26 ก.พ.2565 - นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งเคยประกาศว่าแกนนำ 4 คนประกอบด้วยนายภาณุพงศ์ จาดนอก , นายอานนท์ นำภา , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา จะไม่ยื่นขอประกันตัวอีก ขณะนี้เหลือเพียงนายอานนท์ที่ยังอยู่ในเรือนจำ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า พี่น้องราษฎรที่เคารพ หลังจากได้นอนพักผ่อนกายใจเมื่อวานนี้ ผมรู้สึกว่าผมยังติดค้างคำขอบคุณสำหรับน้ำใจของพี่น้องทุกท่านในช่วงครึ่งปีทรหดที่ผ่านมานี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ผมต้องเผชิญกับเรื่องราว อารมณ์ ความรู้สึก และความยากลำบากหลายอย่าง หากผมไม่ได้รับความช่วยเหลือ การสนับสนุน และกำลังใจจากพี่น้องทุกท่าน ผมคงไม่สามารถผ่านมันมาได้
ร่วมเจ็ดเดือนที่ไม่มีอิสรภาพ และถูกบีบคั้นจากทุกทาง กำลังใจคือสิ่งที่สำคัญ ซึ่งพี่น้องทุกท่านได้เติมให้ผมเรื่อย ๆ ทั้งจากที่พี่น้องออกมาชุมนุมในครั้งต่าง ๆ จนผมได้ทราบข่าวคราว ทั้งจากที่พี่น้องร่วมกันลงชื่อเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ทั้งจากพี่น้องที่เขียนจดหมายมาถึงผม บางท่านเขียนถึงผมมาหลายฉบับ ผมรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้อ่าน และที่สำคัญ การเคลื่อนไหวของพี่น้องมวลชนยืนหยุดขัง ทุกครั้งที่ผมนั่งรถจากศาลกลับมาเรือนจำผ่านมาเห็นพี่น้องยืนทำกิจกรรมที่หน้าเรือนจำ หัวใจของผมจะชื่นฉ่ำขึ้นมาอีกครั้ง และทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงพลุจากหน้าเรือนจำ หัวใจของผมก็ฟูไปตามเสียงพลุเช่นกัน กระทั่งวันท้าย ๆ แห่งการจองจำ การระดมทุนประกันตัวก็ส่งผลต่อกำลังใจของผมมาก ผมต้องขอขอบคุณพี่น้องมวลชนทุกท่าน ณ ที่นี้
นอกจากนี้ผมยังต้องขอขอบคุณทีมงานทนายความที่คอยช่วยดำเนินงานด้านคดีความต่าง ๆ รวมถึงดูแลสวัสดิภาพในเรือนจำของผม และขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ช่วยเหลือผมเรื่องหนังสืออ่านและเอกสารประกันตัว โดยเฉพาะในครั้งล่าสุดนี้ที่ทางมหาวิทยาลัยได้อนุเคราะห์เอกสารให้ผมในเวลาอันรวดเร็ว ต้องขอขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่งครับ
ที่สำคัญ สหายร่วมอุดมการณ์ร่วมชะตากรรมในเรือนจำได้ช่วยประคับประคองซึ่งกันและกันให้ผมฝ่าฟันออกมาได้ถึงวันสุดท้าย ทั้งพี่ไผ่ พี่ไมค์ ที่ได้ประกันออกมาก่อนหน้านี้ และพี่อานนท์ พี่อาทิตย์ พี่อาร์ต ที่ยังอยู่ข้างใน ผมอยากให้ทุกคนได้ออกมาใช้ชีวิตที่มีอิสรภาพและความเป็นมนุษย์ด้วยกันข้างนอกนี้ โดยเฉพาะพี่อานนท์ซึ่งเราต่างรู้ว่าเป็นคนที่มีอุดมการณ์มั่นคง เด็ดเดี่ยวมากที่สุดคนหนึ่ง ผมเองอยากให้พี่อานนท์ยื่นประกันตัวออกมา อย่างน้อย ๆ ให้พี่ได้ออกมาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวที่พี่คิดถึง ได้พักกายพักใจใคร่ครวญสิ่งสำคัญ ๆ และจะได้มาช่วยกันดูคดีความที่กำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ ในตอนนี้ เราทุกคนคิดถึงพี่และอยากให้พี่ได้รับอิสรภาพและความเป็นมนุษย์คืนมา ออกมาพิสูจน์ด้วยกันว่าสิ่งที่เราสู้มันเป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องบิดเบือนอย่างที่เขากล่าวหายัดเยียดเรา
สุดท้าย ผมขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง ผมก็ยังคงเป็นผม และความจริงก็ยังคงเป็นความจริง เรายังไม่ยอมย่อมไม่แพ้ และความเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นสิ่งจีรัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พรรคส้ม’ไร้เพื่อน คุยลั่นมาตรฐานสูง
เห็นโฉมหน้ารัฐบาลต่อไปรำไร "อนุทิน" ย้ำห้ามแตะนิรโทษกรรม ม.112
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน
ป.ป.ช. เลื่อนชี้ขาดคดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล หลังยื่นขอความเป็นธรรม
นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าวคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่จะนัดลงมติคดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกล ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ไต่สวนเสร็จแล้ว! คดี 44 อดีตสส.ก้าวไกล รอลุ้น ประธาน ป.ป.ช. ชงชี้ชะตา 25 ธ.ค.นี้
ป.ป.ช. บรรจุวาระประชุมพิจารณา คดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ในการร่วมลงชื่อ และยื่นเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเดิมคาดว่าจะมีการบรรจุวาระในวันที่ 25 ธ.ค.นั้น
อีกราย! คุก 20 ปีอดีตทีมงานก้าวหน้าหมิ่นสถาบันพร้อมออกหมายจับ
ศาลพิพากษาจำคุก โจ้ พฤทธิกร อดีตทีมงานก้าวหน้า 20 ปี โพสต์ข้อความดูหมิ่นสถาบันกว่า 10 ครั้ง ด้านเจ้าตัวหลบหนีพิพากษาลับหลังก่อนออกหมายจับ

