
21 ก.พ.2565-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เพจองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ได้โพสต์แถลงการณ์ คณะกรรมการกลางบริหาร องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง เสนอให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้กับ พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ นั้น ทางนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เข้าไปคอมเมนต์ข้อความระบุว่า “เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ”
ทั้งนี้ แถลงการณ์ คณะกรรมการกลางบริหาร องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง เสนอให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้กับ พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ระบุว่า ตามที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัย “ชั้นสูง” ที่เน้นความสําคัญอยู่เสมอว่าเป็น “เสาหลัก แห่งแผ่นดิน” มีพันธกรณีในการอบรมคุณธรรมและจริยธรรมให้กับนิสิตและบุคลากร เพื่อให้สําเร็จการศึกษา ออกไปเป็นบัณฑิตที่เพียบพร้อมไปด้วยความรู้ความสามารถ ควบคู่ไปกับคุณธรรมและความสุจริต เพื่อเป็นกําลัง หลักในการพัฒนาบ้านเมือง และยังประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติสืบไป
พลตํารวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 นับได้ว่าเป็นตัวอย่างของ ข้าราชการตํารวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี เพื่อทวงความยุติธรรมในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา อย่างไม่ย่อท้อ ไม่ยอมจํานนต่ออิทธิพลหรือเกรงกลัวอํานาจนอกกฎหมาย แม้จะถูกคุกคามหรือถูกข่มขู่ทําอันตราย ถึงชีวิต ถือเป็นบุคคลที่สมควรได้รับการยกย่องว่าเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างแท้จริง จึงเป็นที่น่าเสียดายว่า บุคคลผู้เปี่ยมด้วยซึ่งคุณวุฒิและคุณธรรมเช่นนี้ กลับต้องถูกอิทธิพลและผู้มีอํานาจกลั่นแกล้ง จนถึงกับต้องลี้ภัย ออกนอกมาตุภูมิของตน อีกทั้งยังไม่ได้รับความยุติธรรมใด ๆ ที่สมควรได้รับ
ตามเหตุแห่งพันธกรณีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยดังที่กล่าวมาข้างต้น ในฐานะมหาวิทยาลัยที่เน้นการ พัฒนาบัณฑิตให้มีคุณธรรม จึงควรมีส่วนร่วมในการเชิดชูเกียรติของ พลตํารวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ด้วยการขอ พระราชทานปริญญารัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ โดยหากเปรียบเทียบกับผู้เคยได้รับพระราชทาน ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ก่อนหน้านี้แล้ว พลตํารวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ถือได้ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งในด้าน คุณวุฒิและคุณธรรม ไม่ว่าจะเป็นความซื่อตรงต่อวิชาชีพ ไม่ยอมแพ้ต่อความไม่ถูกต้อง หรือความสามารถในการ สืบสวนสอบสวนจนเป็นเหตุให้สามารถจับกุมผู้มีตําแหน่งระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ก็ตาม ทั้งนี้ หากพิจารณามการมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์โดยที่ประชุมสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาทิเช่น การ ตัดสินใจมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่นายธนินท์ เจียรวนนท์ ในปีการศึกษา 2563 ที่ผ่านมานั้น จะเห็น ได้ว่า พลตํารวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ก็สมควรได้รับไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
ในการนี้ คณะกรรมการกลางบริหาร องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงเห็นว่า พล ตํารวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ สมควรได้รับพระราชทานปริญญารัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เพื่อเป็น ขวัญและกําลังใจให้กับ พลตํารวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ และเป็นตัวอย่างอันดีแก่สังคมให้เชิดชูบุคคลที่กระทําความ ดีโดยสุจริตใจและไม่หวังสิ่งตอบแทน ความดีอันเกิดจากเนื้อแท้แห่งตน ผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาต่อ เพื่อนมนุษย์ และแม้ต้องเผชิญความยากลําบากแห่งการกระทําความดี ก็หาได้หยุดกระทําความดีนั้น แต่กลับยิ่งเร่ง รุดช่วยเหลือผู้คน จนต้องตกระกําลําบากดังเช่นที่ทุกคนทราบกันดี นอกนั้นแล้ว การมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ดังกล่าว ยังเป็นการประกาศถึงพันธกรณีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการสนับสนุนผู้กระทําความดี ให้เป็นที่เชิดชูของสังคมต่อไป
คณะกรรมการกลางบริหาร องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงขอให้มหาวิทยาลัย พิจารณาดําเนินการต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ทหารมีไว้ทำไม’ คำถามเก่าที่ตามหลอนพรรคส้ม!
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทกองทัพและประเด็นความมั่นคง กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างชัดเจน
'โรม' โวยโดนปั่นกระแส 'ทหารมีไว้ทำไม' หวังดิสเครดิตเลือดตั้ง ลั่น ปชน.แค่อยากเห็นทหารอาชีพ
'โรม' เดือดซัด 'นักการเมือง' ฝั่งตรงข้าม ใช้เหตุปะทะชายแดนมาโจมตีพรรคส้ม กล่าวหา 'ปชน.' เกลียดทหาร ฉะ นักการเมือง-ข้าราชการสีเทา เอื้อประโยชน์แก๊งสแกมเมอร์-กินเงินเดือนจาก 'ฮุน เซน'
จุฬาฯ-มหิดล ผนึกกำลังสร้างนวัตกรรมเวชสำอางจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ไทย เตรียมทดสอบทางคลินิกที่ศิริราช
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล ลงนามถ่ายทอดเทคโนโลยี "AnthoRice™ Complex" นวัตกรรมเซรั่มบำรุงรากผมจากสารสกัดข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ไทย
จุฬาฯ จับมือ Founder Institute สหรัฐฯ เปิดตัวโครงการ 'Go Global Startup Bootcamp: Chula - DC Silicon Startup Bridge' ปั้นสตาร์ทอัพไทยสู่เวทีโลก
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) เดินหน้ายกระดับศักยภาพผู้ประกอบการนวัตกรรมไทย เปิดโครงการ “ติดอาวุธเสริมศักยภาพธุรกิจนวัตกรรมสู่สากล (Go Global Startup Bootcamp): Chula – DC Silicon Startup Bridge” ร่วมกับ Founder Institute (FI) ประเทศสหรัฐอเมริกา” ซึ่งเป็นเครือข่ายนักลงทุน การบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของผู้ประกอบการบริษัทสตาร์ทอัพของไทย ในการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาธุรกิจในระดับสากล ทั้งในด้านองค์ความรู้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การระดมทุน ตลอดจนการก้าวเข้าสู่เครือข่ายสตาร์ทอัพระดับโลก

