อดีตบิ๊กศรภ. แนะอ่าน ’ศาลตัดสินจำคุกทัศนัยหมิ่นประมาท อ.ป้อม’ สะท้อนวุฒิภาวะครูอาจารย์

17 มี.ค.2568-พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เรื่องดีๆก็มีในสังคมไทยเหมือนกัน ใครยังไม่ได้อ่านลองอ่านดูครับ  เพราะ  เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ในหลายๆเรื่อง ที่ชี้ให้เห็นถึงวุฒิภาวะของคนที่เป็นครูอาจารย์ได้ดี คนที่มีศักดิ์ศรีในตัวเอง และ คนเฮงซวย

“ ศาลตัดสินจำคุกทัศนัยหมิ่นประมาท อ.ป้อม“ #อัษฎางค์ยมนาค

วันนี้ศาลอุทธรณ์ตัดสินคดี ผศ.ทัศนัยหมิ่นประมาท รศ.อัศวิณีย์ ว่ามีความผิดในคดีอาญา ให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน พร้อมจ่ายค่าปรับให้ศาล วันนี้ 20,000 บาท 

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่จำนวนหนึ่ง จัดกิจกรรมทางการเมือง โดยใช้ข้ออ้างว่าเป็นกิจกรรมการแสดงงานศิลปะประกอบการศึกษาในหลักสูตร

แต่ อ.ป้อม รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง ในฐานะคณบดีวิจิตรศิลป์ เจ้าของสถานที่ตรวจพบว่า มีการทำกิจกรรมทางการเมืองที่หมิ่นเหม่จะเป็นการกระทำผิดในคดี ม.112 อ.ป้อม พร้อมผู้บริหารในคณะจึงเข้าระงับเหตุเพื่อปกป้องนักศึกษาไม่ให้ก่อเหตุ

ในช่วงเวลานั้น ผศ.ทัศนัย อาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ได้ออกหน้าปกป้องกิจกรรมดังกล่าว และได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กหมิ่นประมาท อ.ป้อม ด้วยข้อความ

“ลูกสาวศิลปินแห่งชาติ หมาสลิ่มเฝ้าหอศิลป์ รวมทั้งไอ้กระจอกตั้งแต่เป็นเด็กศิลปะจนโตเป็นควายศิลปิน พาตำรวจเข้าไปเก็บงานศิลปะของนักศึกษา“

ซึ่งตามข้อเท็จจริง คุณพ่อของ อ.ป้อมเป็นศิลปินแห่งขาติ และ อ.ป้อมในฐานะคณบดีวิจิตรศิลป์ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อหอศิลป์ ที่ทัศนัยพานักศึกษาบุกไปตัดโซ่หอศิลป์ ดังนั้น คอมเมนต์มากมายในโพสต์นั้นทราบในทันทีว่า ”ลูกสาวศิลปินแห่งชาติ หมาสลิ่มเฝ้าหอศิลป์“ หมายถึง อ.ป้อม รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีวิจิตรศิลป์

หลังจากเกิดเรื่อง อ.ป้อม เคยยื่นจดหมายขอความเป็นธรรมไปที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อปี 2564 ทาง มช.แจ้งว่าจะลงโทษวินัย แต่ มช.ก็ไม่ได้ดำเนินการตั้งกรรมการใดๆ อ.ป้อมตามเรื่องแล้วตามอีกตลอดทุก 3 เดือน ทำจดหมายทวงถามอีก 3-4 ฉบับ ก็อ้างว่ายังไม่มีใครยอมมาเป็นกรรมการ จนจะหมดอายุคดีความ

สุดท้าย อ.ป้อม จึงตัดสินใจไปยื่นจดหมายที่รัฐมนตรีกระทรวงศึกษา ซึ่งท่านรับเรื่องดำเนินการ แต่เนื่องจาก

