 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกชัย หงส์กังวาน อายุ47 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลยในความผิดฐานเผยแพร่