อาจมีปัญหาในอนาคต! ทนายตั้ม เปิดกฎหมายกรณี 'ทิดสมปอง' ซื้อที่ดิน ส.ป.ก. 300 ไร่

6 ก.พ.2565 - นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ในมุมมองของผมในฐานะที่เป็นทนายนะครับ จากข่าวทิดสมปองในหลายๆประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ ผมขอแบ่งเป็นสามประเด็นนะครับ

1. ตามกฎหมายแล้ว การที่พระสงฆ์จะทำสัญญากู้เงิน ไม่ว่าจะนอกระบบหรือคนทั่วไป ในทางกฎหมาย พระสงฆ์ถือเป็นบุคคลธรรมดา สามารถทำสัญญาได้ไม่ผิดอะไร ที่สำคัญคือทิดสมปองลาสึกไปแล้ว ถึงแม้ว่าการกู้ยืมเงินที่เป็นข่าวอาจขัดทางธรรมวินัย และกฎเถรสมาคม ก็ไม่น่าจะเอาผิดย้อนหลังอะไรได้ครับ

2. ในส่วนของที่ดิน ที่เป็นข่าวว่าทิดปองครอบครองจำนวนสามร้อยไร่ ถ้าดูจากราคา 10.9 ล้าน ที่ดินสามร้อยไร่ไม่น่าซื้อได้แบบเป็นโฉนด น่าจะเป็นเอกสารแสดงการครอบครองที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกให้กับประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ถ้าครอบครองคนเดียวที่ดิน ส.ป.ก. 300 ไร่เลย ถ้าเป็น ส.ป.ก. 4-01 อันนี้เรื่องใหญ่ครับ เพราะบุคคลทั่วไป ไม่สามารถซื้อขาย โอนสิทธิกันได้ง่ายขนาดนั้น มีเงื่อนไขเยอะ เช่นต้องยากจน ครอบครองได้ไม่เกิน 50 ไร่และมีกฎหมายควบคุมด้วย ว่าแต่ละคนครอบครองได้จำนวนกี่ไร่ เพราะฉะนั้นต้องตรวจสอบกันอีกที ว่ามีจำนวนนี้จริงไหม และใครคือผู้ครอบครองสิทธิ แต่ถ้าคนๆเดียวหรือครอบครัวเดียวกันเป็นผู้ครอบครองจำนวนมากขนาดนี้ ก็อาจมีปัญหาได้ในอนาคต

3. ในส่วนของสัญญาจ้าง ถ้าเกิดทิดปองได้เซ็นสัญญากับนายจ้างจริง และผิดสัญญา ในส่วนนี้ นายจ้างสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ครับ การจะหยุดงาน ไม่ใช่แค่ว่า ไม่มีความสุข ไม่อยากทำ ก็หยุดทำได้เฉยๆ ต้องมาดูสัญญากันอีกทีว่าเป็นอย่างไร ยังไงผมแนะนำให้พูดคุยและหาทางออก จะอ้างว่าเซ็นไปไม่ได้อ่าน กฎหมายเขาไม่ฟังครับ

อันนี้เป็นแค่คำแนะนำคร่าวๆจากประเด็นร้อนที่มีในสังคมจากข่าวนะครับ ส่วนตื้นลึกหนาบาง ต้องมาดูเอกสารกันอีกทีครับ ว่ามีที่ดินจำนวนนี้จริงไหม สัญญาจ้างเป็นอย่างไร ยังไงขอให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นด้วยความระมัดระวังเพราะเสี่ยงต่อการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาได้ และขอให้ทิดปองกับเจ๊ติ๋ม เคลียร์กันได้ด้วยดีนะครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รองผบช.ก. เผยเตรียมออกหมายจับเพิ่ม 1-2 ราย เอี่ยว 'ทนายตั้ม' ฉ้อโกงเจ๊อ้อย

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ที่ถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกง โดยระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานจากพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อทนายตั้มในกรณีเงิน 39 ล้านบาท

'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'

ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม

ตร. เรียก 'เจ๊อ้อย' ให้ข้อมูลเพิ่ม 2 คดี 'ทนายตั้ม' วางแผนเป็นผู้จัดการมรดก-เงิน 39 ล้าน

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง

สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'

ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง