ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 อันเป็นพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปรับคณะรัฐมนตรีและชะลอการใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราชั่วคราว

เรียบร้อยไปแล้วครับ… “โดนัลด์ ทรัมป์” กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ ๒ ได้สำเร็จ

นอกจาก.. “คลั่งชาติ” ที่หลุดจากปากคุณภูมิธรรม เวชยชัย แล้ว..

ว่ากันว่าหากพรรคประชาชนลดประเด็นล่อแหลม หมิ่นเหม่ และพุ่งเป้าปกป้องผลประโยชน์ของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นแก้ปัญหาธุรกิจทุนเทา ตรวจสอบเรื่องร้อน อาทิ รถไฟฟ้า 3 สาย , พรบ. ระบบราง, สัมปทานรับซื้อพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ และ ความไม่ชอบกลที่ กระทรวงคลัง กำลังเพิ่มทุนในหุ้นการบินไทย ฯลฯ

“ทรัมป์-รีพับลิกัน” มาคนเดียว!!! สหรัฐฯ เปลี่ยน
โลกเปลี่ยน ตลาดการค้าเปลี่ยน! เปลี่ยนทางบวกหรือทางลบ…ผมไม่รู้

ในที่สุด “โดนัลด์ ทรัมป์” ก็คัมแบ็กกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 47 จนได้ โดย จะเป็นผู้นำมะกันที่มีอายุมากที่สุดในวันสาบานตน วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568 ซึ่งการที่ “ทรัมป์” กวาดชัยชนะเหนือ “กมลา แฮร์ริส” คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตครานี้

ปัจจุบันปริมาณสำรองก๊าซของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องจนเข้าขั้นวิกฤต ส่งผลให้ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ในราคาที่ผันผวนเพิ่มมากขึ้น มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นของประชาชนและรายได้งบประมาณของรัฐลดลง

คงต้องพูดกันอีกนานครับ… เรื่องเกาะกูด ที่รัฐบาลนั่งยัน นอนยันว่า เกาะกูด เป็นของไทย ส่วนกัมพูชาเอง ก็รับรู้ว่าเป็นของไทยมาตลอด มันก็จริงครับ

เจ้าตัวจะยืดอกยอมรับรึไม่..ไม่รู้! รู้แต่..ประโยค “ผมเชื่อว่าสังคมไทยมีประสบการณ์ อ่านขาดว่าเรื่องนี้คือการเมืองของฝ่ายขวาสุดขอบ ซึ่งรัฐบาลยังต้องรับมืออีกหลายขนาน” ของคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ช่วงปลายๆเดือนตุลาคมคงเคยเห็นการออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการตายของพะยูนไทยบ้างแล้ว เพราะไม่มีหญ้าทะเลเป็นอาหารให้เจ้าพะยูนน้อย เนื่องมาจากภาวะโลกร้อนทำอุณหภูมิน้ำทะเลร้อนจี๋ จนทำให้หญ้าทะเลตาย เหลือแต่ซาก