เสวนา 30 ปีพฤษภา 35 "ปริญญา" ชี้ทหาร-นักการเมือง-นักธุรกิจ เป็นตัวแปรเกิดรัฐประหาร เผยตั้งแต่เหตุการณ์ปี 49 ทำให้การเมืองกระทบสถาบัน "จตุพร" ชี้ประชาชนชอบน้ำเน่ามากกว่าน้ำดี ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงป้องกันรัฐประหารไม่ได้ โอดซื้อเสียงมโหฬาร กกต.จับใครไม่ได้ "ไอติม" เผย รธน.60 เลวร้ายกว่า 34 จี้กองทัพอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน
23 ก.พ.2565 - คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ (ประสานมิตร) จัดงานเสวนา"ถอดบทเรียนการรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ จากรสช.ถึง 17 พฤษภาคม 2535 บทบาททหารกับการเมืองไทย" โดยนายนายปริญญา เทวานฤมิตกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ความจริงแล้วการรัฐประหารในปี 2535 ควรจบและเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็เกิด 19 ก.ย.2549 และ 22 พ.ค.2557 และจะมีครั้งต่อไปหรือไม่ พอกันทีกับการรัฐประหาร อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้บอกเฉพาะทหาร แต่บอกฝ่ายการเมืองด้วย ทั้งนี้จะโทษทหาร หรือนักการเมืองอย่างเดียวด้วย นักธุรกิจจำนวนมากชอบยัดเงินใต้โต๊ะเพื่อให้ตัวเองได้โครงการ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดรัฐประหาร ทุกฝ่ายต้องร่วมกัน ประชาชนควรสรุปบทเรียนว่าควรพอได้แล้ว
"ไม่มีใครกล้าพูดว่าจะเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่ หลังจากพฤษภา 35 ก็เกิดการเสียเลือดเสียเนื้ออีกหลายครั้ง ถ้าหากวันนี้เราได้ประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชน ประชาธิปไตยที่มีการตรวจสอบ โปร่งใส นายกฯต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน การใช้อำนาจของรัฐบาลอยู่เหนือตำรวจจนเกิดปัญหามากมาย เรื่องพวกนี้ถ้าหากไม่มีเลย มีประชาธิปไตยที่โปร่งใส คนในสังคมเห็นจะต่างแต่ไม่แตกแยก และไม่เลยเถิดมาจนกระทบถึงสถาบัน เรียนว่าตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 เป็นต้นมา เราทำให้ปัญหาการเมืองกระทบถึงสถาบัน" นายปริญญา กล่าว
นายปริญญา กล่าวอีกว่า จากนี้ไปเราจะกลับไปสู่ประชาธิปไตยก็ยังไม่ง่าย อย่างน้อยจนกว่าสว.ชุดนี้จะหมดวาระในปี 2567 รัฐธรรมนูญฉบับนี้แย่ยิ่งกว่าปี 2534 หลายเท่า เนื่องจากปี 2534 สว.เลือกนายกฯไม่ได้ อิทธิฤทธิ์ของสว.มีน้อยมาก ส่วนองค์กรอิสระขณะนั้นยังไม่เกิด การสืบทอดอำนาจมีไม่มาก ทั้งนี้กลไกสืบทอดอำนาจผ่านสว.สามารถไปเลือกถึงนายกฯและองค์กรอิสระ ทั้งนี้การรัฐประหารไม่ได้แก้ปัญหา เราเห็นต่างขัดแย้งกันต้องว่าด้วยตามกติกา ไม่ใช่เชิญทหารมาปฏิวัติ ทั้งนี้การปฏิวัติตลอด 90 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีการปฏิวัติครั้งใดแล้วได้มาซึ่งประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญที่ดีขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว จึงต้องช่วยกันให้การปฏิวัติหมดไป
"นายกฯท่านจำได้หรือไม่ว่าสัญญากับประชาชนไว้ 2 ครั้ง ครั้งแรก 22 พ.ค.2557 บอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน ความสุขจะกลับคืนมา ผมไม่ทราบว่าความสุขที่จะกลับคืนวันนี้คืออะไร เรามีแต่สังคมที่เหลื่อมล้ำมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยจากเดิมเหลื่อมล้ำอันดับ 10 ของโลกก่อนปฏิวัติ ตอนนี้อยู่ในอันดับ 1 ของโลก ยิ่งปฏิวัติเจ้าสัวยิ่งรวยขึ้น ยิ่งแตกแยก แต่เดิมเราไม่ได้แตกแยกขนาดนี้มีแค่เสื้อเหลืองเสื้อแดง แต่ไม่กระทบถึงสถาบันหลักของชาติ สัญญาที่ 2 เมื่อ5 ส.ค.2559 ก่อนการลงประชามติ 2 วันท่านบอกว่าให้รับร่างรัฐธรรมนูญ แล้วท่านจะไม่สืบทอดอำนาจ แล้วตอนนี้เป็นอย่างไร ถ้าจะชวนใครพูดเป็นคนแรกว่าหยุดปฏิวัติเถอะ ก็อยากชวนนายกฯ กรุณาช่วยบอกรุ่นน้องของท่านในกองทัพได้ไหมว่าเลิกทำเถอะ แล้วกองทัพช่วยพูดชัดๆได้ไหมว่าจากนี้ไปรัฐประหารไม่ทำแล้ว สัญญาได้ไหม"นายปริญญา กล่าวและว่า โทษการล้มล้างรัฐธรรมนูญร้ายแรงสุดคือประหารชีวิต แต่เรากลับทำมาได้ 13 ครั้ง เพราะฝ่ายตุลาการยอมรับการรัฐประหาร เรียนว่าประเทศไทยต้องจริงจังกับการบังคับใช้โทษตามมาตรา 113 ซึ่งร้ายแรงกว่ามาก
