ช่วงนี้การเมืองไทยยิ่งร้อนแรงมากขึ้น เพราะเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้ขึ้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้ 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยการขึ้นเป็นแกนนำของพรรคเพื่อไทยนั้นย่อมมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะเรื่องที่คุยกับพรรครัฐบาลเดิม อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นต้น

เตรียมเข้าสู่โหมดพักผ่อนอย่างเต็มตัวแล้ว สำหรับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ขณะนี้วางมือทางการเมืองในหมวกของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าตัวยืนยันจะไม่อยู่เบื้องหลังใดๆทั้งสิ้น และตอนเหลือเพียงโหมดนายกรัฐมนตรีรักษาการ

เป็น 1 ในความหวังของพรรคพลังประชารัฐตอนเลือกตั้งว่า จะรักษาฐานที่มั่น จ.นครศรีธรรมราช ในเขตที่เป็นแชมป์เก่าเอาไว้ให้ได้

ในช่วงที่พรรคอันดับหนึ่ง ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ และเงื่อนไขก็อาจตกมาเป็นพรรคอันดับสอง จัดตั้งรัฐบาลแทน

ว่าด้วยการโหวตนายกรัฐมนตรี วันนี้(19 ก.ค.) ลงมติเป็นครั้งที่สอง 8พรรคร่วมรัฐบาลยังคงมีมติเสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ แต่ดูเหมือนว่าจะกินแห้วอีกแล้ว เพราะสว. ยังคงผนึกเหนียวแน่นไม่เห็นชอบ “พิธา” เป็นนายกฯ

ช่วงนี้ทั้งการเลือกนายกรัฐมนตรี การจัดตั้งรัฐบาลเป็นช่วงที่อยู่ในระยะที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ที่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันกลุ่มแฟนคลับมีอิทธิพลสูง ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ที่มีกลุ่มแฟนคลับเรียกตัวเองว่า “แดงเพื่อไทย”

จัดยิ่งใหญ่อีกครั้งสำหรับวันครบรอบวันเกิด 49 ปีของ เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

“เดอะเจมส์” อนุชา บูรพชัยศรี ลุกจากเก้าอี้รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกไปเป็น ส.ส.เรียบร้อย หลัง “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 สละสิทธิ์

การประกาศวางมือทางการเมือง ของ “บิ๊กตู่” พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ครองอำนาจมา9 ปี ยอมรับว่าได้บริหารประเทศก่อประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ถูกมองว่าเป็นเงื่อนไขความขัดแย้ง

“รัฐสภา” เปิดเทอมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว สารพัดเรื่องราวทั้งความสนุกสนานและความโกลาหลก็เกิดขึ้น