ศาลเลื่อนอ่านฎีกาคดีธาริตปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ใส่ไคล้ 'กำนัน-มาร์ค' เข่นฆ่าประชาชนในปี 2553 อีกรอบไป 21 เม.ย.2565 อ้างป่วยชักเกร็งหามเข้าโรงพยาบาลมาศาลไม่ได้
10 ก.พ. 2565 - ที่ศาลอาญา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบหมายเลขดำที่ อ.310/2556 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อดีตหัวหน้าชุดสอบสวน คดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองปี 2553, พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ และ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุลในฐานะพนักงานสอบสวน เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดฐานเป็นร่วมกันเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนกระทำการโดยมีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 200 วรรคสอง
กรณีเกิดขึ้นระหว่างเดือน ก.ค. 2554 - 13 ธ.ค. 2555 จำเลยทั้งสี่ในฐานะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนและตั้งข้อหากับโจทก์ทั้งสองฐานสั่งฆ่าประชาชน ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ต้องรับโทษ จากการที่ ศอฉ.ออกคำสั่งให้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 ที่ชุมนุมขับไล่นายอภิสิทธิ์ ให้ออกจากตำแหน่งนายกฯ จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด โจทก์ทั้งสองจึงยื่นอุทธรณ์ต่อให้ลงโทษพวกจำเลยด้วย ต่อมาศาลอุทธรณ์ เห็นว่าพวกจำเลยกระทำผิดจริงจึงพิพากษากลับ ให้จำคุกจำเลยทั้งสี่คนละ 3 ปี ลดโทษให้ 1 ใน3 คงจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ต่อมาจำเลยทั้งสี่ยื่นฎีกา
โดยก่อนหน้านี้ศาลนัดอ่านฎีกาคดีนี้เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2564 แต่มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาเนื่องจากจำเลยที่ 1 ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำให้ส่งหมายไม่ได้ และนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาวันนี้ ทนายโจทก์ที่ 1-2 จำเลยที่ 2-4 ทนายจำเลยที่ 1 พนักงานอัยการในฐานะทนายจำเลย 3-4 และในฐานะผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลยที่ 1-2 และผู้รับมอบอำนาจนายประกันจำเลยทั้งสี่มาศาล
ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่มา ทนายจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แจ้งว่าเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 จำเลยที่ 1 มีอาการชักเกร็งและหมดสติเป็นเวลากว่า 5 นาที หลังได้สติมีอาการแขนขาข้างซ้ายอ่อนแรง ขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าจำเลยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตันเฉียบพลันต้องได้รับการรักษาเร่งด่วนไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และต้องเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน รายละเอียดปรากฏตามคำร้องฉบับลงวันที่ 9 ก.พ.65 พร้อมใบรับรองแพทย์ท้ายคำร้อง สำเนาคำร้องขอเลื่อนคดีให้ของจำเลยที่ 1ให้ทนายโจทก์ที่ 1 และทนายโจทก์ที่ 2 แล้วแถลงไม่คัดค้านอาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 1 แต่ในการเลื่อนคดีขอให้อยู่ดุลพินิจของศาล
พิเคราะห์แล้วเห็นว่าทนายจำเลยที่ 1 ขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าจำเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยโดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดง กรณีมีเหตุสมควรจึงอนุญาตให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาในวันที่ 21 เม.ย.2565 หมายศาลแจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 1 ทราบโดยส่งไปที่บ้านจำเลยที่ 1 ที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา การส่งไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด ซึ่งเป็นที่อยู่ที่ทนายจำเลยที่ 1แถลงต่อศาลว่าขอให้ส่งหมายให้จำเลยที่ 1 ตามที่อยู่ดังกล่าว และให้ประกาศแจ้งวัน นัดให้จำเลยที่ 1 ทราบ ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์อีกทางหนึ่ง
ภายหลังนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความนายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ว่า นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้ปรากฏว่าทนายความของนายธาริตยื่นคำร้องต่อศาลพร้อมใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลพญาไท 2 ว่านายธาริตเป็นลม เกิดอาการชักเกร็งหมดสตินาน 5 นาที พอรู้สึกตัวแขนและขาอ่อนแรง ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ศาลจึงอนุญาตให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาอีกครั้งวันที่ 21 เม.ย.นี้ ซึ่งคดีเหตุจำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไป ส่วนในนัดหน้าก็ต้องดูอีกทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อถามว่าในนัดหน้าจะสามารถอ่านคำพิพากษาได้หรือไม่ นายสวัสดิ์ กล่าวว่า ศาลนัดอ่านคำพิพากษาทุกนัด แต่จะอ่านได้หรือไม่นั้น ต้องดูพฤติการณ์และข้อเท็จจริงของจำเลยว่าในวันนั้นมีเหตุจำเป็นอะไรหรือไม่ ซึ่งไม่อาจจะคาดการณ์ล่วงหน้าได้ เมื่อจำเลยมีใบรับรองแพทย์ฝ่ายโจทก์เราก็ต้องให้เกียรติและเคารพกัน ทั้งนี้ก็มีภาพถ่ายมาด้วยว่าจำเลยที่ 1 นอนอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ส่วนประเด็นที่สื่อถามว่าจะหลบหนีหรือไม่นั้น ตอนนี้คงยังไม่มีเพราะจำเลยมีอาการป่วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทวี' ชี้ ‘เขากระโดง’ คำวินิจฉัยศาลฎีกา 5,083 ไร่ เป็นที่ดินของการรถไฟ ถือสิ้นสุด
เรื่องนี้ไม่ใช่ศาลฎีกาอย่างเดียว กฤษฎีกาก็วินิจฉัยแล้ว ป.ป.ช.ก็วินิจฉัยแล้ว ก็ถือว่าสิ้นสุด ที่สำคัญมีการบังคับคดีและยึดที่คืน
นักกฎหมาย หวั่นคำสั่งทางปค. กรณีที่ดินเขากระโดง อยู่เหนือคำพิพากษาศาลฎีกา จะขัดต่อหลักนิติรัฐ
“ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ชี้ มติเขากระโดง หักมุม ไม่เชื่อรูปแผนที่ในคำพิพากษาศาลฎีกา คำพิพากษาศาลฎีกาย่อมเหนือกว่าคำสั่งทางปกครอง
DSI เร่งทำสำนวน ปปง.เร่งยึดทรัพย์ 'ดิไอคอน'
ดีเอสไอเร่งทำสำนวนแจ้งข้อหา แชร์ลูกโซ่ 18 ผู้ต้องหา และบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป
ย้อนมติครม.ยุคอภิสิทธิ์ เห็นชอบให้ยกเลิก MOU 2544 ไปแล้ว เตือนรัฐบาลอย่าฝืน
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง อย่าลืมมติคณะรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เห็นชอบในหลักการ “ให้ยกเลิก MOU 2544” ไปแล้ว มีเนื้อหาดังนี้
DSIรับดิไอคอนคดีพิเศษ บี้จิราพรย้ายเทวดาสคบ.
"ดีเอสไอ" รับ "ดิไอคอน" เป็นคดีพิเศษเฉพาะความผิดฐานฟอกเงิน
'จตุพร' ลั่นไม่อยากเห็นประชาชนลงถนน รัฐบาลก็อย่าทำโครงการขายแผ่นดิน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า สถานการณ์การเมืองเริ่มไม่แน่นอนขึ้น เพราะการตรวจสอบชั้น 14 ใกล้เสร็จและต้องไปถึงศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย