ผบ.ตร. แจงยิบส่ง 40 อุยกูร์กลับจีน ไทยส่งจนท.ระดับสูงคอยติดตามความปลอดภัย

"ผบ.ตร."เผย 40 ชาวอุยกูร์ไม่ขัดขวางการส่งกลับประเทศ ตอนนี้เดินทางถึงจีนแล้วได้รับการดูแลอย่างดี ยันตำรวจปฎิบัติตามยุทธวิธี มีแผนรองรับไม่เกิดเหตุซ้ำอดีต ไทยส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงคอยติดตามความปลอดภัย จีนให้คำมั่นปฏิบัติตามกฎหมาย ให้ญาติชาวอุยกูร์ร่วมต้อนรับด้วย

27 ก.พ.2568 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการส่งตัวชาวอุยกูร์ให้ทางการจีนจำนวน 40 คนในช่วงกลางดึกคืนที่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการภายใต้สภาความมั่นคงแห่งชาติ มีหนังสืออย่างเป็นทางการจากประเทศจีนผ่านทางการทูตมาทางรัฐบาลไทย ซึ่งขั้นตอนนี้ในหนังสือได้แสดงความจริงใจและมีเจตจำนงที่จะดูแลคนจีนชาวอุยกูร์โดยให้คำมั่น ความจริงใจยืนยันเป็นหนังสือว่าจะดูแลเรื่องความปลอดภัย เรื่องที่อยู่ที่พักอาศัย รวมถึงให้ญาติชาวอุยกูร์ที่อยู่ในประเทศไทยมานานได้ร่วมต้อนรับที่ประเทศของเขาด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงขั้นตอนการปฎิบัตินำแผ่นพลาสติกสีดำปิดที่ช่องระบายอากาศรถทุกคันระหว่างนำตัวชาวอุยกูร์ออกจาก สตม. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เผยว่า ขอเรียนอย่างนี้ดีกว่าว่าเมื่อทางรัฐบาลได้รับหนังสือ รัฐบาลได้พิจารณาโดยหลักทางมนุษยธรรมสิทธิมนุษยชนและหนังสือที่ทางการจีนได้ทำถึงทางการไทย จากนั้นรัฐบาลได้มีการประชุมโดยใช้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณาเรื่องนี้จึงมีมติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งชาวอุยกูร์กลับ

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า เมื่อเราได้รับมติว่าจะต้องส่งกลับ หลายท่านอาจไม่รู้ว่าชาวอุยกูร์อยู่กับเรามาเกือบ 10 ปี ซึ่งเราต้องมีภาระรับผิดชอบในเรื่องการดูแลมาตลอดเวลา เมื่อเราได้รับมติจาก สมช. ก็มีความจำเป็นต้องพิจารณาและวางแผนเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่เรียบร้อยรอบคอบและปลอดภัยกับทั้งตัวของชาวอุยกูร์และตัวเจ้าหน้าที่เราอยู่ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหลักสิทธิมนุษยชน ทั้ง พ.ร.บ.อุ้มหายและป้องกันการทรมาน เราต้องการที่จะให้เกิดความเรียบร้อยไม่ต้องการให้เกิดความไม่สงบหรือบานปลาย

ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้อยู่แล้วว่าเมื่อก่อนเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่ผมเองได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบและดูแลกำกับเรื่องนี้ ได้มีการวางแผนกันมาตลอด ได้มีการเสนอรูปแบบการปฏิบัติให้ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้พิจารณา ซึ่งการพิจารณาก็ผ่านทาง สมช.ทุกอย่าง เราจะไม่คิดเองแล้วทำเลย แต่ทุกอย่างใช้เวลามาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว การนำตัวชาวอุยกูร์ออกจากสถานที่ต้องกัก ที่ สตม.สวนพลู ก็เป็นกระบวนการขั้นตอนที่เราทำให้เกิดการเข้าใจก่อน