นายปริญญา ยังกล่าวอีกว่าสันติภาพ และความยุติธรรมคือพื้นฐานของทุกสังคมซึ่งไม่มีทางเกิดได้ด้วยการปฏิวัติ มีแต่ประชาธิปไตยและความโปร่งใสเท่านั้นที่จะเกิดสันติภาพ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำนปช. กล่าวว่า ความจริง พฤษภา 35 ทหารเข็ดหลาบยาวมากถึง14 ปี ก่อนที่จะทำรัฐประหารปี 2535 อย่างไรก็ตามนักเลือกตั้ง และประชาชนไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่มีวันที่จะป้องกันการเกิดรัฐประหารได้ วันนี้เลือกตั้งทุกระดับหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา มีการซื้อเสียงทั้งระดับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ.เทศบาล และส.ส. ทุกคนรู้หมด มีกลุ่มเดียวที่ไม่รู้คือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะกกต.ไม่เคยจับใครได้เรื่องการซื้อเสียงเลย ตา หู จมูก ไม่สามารถรับรู้ได้ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการใช้เงินกันอย่างมโหฬาร เป็นการซื้อแข่งกัน และถอนทุนกับประเทศนี้แข่งกัน ท้ายที่สุดก็เวียนไปสู่การรัฐประหาร ทุกวันนี้นักการเมืองได้ประโยชน์ ไปปล้นแล้วมีคนคุ้มครอง องค์กรอิสระเอาผิดไม่ได้ กลไกปัจจุบันสามารถจับรัฐบาลก่อนหน้าได้ แต่รัฐบาลปัจจุบันจับไม่ได้ เป็นเวลาที่นักเลือกตั้งเรืองอำนาจที่สุด 30 ปีที่ผ่านมาประเทศนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน 90ปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เราไม่เคยได้ประชาธิปไตยจริงๆแม้กระทั่งวันเดียว
"คนไทยไม่ชอบน้ำดี ละครน้ำดีคนไม่ดู คนไทยชอบน้ำเน่า เพราะฉะนั้นระบบการเมืองไทยจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มีทหาร นักการเมือง ที่เป็นคนเดิมหรือเปลี่ยนคน บ้านเมืองเราเปลี่ยนแปลงกันยากตราบใดคนไทยไม่เปลี่ยน คนไทยตัดสินใจอะไรก็ได้เราจึงได้นักการเมืองแบบนี้ เมื่อได้นักการเมืองแบบนี้เราจึงได้คณะรัฐประหารแบบนี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้คนไทยอยู่ในวังวนน้ำเน่า ถ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงเราก็จะเปลี่ยนแปลงนักการเมือง และผู้ปกครองได้"นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า เราเรียกร้องให้นายกฯลาออก เขาก็ไม่ลาออก เพราะฉะนั้นตนเชื่อว่าจุดร่วมที่กำลังจะเกิดขึ้นเรื่องชาติบ้านเมือง ที่ทุกฝ่ายไม่ว่าชอบกันหรือเกลียดกัน ให้มีจุดร่วมตรงกลาง และครุ่นคิดมา จะนำพาไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ เชื่อว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดในปี 2565 ถ้าเกิดจะนำไปสู่การเปลี้ยนแปลง และนับหนึ่งประเทศไทยกันใหม่ มิฉะนั้นเราจะกลายไปเป็นประเทศที่ล้าหลัง
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า กล่าวว่า วิวัฒนาการประชาธิปไตยตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าถ้าตนอยู่ในเหตุการณ์ว่าจะคาดหวังว่านาฬิกาประชาธิปไตยมันไม่เดินถอยหลังอีกแล้ว แต่จากการวิเคราะห์เมื่อเทียบปัจจุบันแล้ว นอกจากจะหยุดเดินแล้ว ยังเดินถอยหลังด้วยซ้ำ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับสสร. หลายคนคิดว่าคงเป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่มีความเป็นประชาธิไตยที่ใกล้เคียง และสมบูรณ์ที่สุด แต่พอผ่านไป 30 ปี รัฐธรรมนูญฉบับนั้นถูกฉีก และรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่เลวร้ายกว่าปี 2534 นั้นคือการสืบทอดอำนาจ แม้จะมีการทำประชามติ แต่ก็ไม่ได้เป็นมาตรฐานประชาธิปไตย ไม่ว่าการบีบให้รับร่างแล้วจะได้เลือกตั้งเร็ว กับไม่รับแล้วเลือกตั้งช้า แน่จริงทำไมเราไม่เลือกรัฐธรรมนูญหลายฉบับให้ประชาชนเลือก ตนมองว่าการจะทำประชามติปี 2559 ไม่ได้ทำให้รัฐธรรมนูญปี 2560 มีความชอบธรรม
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่รัฐธรรมนูญปี 2560 เลวร้ายกว่าปี2534 มี 3 กลไก 1.คุณสมบัตินายกฯ ปี 2534 นายกฯไม่ต้องเป็นส.ส. ส่วนปี 2560 ยังกลไกนี้เหมือนกัน โดยมีการเปิดช่องนายกฯคนนอกอยู่ 2 รูปแบบคือนอกสภาเป็นแคนดิเดทในวันเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เป็นส.ส.ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยการเปิดช่องนายกฯคนนอก เพราฉะนั้นกลไกการสืบทอดอำนาจยังมีอยู่ และนอกบัญชีคือคนที่ประชาชนไม่รู้ชื่อในวันเลือกตั้ง 2.ที่มา ซึ่งเหมือนกันคือ สว.ถูกแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร แต่อำนาจสว.ปี2560 มีมากกว่า สามารถเลือกองค์อิสระได้ และ3.กลไกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งเป็นอาวุธลับที่คสช.ยังไม่งัดมาใช้เพราะมีการเขียนไว้ว่าถ้ารัฐบาลไหนทำไม่ตรงกับสิ่งที่เขียนไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ สามารถถูกขับออกจากตำแหน่งได้
นายพริษฐ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนมีวิธีแก้คือวัคซีนรัฐธรรมนูญ 2 เข็ม เข็มแรกคือการแก้รายมาตรา ดูว่ามาตราไหนที่มีปัญหา ตนเสนอว่าควรมีการรีเซ็ตการแต่งตั้งตุลาการ และองค์กรอิสระ และสิทธิการประกันตัวในกระบวนการยุติธรรมให้มากขึ้น เข็มสองร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยต้องมีสสร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด และจำเป็นให้สสร.สามานถแก้ไขได้ทุกหมวด ทุกมาตรา ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง
ส่วนบทบาททหารในการเมือง มีการแทรกแทรงทางการเมืองในรูปแบบอื่นมีการขยายบทบาทของกองทัพอย่างเรื่อยๆ มีการแทรกซึมในระบบราชการ กฎหมาย หรือธุรกิจ ถ้าต้องการให้ทหารไม่เข้ามาแทรกแทรงการเมืองทุกรูปแบบ การป้องกันไม่พอ ต้องปฏิรูปกองทัพ ตนมีข้อเสนอ 4 ท.คือ 1.ประชาชนเท่าทันกองทัพ ให้กองทัพอยู่ภายใต้ทิศทางรัฐบาลพลเรือน นั่นคือการป้องกันการรัฐประหาร 2.กองทัพเท่าทันโลก ปรับให้เท่าทันกับภัยคุดคามความมั่นคงกับยุคสมัยใหม่ 3.ทหารเท่ากับคน 4.ทหารทุกคนมีสิทธิเท่ากัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง
ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง
'จตุพร' ให้จับตา '22พ.ย.' จุดเปลี่ยนการเมืองไทย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า วันที่ 22 พ.ย.นี้จะเป็นปฐมบทของคนรักชาติได้ห
'นิพิฏฐ์' เผยคนที่เรียกว่า 'ทนายความ' อาจชั่วกว่า 'นักการเมือง' เสียอีก
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความว่า ผมเป็นเพียงคนๆหนึ่งคนที่เดินแทรกตัวอยู่ท่ามกลางคน 66,052,6
พิราบขาว ตามจิกทักษิณ ยกปราศรัยหาเสียงที่อุดร หลักฐานมัดครอบงำเพื่อไทย
ที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อกกต.กรณีคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 36): ‘กรมขุนชัยนาทนเรนทร’ ทรงตกเป็นเหยื่อการเมืองของหลวงพิบูลสงคราม ? ”
รัฐธรรมนูญไทยฉบับที่ 4 คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490