4 มี.ค. 2565- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ คุปติมนัส เลขานุการบริษัท บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน ) ส่งหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องมติที่ประชุมคณะกรรมการ มีมติเห็นชอบซื้อที่ดินบริเวณถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร จากผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัท จึงเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยจะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ธุรกรรมนี้ไม่เข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกํากับตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทํารายการที่มีนัยสําคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547(“ประกาศเรื่องการได้มาหรือจําหน่ายไป”) เนื่องจากเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์เพื่อการดําเนินธุรกิจปกติของกิจการซึ่งเข้าหลักเกณฑ์ยกเว้นตามประกาศดังกล่าว
พร้อมกันนี้เห็นชอบให้เสนอเพิ่มเติมวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจําปี 2565 ในวันที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 14.00 นาฬิกา โดยขอบรรจุวาระ “อนุมัติซื้อที่ดินบริเวณถนนเทียมร่วมมิตรเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท
สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าว คาดว่าจะมีซื้อขาย ระหว่าง บมจ. เอสซี แอสเสท กับ ผู้ขาย นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ โดยคาดว่าจะทำการซื้อขายในช่วงเดือน พ.ค. 2565 หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติ
โดยที่ดินบริเวณถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร มีจำนวน 2 แปลง ได้แก่ 1.เนื้อที่ดิน 1 ไร่ 3 งาน 61 ตารางวา และ 2.เนื้อที่ดิน 3 ไร่ 3 งาน 80 ตารางวา รวม 5 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา หรือราว 2,341 ตารางวา ซึ่งเจ้าของที่ดิน คือ นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SC โดยราคาซื้อขายจะอยู่ที่ 310,000 บาท/ตารางวา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 725,710,000 บาทเพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย
โดยมีกำหนดการดังนี้
1.สัญญาจะซื้อจะขาย และชำระเงินค่าที่ดินกำหนดลงนามสัญญาจะซื้อจะขายภายในวันที่ 29 เมษายน 2565 พร้อมชำระเงินมัดจำเป็นจำนวนเงิน 72,571,000 บาท
2.โอนกรรมสิทธิ์ กำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 พร้อมชำระเงินค่าที่ดินส่วนที่เหลือจำนวน 653,139,000 บาท โดยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการโอนกรรมสิทธิ์ผู้ขายเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
ทั้งนี้ การซื้อที่ดินบริเวณถนนเทียมร่วมมิตร สอดรับกับแผนการลงทุนของ SC ที่ประกาศยุทธศาสตร์ 4 ปี (2565-2568) ตั้งเป้ารายได้ 1 แสนล้านบาท
โดยในปีนี้จะเริ่มเปิดโครงการใหม่สูงถึง 27 โครงการ มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้าน 25 โครงการ ในสัดส่วน 70% และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ คิดเป็นสัดส่วน 30% และคาดหวังรายได้ในปี 2565 อยู่ที่ 22,000 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลรับฟ้อง 'บิ๊กป้อม' ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 'สิระ' เรียก 50 ล้าน
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร.ได้มอบอำนาจให้ตน ให้ทนายความ ฟ้อง
นายกฯ อิ๊งค์บอกข่าวดี! เมียนมาจะปล่อย 4 คนไทยหลังปีใหม่
นายกฯ เผยข่าวดีปม 4 คนไทยเรียบร้อยหลังปีใหม่ ส่วนเรื่องคดีความต้องคุยกันต่อ
'ตั้ม' หยาม 'เต้น' แยกก๊กการเมือง ยันมี 2 ก๊ก ความยุติธรรม กับ ระบอบชินวัตร
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า มองการเมือง 3 ก๊ก จริงหรือ
อย่าวางใจ 'หัวเขียง-เพื่อไทย' ถอนร่างกฎหมายยึดอำนาจกองทัพ
แม้ดูแนวโน้มแล้ว นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ จากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสที่จะถอนร่าง กฏหมายยึดอำนาจกองทั
ดร.เสรี ลั่นรังเกียจ วาทกรรมแซะสถาบัน
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า เกิดวาทกรรมใหม่ "ใบอนุญาตที่ 2"
'อดีตบิ๊กทอ.' ซัดนักการเมืองถูกจับไต๋ได้ว่าต้องการควบคุมกองทัพเพื่อประโยชน์และล้างแค้น
พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ อดีตนักวิชาการวิทยากร ร.ร.เสนาธิการทหาร -ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า