เมื่อเดินทางออกไปสังเกตได้ว่าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรเลย และเราได้ส่งมอบให้ทางการจีนนำขึ้นเครื่องไปโดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเทคนิคการปฏิบัติ อย่าไปกังวลเรื่องนั้นเลย ผมอยากให้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการที่ถูกกักขังมานานเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ความชอบธรรมต่างๆที่เราปฏิบัติภายใต้กฎหมายและหลักสากลต่างๆอย่างครบถ้วนถูกต้อง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ขอเรียนเพิ่มเติมแบบนี้ว่าทางรัฐบาลไทยได้มีการประชุมและตกลงกันว่าเราจะส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงไปอยู่ที่มณฑลซินเจียง ประเทศจีน เพื่อคอยรอดูว่าเมื่อเครื่องลงแล้วรัฐบาลจีนได้ทำตามข้อตกลงการแสดงความจริงใจนั้นไหม ลงไปญาติมารับไหมและมีการตรวจสุขภาพไหม ผมได้รับการยืนยันว่าเมื่อชาวอุยกูร์ดินทางไปถึงสนามบินได้มีการตรวจสุขภาพ ญาติมารับทุกอย่างเป็นไปตามที่ทางการจีนได้ทำหนังสือมาที่รัฐบาลไทยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตำรวจไทยได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของวิธีการและกฎหมายทุกอย่างแล้ว

"จำได้ไหมว่าที่ท่านนายกรัฐมนตรีเดินทางไปประเทศจีน โดยทางประธานาธิบดีได้ให้การต้อนรับและได้มีการให้คำมั่นสัญญาทั้งเป็นหนังสือและด้วยวาจาว่า เมื่อส่งกลับมาตามกระบวนการขั้นตอนทุกอย่าง ทางการจีนจะปฏิบัติตามหนังสือที่ส่งมาและวันนี้ทราบว่าเมื่อไปถึงแล้วได้มีการตรวจสุขภาพ ญาติมารับหมดแล้ว และทราบด้วยว่าทางการจีนได้มีการให้งบประมาณในการสร้างที่พักอาศัยให้ด้วย ส่วนนี้เป็นเรื่องของทางการจีน"

พรุ่งนี้ท่านภูมิธรรม รองนายกรัฐมนตรีจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ผมคิดว่าในรายละเอียดให้รอทางรองนายกฯพูดในรายละเอียดแต่ในส่วนของตำรวจได้ดำเนินการทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อถามถึงขั้นตอนการส่งของ ตม.ขัดกับระเบียบหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า สตม.ได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว ส่วนที่ดำเนินการในช่วงกลางคืนคือไม่รบกวนการจราจร การควบคุมกำกับดูแลความปลอดภัยดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า เป็นหลักการทางปฏิบัติ

เมื่อถามต่อว่าทำไมต้องใช้รถของหน่วยงานอื่นในการขนย้าย เขาตอบว่า เราไม่มีรถที่จะดำเนินการ อย่าลืมว่าหลักปฏิบัติโดยยุทธวิธี ชาวอุยกูร์ที่เดินทางไปไม่มีการขัดขืนและขัดขวางใดๆเลย ส่วนการใช้ยานพาหนะที่ไม่ใช่หน่วยงานของเราต้องเรียนว่าเป็นหลักยุทธวิธีที่เอาเจ้าหน้าที่ขึ้นไปดูแลความเรียบร้อยอยู่ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ถ้าแคบเกินไปก็แออัด กว้างเกินไปก็โล่งเกินไป อยากจะทำความเข้าใจว่าเห็นใจตำรวจ พูดตรงๆเห็นใจตำรวจ ถ้าเราไม่ปฏิบัติต่อไปก็มีกระแส บางกระแสมองว่าเราดำเนินการผิดหลักมนุษยชนหรือเปล่า กักขังทรมานหรือเปล่า แต่พอเราส่งไปก็มีกระแสว่าเราทำถูกหรือเปล่า ตำรวจจะอยู่ในจุดที่ซ้ายก็โดนขวาก็โดน

อยากจะให้เข้าใจในเรื่องนี้ว่าเรารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญเราไม่ได้คิดอื่นใดเลย การส่งตัวผู้กระทำผิดที่หลบหนีเข้าเมืองตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองผมว่าเป็นเรื่องปกติที่เราส่งไปทำไมเวลาเราจับคนต่างชาติแล้วเราส่งกลับล่ะชาวอุยกูก็ไม่ต่างกันยังไงก็ต้องส่งกลับแล้วเราจะต้องกักเขาไว้ในระยะเวลาอีกกี่ปี 10 -11 -12- 13 ปีเหรอ เขาก็เป็นมนุษย์ที่สมควรจะได้กลับบ้าน

