จุดยืนของอเมริกากับรัสเซียต่อสงครามอิสราเอล-ฮามาสค่อนชัดเจนว่ายืนอยู่คนละข้างโดยสิ้นเชิง

พอสงครามอิสราเอล-ฮามาสระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา การเมืองภายในของอิสราเอลก็จำเป็นต้องปรับตัวครั้งสำคัญ

สงครามอิสราเอล-ฮามาสเข้าสู่วันที่ 31 วันนี้…ยอดคนตายในฉนวนกาซาล่าสุดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทะลุ 9,000 ไปมาก…และยูเอ็นบอกว่า 62% เป็นผู้หญิงและเด็ก

มีคำถามที่น่าสนใจในการเกาะติดข่าวคราวสงครามอิสราเอลกับฮามาส ว่าไฉนประเทศเล็กๆ แต่ร่ำรวยอย่างกาตาร์ จึงกลายเป็น “ผู้ไกล่เกลี่ย” ที่มีบทบาทสำคัญในการหาทางลดความรุนแรงของสงคราม

ข่าวคราวเรื่องสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสเอ่ยถึง “ฉนวนกาซา” ตลอดเวลา เพราะนี่คือดินแดนที่กลายเป็นสมรภูมิที่กำลังร้อนแรงที่สุด

หนึ่งในความ “มหัศจรรย์” ของสงครามอิสราเอล-ฮามาสคือ “เครือข่ายอุโมงค์ใต้ดิน” ที่ฉนวนกาซา

ถึงวันนี้ ทุกอย่างเกี่ยวกับ “เรือดำน้ำจีน” ก็ยังคลุมเครือ ไม่มีความคืบหน้าที่จะแจ้งกับสาธารณชนได้โดยที่ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง

เมื่อคลังปรับลดคาดการณ์อัตราโตเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือ 2.7% และคาดว่าปีนี้จะโตประมาณ 3.2% สิ่งที่รัฐบาลเศรษฐาจะต้องบอกกล่าวกับประชาชนคือจะมีแผนการปรับตัวอย่างไรกับสถานการณ์ความผันผวนในระดับโลกและภายในประเทศ

นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน, กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพไทยมีเหตุที่จะต้องออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้คนไทยในอิสราเอล “เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด”

เมื่อวานเขียนถึงยุทธศาสตร์ของเวียดนามในความพยายาม “ถ่วงดุลอำนาจ” ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตนมากที่สุด