'ดร.นิว' เปรียบเทียบงบสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยถูกกว่างบสถาบันพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่นเกือบถึง 11 เท่า ซัดขบวนการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธสร้างความแตกแยก ปั่นกระแสบิดเบือนให้ร้าย ด้อยค่าสถาบัน
4 ก.พ.2565 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความ เรื่อง งบสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยแพงกว่างบสถาบันพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่นจริงหรือ? มีเนื้อหาดังนี้
งบสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยแพงกว่างบสถาบันพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่นจริงหรือ?
1.สถาบันพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่นทรงรับเงินปี ซึ่งเป็นเงินเพื่อนำไปใช้ในการส่วนพระองค์โดยเฉพาะ แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยไม่ทรงรับเงินปี คือ ไม่รับเงินเพื่อนำไปใช้ในการส่วนพระองค์โดยเฉพาะ หากแต่เป็นงบส่วนราชการในพระองค์ [1]
2.งบส่วนราชการในพระองค์ของไทย ครอบคลุมค่าใช้จ่าย 3 ด้าน ค่าดำเนินการ ค่าสาธารณูปโภค และค่าจ้างเงินเดือนบุคลากรประมาณ 14,000 คน โดยเป็นเงินเดือนของข้าราชการเกือบ 95% ของงบทั้งหมด [2]
3.เงินจำนวน 324 ล้านเยน หรือ ประมาณ 97 ล้านบาท ตามที่เพจ ญี่ปุ่นเบาเบา ได้นำเสนอเป็นเพียงแค่เงินปีของสถาบันพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่นประจำปี 2019 เพื่อนำไปใช้ในการส่วนพระองค์เท่านั้น โดยเพจดังกล่าวไม่ได้นำเสนองบทั้งหมดประจำปีเดียวกันของสถาบันพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเงินจำนวน 24 หมื่นล้านเยน [3] หรือ ราว 7 พันล้านบาท แต่อย่างใด
4.เมื่อเปรียบเทียบกันในแง่ของปริมาณงบกับจำนวนข้าราชบริพารแบบคร่าวๆ พบว่างบสถาบันพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่นราว 7 พันล้านบาท สามารถจ้างข้าราชบริพารได้เพียงแค่ประมาณ 1,000 คน [4] ในขณะที่งบสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยราว 9 พันล้านบาท สามารถจ้างข้าราชบริพารได้ถึง 14,000 คน [2]
ดังนั้น งบสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยจึงถูกกว่างบสถาบันพระมหากษัตริย์ญี่ปุ่นเกือบถึง 11 เท่าตัว
5.สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยทรงมีลักษณะพิเศษกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศอื่นๆทั่วโลก นอกจากการดำรงตำแหน่งพระประมุขแห่งรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยยังทรงงานเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ อยู่เคียงข้างกับปวงชนชาวไทยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด งบสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ตลอดจนกำลังพลของข้าราชบริพารในพระองค์ จึงเป็นกำลังสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในการดูแลช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์
6.ขบวนการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธในการสร้างความแตกแยก ปั่นกระแสบิดเบือนให้ร้าย และด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยมีอยู่จริง โดยเป็นการจงใจสร้างความเข้าใจผิด เพื่อก่อให้เกิดความเกลียดชังและความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
7.นายปิยบุตร แสงกนกกุล Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า - Progressive Movement และครูใหญ่แห่ง Common School ก็ได้แชร์โพสต์ดังกล่าวผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว Piyabutr Saengkanokkul เช่นกัน แสดงให้เห็นว่านายปิยบุตรไม่เคยปฏิรูปรอยหยักในหัวสมองของตนเอง ยังคงบิดเบือนให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยบนพื้นฐานของความรู้ไม่จริงต่อไป
อ้างอิง...
[1] https://mgronline.com/daily/detail/9640000089488
[2] https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000072365
[3] https://www.nippon.com/.../a-change-of-pace-for-emperor...
[4] https://www.telegraph.co.uk/.../Book-lifts-the-lid-on...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บทพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของ ‘ทักษิณ ชินวัตร‘
30 ธ.ค.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan เรื่อง
ดร.นิว ชำแหละพฤติกรรมครอบงำ จุดเริ่มต้นแทรกแซงทหาร ไปสู่ ‘ฮุนเซนโมเดล’
ที่น่ากลัวที่สุด การแทรกแซงทหารจากฝ่ายการเมืองอาจเป็นบันไดสำคัญไปสู่การครอบงำสถาบันสูงสุดตามแผนการฮุนเซนโมเดล
ดร.ศุภณัฐ ชี้ปิดประตูรัฐประหารในไทย ทหารต้องเป็นอิสระจากการเมืองฉ้อฉล
การปิดประตูรัฐประหารในประเทศไทย ต้องนำทหารออกจากการเมือง ที่สำคัญนักการเมืองเองก็ต้องไม่แทรกแซงทหาร
'ดร.นิว' แฉความลับกัมพูชาที่คนไทยควรรู้!
ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center
เกาะกูดไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนในทะเล ‘ดร.นิว’ ลั่นรัฐบาลไหนกล้าขายชาติ ก็ให้มันรู้ไป
เกาะกูดเป็นของไทย ไม่ใช่สิทธิ์ที่ใครจะมาเคลม ไม่ใช่สิทธิ์ที่ใครจะมาอ้างพื้นที่ทับซ้อน
'ปิยบุตร' เดือด! ด่ากราด กลืนเลือดข้ามขั้ว สกัดการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย โดยเพื่อไทยเป็นแกนนำ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความว่า ปัญหาที่ควรต้องอภิปราย ณ เวลานี้ มิใช่แต่เพียง ทำไม