ดังนั้นความจริงใจที่ประเทศจีนได้มีหนังสือมาทางการไทยได้ยืนยันชัดเจนจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไปคือพล.ต.อ.ไกรบุญ ไปอยู่ที่จีนคอยดูมีตัวแทนรัฐมนตรีต่างประเทศไป เลขาสมช.ไปและในอนาคตผมเชื่อว่าจะต้องมีวงรอบที่รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลไปสังเกตการณ์คอยดู

ดังนั้นคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องที่มีความน่ากังวลใจอะไรเลย ยืนยันว่าการเดินทางชาวอุยกูเมื่อคืนกับตำรวจตม. ที่ได้ปฏิบัติร่วมกันไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราไปบีบบังคับเขา

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการกังวลใจการส่งชาวอุยกูไปยังประเทศจีนเกรงว่าอดีตจะเกิดซ้ำและจะทำให้ทุกอย่างกลับมาลงที่ประเทศไทยแล้วตำรวจมีการวางแผนรองรับที่จะเกิดอนาคตหรือไม่

เขาตอบว่า ในอดีตเราไม่เคยได้รับความมั่นใจเช่นในปัจจุบันความมั่นใจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเกิดจากการประชุมตรวจสอบประสานงานผ่านทางการทูต ตำรวจเป็นแค่เพียงห่วงโซ่ล่างที่จะต้องปฏิบัติตามมติของสมช. การปฏิบัติของตำรวจได้มีการประชุมหารือวางแผนรูปแบบเพื่อให้เกิดความรอบคอบรัดกุมปลอดภัยแก่ทุกฝ่ายทั้งหมด

แม้กระทั่งคนรอบข้างเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติเองในมาตรการต่อไปเราเอาบทเรียนจากอดีตมาตั้ง โดยตำรวจสันติบาลฝ่ายความมั่นคงของตำรวจเอง ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลได้มีการประชุมหารือและหยิบยกเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาเป็นอุทาหรณ์ในตอนนั้นเราสังเกตได้ว่ามีการส่งกับไปอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เราได้มีการวางแผนและทางชาวอุยกูร์ก็ไม่ได้ขัดขวาง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงขึ้นเครื่องบิน มีการวางมาตรการทั้ง สมช.สันติบาลและประชาคมข่าวที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกัน เชื่อว่าทางท่านรัฐมนตรีจะต้องมีการวางแผนหาข่าวรองรับพื้นที่สถานที่สำคัญแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ของเรามีมาตรการรองรับไม่ใช่เพิ่งเริ่ม เราเริ่มดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้วเสียงต่างๆที่ออกมาเกิดจากความไม่เข้าใจเกิดจากความหวาดระแวงมากกว่า

เมื่อถามว่าทำไมทางการจีนมาขอชาวอุยกูร์ช่วงในระหว่างการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการแลกเปลี่ยนอะไรกันหรือไม่กับทางการจีน ผบ.ตร.ตอบว่ามันเป็นช่วงจังหวะพอดีก็เหมือนกับที่ผมมารับตำแหน่งทำไมต้องเกิดเหตุการณ์แม่สอด ที่ชายแดนมีคดีนู้นคดีนี้เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นกับช่วงจังหวะเวลาพอดีมากกว่าอย่าได้ไปคิดสงสัยอะไรเลยเชื่อว่าจะไม่เหมือนอดีตจะแตกต่างกัน

ถามว่าที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เสนอแผนการส่งตัวชาวอุยกูกลับประเทศจีนหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตอบว่า ได้เสนอมาเรื่อยๆหลายเดือนแล้วเพียงแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรายังไม่ได้รับมติส่งกลับอันเนื่องมาจากการประชุมของ สมช. เมื่อได้รับมติส่งกลับได้มีการประชุมวางแผนวิธีปฏิบัติขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆให้เกิดความรอบคอบรัดกลุ่มปลอดภัยที่สุด