'จตุพร' ซัด 'ผู้นำปากพล่อย' ถามศาล รธน.ส่งเดชแค่เกมซื้อเวลา

'จตุพร' เชื่อสถานการณ์บีบรัดผู้นำปากพล่อยรับปากส่งเดชไว้แล้วทำไม่ได้ จึงหาเหตุมาอ้าง งงนายกฯ อิ๊งเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ดึงสติบอก ศาล รธน.ไม่ใช่ที่ปรึกษา กม.รัฐบาลนะ ถามไปคงไม่มีคำตอบให้

27 ก.พ.2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ผู้นำปากพล่อย ถามศาล รธน.ส่งเดช แค่หาเหตุอ้างซื้อเวลา”ระบุว่า ครม.จะถามศาล รธน.ถึงคุณสมบัติรัฐมนตรีในประเด็น “ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” แค่เป็นเหตุนำมาอ้างแต่งตั้งนักการเมืองใหญ่บางคนเป็นรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งรู้ทั้งรู้ถามไปก็ไม่มีคำตอบให้ เพราะศาล รธน.ไม่ใช่ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล

“อยู่ดีๆ ทำไม ครม.สงสัยคุณสมบัติรัฐมนตรีในประเด็นนี้ขึ้นมา ถ้ารัฐบาลสงสัยต้องถามคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะเป็นที่ปรึกษากฎหมายรัฐบาล ส่วนศาล รธน.ไม่มีหน้าที่ตอบคำถามใดๆ”

ศาล รธน.มีหน้าที่วินิจฉัยคำร้องการแต่งตั้งบุคคลเข้าข่ายขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ หมายถึงมีเหตุตั้งรัฐมนตรีเกิดขึ้นแล้วจึงวินิจฉัยด้วยข้อกฎหมายให้สิ้นสุด ดังนั้น รัฐบาลไม่รู้หรืออย่างไรว่า ศาล รธน.ไม่ตอบคำถามเพราะเหตุยังไม่เกิด

นายจตุพร มั่นใจว่า ในทางการเมืองคงมีผู้นำบางคนไปรับปากนักการเมืองส่งเดชว่าจะตั้งเป็นรัฐมนตรี หรือตั้งเป็นรองนายกฯ และคงคุยโชว์อำนาจบอกไม่มีปัญหา เมื่อสถานการณ์บีบรัดกลับไปขอถามศาล รธน.ก่อน ซึ่งตาสี ตาสา ยายมี ยายมา อาจไม่รู้เรื่องราวย่อมจะเห็นถึงความจริงใจว่าตั้งใจจะให้ แต่ศาล รธน. ไม่ตอบคำถามจึงไม่รู้จะทำอย่างไรได้

ขณะนี้ใกล้ถึงคิวต้องปรับ ครม. ถ้าไม่มีชื่อคนที่ไปรับปากให้เป็นรัฐมนตรีไว้โดยไม่มีเหตุผล จะปฏิเสธย่อมเกิดความบาดหมางใจกันได้ ดังนั้น อาการกลัวเสียผู้เสียคน จึงต้องไปถามสถานที่ที่ไม่มีคำตอบ เหมือนกับไปถามกำแพง เสาไฟ ก็ไม่มีคำตอบให้เช่นกัน เกมแบบนี้ใครก็มองออกเพราะกินข้าวเหมือนกัน

“ศาล รธน.วินิจฉัยเรื่องราวต่างๆ ไว้มากมายว่า เหตุยังไม่เกิดก็ไม่รับคำร้อง จึงตีตก ดังนั้น ถ้าต้องการคำตอบต้องถามคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ใช่ถามศาล รธน. ถ้าสงสัยคำว่าซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์แล้ว ถ้าดูคำวินิจฉัยเดิมของศาล รธน.ก็รู้เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว"

นายจตุพร มั่นใจว่า ความสงสัยในประเด็นซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จึงต้องถามศาล รธน.นั้น แน่ชัดว่า เป็นคำถามเพื่อต้องการปรับ ครม.ชุดใหม่ ถ้า ครม.เก่ามีรัฐมนตรีต้องสงสัยตามคำถามนี้ ย่อมเป็นความผิดสำเร็จไปแล้ว

“นี่เป็นบทเรียนการรับปากส่งเดช สัญญาจะให้นักรบบางคนที่แลกทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อทำหน้าที่เสร็จแล้วจะแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี แต่ผู้นำปากพล่อยทำไม่ได้ ก็ต้องเจ็บปวดเป็นธรรมดา จึงต้องหาเหตุมาอ้าง ดังนั้นบทเรียนนี้ คือ ถ้าทำไม่ได้ก็บอกกันตรงๆ จะดีกว่า ง่ายกว่าอีก”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' มั่นใจแจงศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเรื่องปมให้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานและผู้เกี่ยวข้อง คดีสถานะ อดีตรองนายกฯและอดีตรัฐมนตรียุติธรรม แทรกแซงคดีฮั้วเลือก สว. 'ภูมิธรรม' มั่นใจชี้แจงได้ทุกประเด็น

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน 'ภูมิธรรม-ทวี' แทรกแซงคดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่ ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

'จตุพร' ฉะการเมืองตีโง่ ยุบสภากลางศึกสงคราม ส่อทหารใช้กฎอัยการศึกเลื่อนเลือกตั้งอีกยาว

'จตุพร' ฟาดนักการเมืองเอาแต่ใจ ตีโง่บีบยุบสภากลางศึกสงคราม ส่อประเคนอำนาจให้ทหารใช้กฎอัยการศึกเลื่อนเลือกตั้ง เผลอๆ อาจไม่มีสภาอีกยาวไกล

ประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญคาด 2 ปีได้เห็นการเปลี่ยนผ่านประเทศ!

ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญยันหลักการปรับกลไกทำรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อกสู่ รธน.ฉบับใหม่ คาด 2 ปีเศษจะได้เห็นการเปลี่ยนผ่านประเทศ