8 ก.พ.2565 – ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.2384/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้องนายพิเศษ หรือภูษิต นาคะพันธุ์ อายุ 56 ปี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง, ฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองฯ มาตรา 371 , ฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญ มาตรา 392 และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ
จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 จำเลยได้พกพาอาวุธปืนโคลท์ รีวอลเวอร์ ขนาด .38 สเปเชียล ทะเบียน กท.2117198 พร้อมกระสุน แล้วหันปลายกระบอกปืนไปทางรถแท็กซี่รับจ้างมีนายพิพัฒน์ สีสะออน ผู้เสียหายขับตามมา พร้อมกับพูดว่า “ขับตามมาทำไม ให้ถอยรถออกไปวิ่งเส้นอื่น” อันเป็นการข่มขืนใจผู้เสียหายกระทำการใด หรือไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยให้กลัวว่า จะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ โดยมีอาวุธ และทำให้เกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ จนผู้เสียหายจำยอมไม่ขับรถตามหลังรถจำเลยตามที่ถูกข่มขู่ จำเลยรับสารภาพ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ จำคุก 2 ปี ปรับ 60,000 บาท และฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง ปรับ 2,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกฐานข่มขืนใจฯ 1 ปี ปรับ 30,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง ปรับ 1,000 บาท รวมจำคุก 1 ปี ปรับ 31,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปี พร้อมรายงานตัวการคุมประพฤติทุก 4 เดือนใน 1 ปี
อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ไม่ให้รอการลงโทษ และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่นายพิเศษขอเลื่อนนัด เนื่องจากต้องพามารดาไป รพ.
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่า อาวุธปืนที่จำเลยพาไปนั้นเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนที่จำเลยได้รับอนุญาตให้มี และใช้ตามกฎหมายทั้งจำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวเพียงเพื่อข่มขู่ไม่ให้ผู้เสียหายขับรถติดตามเท่านั้น โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยจะใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผู้เสียหายให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตหรือร่างกายแต่อย่างใด พฤติการณ์จึงไม่ร้ายแรงนัก เมื่อจำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน และได้ชดใช้ค่าเสียหายอันเป็นการบรรเทาผลร้ายให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ และผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีแก่จำเลยอีกต่อไปแล้ว เห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีโดยการรอการลงโทษให้
ที่ศาลชั้นต้นพิพากษารอการลงโทษและคุมความประพฤติจำเลยนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 1 ปี ปรับ 31,000 บาท รอการลงโทษ 2 ปี พร้อมรายงานตัวการคุมประพฤติทุก 4 เดือน ใน 1 ปี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก 'นิว จตุพร' 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นเบื้องสูง
ที่ศาลอาญา กรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.1265/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ฟ้องน.ส.จตุพร แซ่อึง หรือ นิว อายุ 25 ปี แนวร่วมกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก
'สุเทพ' ไร้กังวลไม่รอลงอาญา สู้คดีต่อในชั้นศาลฎีกา
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส. กล่าวถึงกรณีศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้ลดโทษจำคุกเเต่ไม่รอลงอาญาว่า ทุกอย่างเป็นกระบวนการยุติธรรม เป็นไปตามดุลพินิจของศาลพวกตนที่เป็นจำเลย ตั้งใจมา
ศาลฯพิพากษาคดี กปปส. จำคุก 14 ราย ยกฟ้อง 19 ราย รอลงอาญา 4 ราย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ลดโทษจำคุก ‘สุเทพ’ เเกนนำ กปปส.เพียงปีเดียว ไม่รอลงอาญา คดีนำมวลชัตดาวน์กรุงเทพ ปี 57 ส่วนพวกแกนนำอีก 14 ราย รับโทษหลั่นกันไป ไม่รอลงอาญาอยู่ระหว่างลุ้นประกันตัว รอลงอาญา 4 ราย ส่วนที่เหลืออีก 19 รายยกฟ้อง
ข่าวดี! ศาลอุทธรณ์ลดโทษจำคุก ‘สุเทพ-ถาวร’ เหลือ 1 ปีแต่ไม่รอลงอาญา
ศาลอุทธรณ์เเก้ลดโทษ 'สุเทพ-ถาวร' 1 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนเเกนนำที่ไม่รอลงอาญา มี 14 ราย ยื่นประกันชั้นฎีกา คดีก่อการร้าย ชัตดาวน์กรุงเทพฯ ทนายชี้ ศาลอุทธรณ์มองเป็นกรรมเดียวเลยลดโทษ
ทนายยัน 'กำนันสุเทพ-กปปส.' 39 คน เข้าฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชี้ชะตาพรุ่งนี้
วันพรุ่งนี้ ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีกบฏ กปปส.ชุดใหญ่ สำนวนหลัก หมายเลขดำอ.247/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกแกนนำและแนวร่วม
'หมอวรงค์' ปลุก save 112 อบรม 'ก้าวไกล' เลิกโหนทำลายสถาบัน
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า save มาตรา 112 หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ มีคำตัดสินคดีมาตรา112