'อดีตบิ๊กศรภ.' เผยมุมมองผู้ปกครองเด็กสาธิตธรรมศาสตร์ มีทั้งดีและไม่ดี

'พล.ท.นันทเดช' เผยมุมมองผู้ปกครองเด็กสาธิตธรรมศาสตร์ มีทั้งดีและไม่ดี ย้อนถามเมื่อเด็กโตขึ้นจะให้อิสระที่มีขอบเขตอย่างไร โรงเรียนอื่นควรเอาระบบการเรียนการสอนที่สาธิตมธ.มาคิดดูในเรื่องดีๆซึ่งมีอยู่เช่นกัน เตือนอย่าเอาเด็กมาเป็นหนูทดลอง

23 ก.พ.2565 - พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ(ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง 'สาธิต มธ.'มีเนื้อหาดังนี้

วันนี้บังเอิญได้ไปคุยกับผู้ปกครองเด็กสาธิตธรรมศาสตร์ 2 คน เข้าพอดี ก็เลยถามเค้าว่า ลูก กับ หลาน เป็นอย่างไรบ้าง เพราะเห็นมีข่าวทางหนังสือพิมพ์ เค้าตอบว่า “ต้องแล้วแต่เวร แต่กรรม” ก็เลยสงสัยว่ามันเป็นอย่างไร ถึงคิดแบบนั้น เค้าตอบว่า มันมีทั้งดีและไม่ดี เกิดขึ้นพร้อมๆกัน

เรื่องที่ดีลูกกล้าพูดกล้าคุยมากขึ้น แต่ก็กล้าไปทุกอย่าง รู้อะไรมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องท่ีไม่ควรรู้ ในวัยนี้
ผมก็บอกว่า โลกมันไปไกลแล้ว จะให้เด็กเรียนแบบ รุ่นพ่อรุ่นแม่ คงไม่ได้มั้ง

พ่อคนหนึ่งกับยายคนหนึ่งของเด็กก็ตอบผมว่า เค้าก็รู้ แต่กลัวว่าพอไปอยู่มหาวิทยาลัยจะหนักกว่านี้ เพราะเครื่องแบบไม่มี บางกลุ่มเลิกเรียนมักไปมัวสุมกันท่ีศูนย์การค้าสบายกันไปเลย ผมจะไว้ทรงอะไรก็ได้ นุ่งกางเกงขาสั้นก็ได้ ย้อมสีผมได้ด้วย ผมว่าอันนี้น่าจะมากไป

พวกเค้าบอกต่อว่าไม่มีสวดมนต์ตอนเช้า ขนาดโรงเรียนคริสต์ยังให้เด็กพุทธ สวดมนต์เลย เพราะมันจะทำให้เด็กมีจิตสำนึกในทางท่ีดีเกิดขึ้นมาเมื่อทำอยู่ประจำ แถมยังไม่มีเข้าแถวร้องเพลงชาติอีก เรื่องนี้ทำให้เด็กขาดระเบียบ วินัย ทำอะไรเอาแต่ใจตัวเอง จนขาดความรอบคอบเป็นนิสัยติดตัวไป

ผมเห็นด้วย แต่ก็ค้านไปว่า โรงเรียนน่าจะมีอะไรมาทดแทน พ่อกับยายเด็ก บอกว่า กลัวจะไปเหมือนรุ่นพี่ๆ ท่ีเป็นข่าวทางไลน์อยู่ในขณะนี้ ผมบอกว่ามันมีอยู่ไม่กี่สิบคน เด็กดีๆมีมากว่าแยะ อย่าไปวิตกเลย

นอกจากนั้น ยังบอกอีกว่า สิ่งท่ีมาแทนการเข้าแถวหน้าเสาธง คือ มีรวมกลุ่มก่อนเข้าเรียน ” ครูมักจะถามว่าไปทำอะไรกันบ้างเมื่อกลับบ้าน เป็นหัวข้อหลัก ฯลฯ มันสอนให้เด็กหัดโกหก แล้วไปหัวเราะลับหลังครู “ โดยไม่ได้อะไรกลับมา ผมก็เลยแกล้งบอกว่า “เด็กไม่กะล่อนอยู่ยากนะในอนาคต เห็นตัวอย่างนักการเมืองไหม ส่วนใหญ่เรียนพอเอาตัวรอดทั้งนั้น” เลยโดนพวกเค้าอัดกลับว่าเป็นเพราะผม และภรรยาจบธรรมศาสตร์มาซิ ถึงพูดแบบนี้
ผมรีบปฎิเสธทันทีว่า เมื่อ 10 ปีท่ีแล้ว วันธรรมศาสตร์แย่งกันมาแทบเป็นแทบตาย ตอนนี้ต้องไปอ้อนวอนกันมา
มันต่างกันแยะ ขนาดที่ต่างประเทศชมรมธรรมศาสตร์ยังยกเลิกไปเลยก็มี

ทั้ง 2 คนเลยยิ้มออก คุยต่อไปได้ว่า นอกจากนั้น ยังมีเด็กมีขาใหญ่ประจำโรงเรียนอีกด้วย ครูก็รู้ ผมบอกว่าเรื่องนี้
มีเกือบทุกโรงเรียนครับ เป็นเรื่องใหญ่ของกระทรวง ศธ.จะต้องเข้ามาจัดการ ไม่เช่นนั้น เด็กติดยาจะเพิ่มมากขึ้น เด็กคนไหนไม่ใช้ยาเสพย์ติดก็ต้องจ่ายตังค์ให้พวกนี้ ไม่งั้นออกมานอกโรงเรียนมักจะมีนักเลงมาทำร้ายร่างกายสั่งสอน ฯลฯ