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกจากระบบราชการ ทำให้อาจารย์มหาวิทยาลัยไม่ใช่ข้าราชการอีกต่อไป แต่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย การพิจารณาต่างๆ จะต้องขึ้นตรงกับอธิการบดีเท่านั้น กระทรวงศึกษาช่วยได้แค่ทำจดหมายไปยังประธานสภามหาวิทยาลัย ให้ดำเนินการ แต่จนแล้วจนรอด ทาง มช.ก็เงียบไป มิได้มีการสั่งการใดๆ

ทำให้ อ.ป้อม ต้องหาความเป็นธรรมให้ตัวเอง รวมทั้งให้อาจารย์ท่านอื่นๆ ที่โดนหมิ่นประมาทด้วยกันจากทัศนัย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีค.64 ด้วยการหาทนายยื่นฟ้องศาลเอง

ที่ศาลชั้นต้น ทัศนัย แก้ตัวว่า โพสต์ดังกล่าวไม่ได้หมายถึง อ.ป้อม เพราะไม่ได้ระบุชื่อ ซึ่งศาลชั้นต้นก็เชื่อคำแก้ตัวของทัศนัยอย่างง่ายดาย จึงตัดสินว่า ทัศนัยไม่มีความผิด ทั้งที่โพสต์ดังกล่าวกระจายไปทั่วประเทศ และคอมเมนต์มากมายในโพสต์นั้นก็รู้กันโดยทั่วกันว่า หมายถึง อ.ป้อม “คนทั้งประเทศรู้แต่ศาลไม่รู้ว่าทัศนัยโพสต์หมิ่นประมาท อ.ป้อม“ แต่ อ.ป้อมไม่ยอมแพ้และเชื่อในความยุติธรรมของตุลาการ จึงยื่นอุทธรณ์ต่อ

ผลคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ วันนี้คดีทัศนัยโพสต์หมิ่นประมาท รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง

ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาว่า ผศ.ทัศนัยหมิ่นประมาท รศ.อัศวิณีย์ จริง อันทำให้โจทก์เสียหาย มีความผิดในคดีอาญาให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน พร้อมจ่ายค่าปรับให้ศาล 20,000 บาท แต่เนื่องจากไม่เคยกระทำผิดมาก่อน จึงให้รอลงอาญา 2 ปี

โดยคำสั่งศาลห้ามมิให้จำเลยกระทำเช่นนี้อีก อันแสดงถึงการเที่ยวไปโพสต์ดูหมิ่นคนอื่น จนทำให้เค้าเสียหายอีกด้วย

ล่าสุดมีการตั้งคำถามว่า อาจารย์ที่เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย และถูกศาลตัดสินว่า มีความผิดคดีอาญาให้ลงโทษจำคุก แต่รอลงอาญา จะมีความผิดตามระเบียบของมหาวิทยาลัยให้ไล่ออกหรือไม่

เนื่องจากระเบียบของมหาวิทยาลัยในข้อคุณลักษณะต้องห้ามตามข้อ (๘) ระบุว่า ผู้ที่เคยถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิดทางอาญา ต้องพ้นสภาพ

อ่านจบแล้วรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นไหมครับ / ขอบคุณ คุณ อัษฎางค์ ยมนาค ผู้เขียนด้วยครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เบิกตัว 'ทนายตั้ม-เมีย' กับพวก ขึ้นศาล ตรวจหลักฐานคดีโกง 'เจ๊อ้อย'

ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำอทย.109/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม

เสาไฟโค่นล้มทับรถ เหตุจากผู้รับจ้างรื้อถอนสายไฟ ใครต้องรับผิด? ศาลมีคำตอบ

สำนักงานศาลปกครอง เผยแพร่บทความวิชาการ อุทาหรณ์คดีปกครอง เรื่อง  เสาไฟโค่นล้มทับรถ เหตุจากผู้รับจ้างรื้อถอนสายไฟ ... ใครต้องรับผิด ?

ก.อ. สั่งพักราชการ 'รองอธิบดีอัยการ' รับสินบนจีนเทา

ที่ห้องประชุม ก.อ. ชั้น 8 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ มีนายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ประธานคณะกรรมการอัยการ เป็นประธานการประชุม ก.อ.ครั้งที่ 3/2568 โดยที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติ