สำนักงานคณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ (กกต.)​ได้เสนอผลการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีพรรคก้าวไกลหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง และกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระผู้ยื่นคำร้องเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ

นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ความเสี่ยงที่ตามมาหลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ31มค2567 มีมติเอกฉันท์ว่าการกระทำของนายพิธาและพรรคก้าวไกล

นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ผมมีคำถามถึง นายกรัฐมนตรี และ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า มี พรรคการเมืองและนักการเมือง “ล้มล้างการปกครอง”แต่ทำไม

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เป็น 1 ในสส. 44 คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่านโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกลมีการเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ในคดี”ล้มล้างการปกครอง”ที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เป็นผู้ถูกร้องที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการขับเคลื่อนการทำงานของพรรคหลังจากนี้ว่า การทำงานของพรรคยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ข้อเสนอถึงพรรคก้าวไกลภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครอง” ระบุว่า ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองเมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ พรรคก้าวไกลกำจัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน มีเนื้่อหาดังนี้

หลัง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล” ได้เฮ ไปเมื่อ 24 มกราคมที่ผ่านมา เพราะพิธาไม่ต้องหลุดจากตำแหน่ง สส. จากผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

แม้คำวินิจฉัยเรื่องหุ้นสื่อของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา จะเป็นคุณกับ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล สามารถกลับเข้าไปเป็น สส.ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการดำเนินคดีกับพรรคก้าวไกล ในเรื่องการล้มล้างการปกครอง คดีการครอบครองหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

พุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หลังจากทาน้อยถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่และแพ้โหวตในสภา ไม่สามารถเสนอญัตติในเรื่องเดียวกันถึง 2 ครั้งได้ในสมัยประชุมเดียวกัน

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ทำไมคำร้องที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญเรื่องมาตรา112และศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถามความคืบหน้าจากอัยการสูงสุด จึงสำคัญยิ่ง!

เพจเฟซบุ๊ก ฟ้าเดียวกัน โพสต์ข้อความว่า “แจ้งข่าวด่วน เปิดปี 2565 ตำรวจราว 30 นาย นำหมายค้นมาที่ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โดยต้องการค้นหาหนังสือ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ว่า
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลบังคับผูกพันทุกองค์กร

‘อ.หริรักษ์’จับตาความพยายามล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้ข้ออ้างปฏิรูป โดยยังคงจัดให้มีการชุมนุมต่อไป หลีกเลี่ยงความรุนแรง พยายามทำลายความน่าเชื่อถือตุลาการศาลรธน.แต่เชื่อพวกเขาไม่มีทางทำสำเร็จ

ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ความเห็นส่วนตนของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คําวินิจฉัยที่ 19/2564 ลงวันที่ 10 พ.ย. 2564 ที่มีมติเสียงข้างมาก การกระทำของนายอานนท์ นําภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่

‘ดร.นิว’ชำแหละวาทกรรม ‘ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง’ของ’ปิยบุตร’ ยก 3 ตัวอย่างพฤติกรรม ‘นำกิโยตินมาใช้ข่มขู่ -เผาพระบรมฉายาลักษณ์-ปั่นแฮชแท็กล้มล้างราชวงศ์’ ประกอบการพิจารณา ‘ปฏิรูป’หรือ ‘ล้มล้าง’

‘ไพศาล’ ชี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดีล้มล้างการปกครองถึงที่สุดแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ทำความผิดแม้แต่รายเดียว เตือนผู้เกี่ยวข้องที่ละเว้นไม่ดำเนินคดี ย่อมมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กดังนี้ ชาญวิทย์ขู่นองเลือด