เนตรนารีและลูกเสือก็ไม่ต้องเรียนด้วย เรื่องนี้ผมว่าเห็นด้วย แต่ต้องให้อิสระเด็ก เลือกเรียนได้ไม่ใช่ยกเลิกไปเลย วิชาบางเรื่องก็ดี เช่น เรื่องผูกเงื่อน มันเป็นเรื่องของกระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา มันอาจต้องใช้เค้าสักวันเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ แม้ว่าจะมีหนังสติ้กมาแทนแล้วก็ตาม

ผมจึงถามว่าแล้วทำไมถึงให้ลูกไปสมัครเรียนละ คนเป็นยายบอก มันอยู่ใกล้บ้าน และก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ส่วนคนเป็นพ่อบอก ลูกรบเร้าจะไปเรียน ค่าเล่าเรียนก็ไม่แพงปีละประมาณแสนกว่าๆเท่านั้น ผมบอกว่าพวกคุณมีตังค์ ดังนั้นอย่าบ่น พวกเค้าเถียงว่าเข้าโรงเรียนหลวงดีๆ ค่าแป๊ะเจี๊ยะ ไม่ต่ำกว่า 5 แสน ผมบอกว่าเป็นเรื่องที่เก็บครั้งเดียว แล้วก็เรียนได้ตลอดไป

ผู้ปกครองทั้ง 2 คน ก็บ่นไปอีกระยะหนึ่ง ถึงตัวบุคคลหลายคน แต่ก็ไม่กล้าไปพูดที่โรงเรียนกลัวลูกกลับมาว่าเอา เพราะไม่มีความลับครูจะมาเล่าให้เด็กคนอื่นๆฟังด้วย

เรื่องนี้ก็ฟังหูไว้หูครับ ให้อนาคตเป็นตัวบ่งบอกเอง ว่ามันจริง หรือไม่จริง เพราะตอนนี้ก็เพิ่งผ่านไป 2 รุ่นเท่านั้นเอง และผมก็ยังเชื่อว่าเด็กส่วนใหญ่ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น ถ้าพ่อแม่ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด คอยชี้แนะว่าอะไรควรมิควรไว้บ้าง อย่างย้อมผมสีเขียว แบบนี้ควรจะห้ามเด็กเอง อย่าไปโทษโรงเรียน ไม่ได้แน่

อย่างไรก็ตามผมว่า ทางโรงเรียน สาธิต มธ.ก็ต้องคิดให้ดี และ รอบคอบมากขึ้นว่า เมื่อเด็กโตขึ้นกว่านี้ จะให้อิสระที่มีขอบเขตอย่างไร ในขณะเดียวกัน โรงเรียนอื่นก็ควรจะต้องเอาระบบการเรียนการสอนที่สาธิต มธ.มาคิดดูในเรื่องดีๆซึ่งก็มีอยู่เช่นกัน

“สุดท้ายผมขอฝากว่า อย่าเอาเด็กมาเป็นหนูทดลอง ตอบสนองความเชื่อมั่นของตัวเองนะครับ ดังนั้นอย่าโลดโผนเกินไป จนลืมวัฒนธรรมประเพณีไทยที่ดีงามไปทั้งหมด” ในขณะที่หลายประเทศ ที่พวกคุณไปลอกวิธีเรียนของเค้ามาชื่นชมนั้น ก็ต้องดูด้วยว่า แบบนั้นมันสอดคล้องกับภูมิ-วัฒนธรรม และสภาพสังคมของเขา แต่กับของประเทศเรา เป็นแบบไหนดีที่พอจะคงอัตตลักษณ์ของความเป็นไทยไว้บ้าง การลอกมาใช้ทั้งดุ้นจะดีและเหมาะสมหรือไม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุ้ย! อดีตบิ๊กศรภ. บอกแบ่งงบซอฟต์พาวเวอร์แจก ’หมูเด้ง’ บ้าง จะได้มีผลงาน

อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ แนะนำเงิน Soft power จำนวนมหึมา ของนายก อุ๊งอิ๊ง นั้นควรแบ่งมาแจกให้ 'น้องหมูเด้ง'

'นายกฯอิ๊งค์' อยู่ได้เกิน 6 เดือนไหม! ขึ้นอยู่กับ 2 ทางรอด

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อุ๊งอิ๊งจะอยู่เกิน 6 เดือนไหม

'อดีตบิ๊กศรภ.' ชำแหละ 9 ข้อต่อสู้ 'ก้าวไกล' ดูเสมือนจะยอมรับว่าก้าวต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว

พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ก้าวไกล ดูเสมือนจะยอมรับว่าก้าวต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว มีเนื้อหาดังนี้

‘อดีตบิ๊กศรภ.’ ชี้กลยุทธ์’ซุนวู’ กำลังจู่โจม ‘เศรษฐา-ทักษิณ’ เสียขบวน

ตำราพิชัยสงครามของซุนวู มีการนำมาสอนกันใน ร.ร.เสนาธิการทหารของทุกเหล่าทัพ และยังใช้กันอย่างกว้างขวางในแวดวงธุรกิจ ปัจจุบันทางการเมืองก็นำมาประยุกต์ใช้เช่นกัน