กรณี ตำรวจกองปราบปราม กองบังคับการ 3 ร่วมกับชุดสืบสวนของกองกำกับการ 5 ตำรวจทางหลวง นำกำลังเข้าสกัดจับกุม ทนายตั้ม-นายษิทรา เบี้ยบังเกิด อายุ 43 ปี ในคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญา

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำตัวนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา ฉ้อโกง

นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอให้สังคมมีสติ และใช้วิจารณญาน ต่อการขุดโพสต์เฟซบุ๊กเก่า มาดิสเครดิตกัน

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการเบิกตัว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา มาสอบปากคำเพิ่มเติมเมื่อช่วงเช้า กระทั่งเวลา 13.30 น.พนักงานสอบสวน ได้นำตัว ทนายษิทรา พร้อมภรรยา ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดา

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.)

‘ครูปรีชา’ ยิ้มร่ารับน้อง หิ้วกาแฟพร้อมข้าวผัด ฝาก ‘ทนายตั้ม-ภรรยา’ ปัดซ้ำเติม แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมจากการกระทำของตัวเอง

ทนายเผย ‘ตั้ม’ ยังไม่ยื่นประกันตัววันนี้ เตรียมหลักทรัพย์ประกันเฉพาะเมียแทน ‘ทนายเจ๊อ้อย’ โผล่ ยื่นค้านประกันตัวชี้มีพฤติกรรมหลบหนี หวั่นยุ่งเหยิงพยาน

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “กรรม” ตามหลักพุทธศาสนา ผมสนใจเรื่อง “กรรม”

ตำรวจออกหมายจับก่อนตามรวบ  “ทนายตั้ม-เมีย” ได้ที่ฉะเชิงเทรา

พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการจับกุม ทนายตั้มและภรรยา ว่าคดีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ตนเข้ามาดูแล

กรณี ศาลอาญา รัชดา ได้อนุมัติหมายจับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในข้อหา ฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ตำรวจกองปราบควบคุมตัว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ผู้ต้องหาตามหมาย

ที่กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ผู้ต้อง

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตำรวจออกหมายจับประเด็นที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม หลอกลวงนางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย

กรณี น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ “เจ๊อ้อย” แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” ฐานฉ้อโกงเงิน จำนวน 71 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เรียกสอบปากคำเจ๊อ้อยหลายครั้งหลังพบเส้นทางการเงินอีก จำนวน 39 ล้านบาท ที่ทนายตั้มอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าว

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่คำพูดที่มีการให้สัมภาษณ์ในรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” โดย “ทนายเดชา” เปิดเผยว่า มีแหล่งข่าวใกล้ชิดตำรวจเขาอธิบายเกี่ยวกับพยานหลักฐาน

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กว่าพี่อ้อยแจ้งได้ความทนายตั้มและพวกเพิ่มอีก 1 คดี คือคดีจ้างออ

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางจตุพร อุบลเลิศ หรือ “เจ๊อ้อย” พร้อมด้วย นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความส่วนตัว เดิน

ที่กองบังคับการปราบปราม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ถูกน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เ

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาทว่า