มีความชัดเจนแล้วว่าประเทศไทย ก้าวเข้าสู่สังคม ผู้สูงวัย อย่างเต็มตัว โดยในอาเซียนมีจำนวนประชาเกินอายุเกิน60 ปี เป็นอันดับสองรองจากสิงคโปร์

ศัตรูเพื่อไทยไม่ใช่พี่น้อง 3 ป. ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ แต่น่าจะเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ หลังซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจล่าสุด “ก้าวไกล” (ก.ก.) เรตติ้งกระฉูดพุ่งแซงเพื่อไทย (พท.)

“เต้ ” อิทธิเดช สุพงษ์ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 15 คันนายาว-บึงกุ่ม (เฉพาะแขวงคลองกุ่ม) พรรคภูมิใจไทย ทำหน้าที่เป็นโฆษกประจำตัว “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

หลังมีความสุขในวันสงกรานต์แล้ว สิ่งที่รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประเมินว่าน่าจะมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น

ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่ละพรรคจะหาเสียงอย่างเต็มพิกัด ทั้งร่วมรายการดีเบต ตระเวนหาเสียง หรือลงพื้นที่ปราศรัยพบปะประชาชน อย่างเช่น “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่เรียกว่าคิวแน่นลงพื้นที่ทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เกือบทุกวัน

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตแจกเงิน 10,000 บาท ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อใช้ในการซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันของพรรคเพื่อไทย โดย “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ถูกตั้งคำถามอย่างหนัก เป็นประชานิยมสุดโต่ง สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายหรือไม่

แต่ละพรรคล้วนมีเบื้องหน้าและ เบื้องหลังในการจัดบัญชีรายชื่อที่แตกต่างกันไป บางพรรคเน้นกลุ่มทุน บ้านใหญ่ พวกพ้อง และคนทำงาน เพื่อตอบโจทย์ภารกิจการเมืองข้างหน้า

นับอีกหนึ่ง ส.ส.ล่วงหน้าได้เลย สำหรับพรรคภูมิใจไทย ในกรณี เสี่ยเม้ง-วัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการ รมว.สาธารณสุข และอดีต ส.ส.สระบุรี เมื่อลงสนามเที่ยวนี้

“ชีวิตที่ได้เกิดใหม่ ลมหายใจแห่งความสุขที่กลับมา” ….กระทรวงสาธารณสุข ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนสร้างกุศล ด้วยการบริจาคอวัยวะ ถือเป็นสร้างกุศลแก่ผู้ให้ และ สร้างชีวิตใหม่ 1 ผู้ให้ ช่วยได้ 8 ชีวิต การบริจาคอวัยวะถือเป็นการสร้างประโยชน์และความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เรียกได้ว่าเป็นพรรคกระสุนตกมากที่สุดเวลานี้ สำหรับ “คนภูมิใจไทย” ภายใต้การนำของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข

อสม. และอสส. ถือเป็นหมอคนแรก ที่ช่วยดูแลสุขอนามัยของประชาชนตั้งแตระดับชุมชน ระดับรากฐาน ยิ่งในสถานการณ์ โควิด ก็ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ช่วยให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติไปอย่างรวดเร็ว

www.thaipost.net ไทยโพสต์ ขับเคลื่อน “อิสรภาพแห่งความคิด” @ ประชาชื่น46 การเมืองใกล้เลือกต่างๆ นอกจะหาเสียงอัดกันแหลกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นขั้วเดียวกันหรือต่างขั้ว โดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

ในแง่ของการบริหารพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข วันนี้สามารถทำให้พรรคเลือดน้ำเงินเนื้อหอมแบบสุดๆ มีนักการเมืองหลากหลายพรรคต้องการเข้ามาร่วมงาน เพราะเข้าอกเข้าใจคนการเมืองและสไตล์ของพรรคที่ไร้ความขัดแย้ง จึงมีโอกาสเป็นรัฐบาลสูง

ท่ามกลาง “ประชาธิปัตย์” เลือดไหลออกไม่หยุด สังคมภายนอกมองเข้ามา สงสัยว่า “พรรคยังจะไปไหวไหม”

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นอกจากเป้าหมายใหญ่พื้นที่อีสานใต้แล้ว ล่าสุดยังได้กำลังหลักจากบรรดาบ้านใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง นำโดย “ส.ส.แดง” นายมณเฑียร สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) “เจ๊มันแกว” หรือนางนันทนา สงฆ์ประชา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ เป็นคนภูมิใจไทย

“วันชัย สอนศิริ” สวมหมวก 3 ใบ คือ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โหร และทนายความ วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองและการแย่งชิงอำนาจของฝ่ายต่างๆ พร้อมเปิดประเด็นใหม่ๆ เกือบทุกสัปดาห์ ล่าสุดเปิดเผยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย อักษรย่อ “ส.”

องค์กรอิสระอย่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถูกวิจารณ์จากฝ่ายการเมือง เมื่อขอเวลา 45 วันหลังกฎหมายลูกเลือกตั้ง 2 ฉบับประกาศใช้เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง พร้อมร้องขอนายกฯ อย่ายุบสภาตอนนี้

ก่อนหน้าพรรคภูมิใจไทยได้รับฉายาเป็น “พรรคปฏิบัติการ” เนื่องจาก เสี่ยหนู-นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้นโยบายรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคทำงานรับใช้ประชาชนตลอด 7 ไม่มีวันหยุด

แม้จะเป็นพูดจาตรงไปตรงมา หรือ “ขวานผ่าซาก” แต่เอาจริง คนรอบข้างต่างบอกว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นผู้ใหญ่ใจดี ยิ้มง่าย

ภาพจำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) คอการเมืองนึกถึงระบบพรรค ความมีเอกภาพและไร้ความขัดแย้ง เป็นแรงดึงดูดให้คนหลั่งไหลมาร่วมงานลำดับต้นๆ กระทั่งแกนนำพรรคหมายมั่นปั้นมือ ยกระดับเป็นพรรคขนาดใหญ่