เรืองไกร ร้อง กกต. สอบ นายกฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหาเสียง อบจ. ได้หรือไม่

เรืองไกร ร้อง กกต. สอบ นรม. กับ 2 รมต. เป็นผู้ช่วยหาเสียง อบจ. หรือไม่ ถือเป็น ลูกจ้าง ตาม ม. 187 ต้องพ้นตาม ม. 170(5) หรือไม่ 

9 ก.พ. 2568 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ กกต. ตรวจสอบการหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. นครพนม ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไปขึ้นเวทีและร่วมปราศรัยช่วย นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัคร นายก อบจ. นครพนม เบอร์ 8 พรรคเพื่อไทย นั้น เป็น “ผู้ช่วยหาเสียง” ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ และจะเป็นเหตุทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนางมนพร เจริญศรี มีเหตุสิ้นสุดลงเฉพาะตัวฐานเป็น “ลูกจ้างของบุคคลใด” อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบ มาตรา 170 (5) หรือไม่ ทั้งนี้ขอให้ กกต. รีบส่งศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยโดยเร็วด้วย

นายเรืองไกร กล่าวว่า ในหนังสือมีข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และคำขอ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1. เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2568 เว็บไซต์พรรคเพื่อไทย หัวข้อ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ นำทัพเพื่อไทย ปราศรัยหาเสียงช่วย ‘อนุชิต หงษาดี’ เบอร์ 8 เป็นนายก อบจ. นครพนม  อ้อนขอคะแนนเสียงให้คนนครพนม ดีเอ็นเอเพื่อไทย ทำงานประสานกับรัฐบาลแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ลงข่าวไว้(บางส่วน)ดังนี้

“วันที่ 12 มกราคม 2568  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง  พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ,นางมนพร เจริญศรี , นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ร่วมลงพื้นที่ จังหวัดนครพนม ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัคร นายก อบจ. นครพนม เบอร์ 8 พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการให้กำลังใจของมวลชนคนเสื้อแดง และพี่น้องจังหวัดนครพนมอย่างหนาแน่น

นางสาวแพทองธาร เริ่มต้นปราศรัยด้วยการทักทายว่า “สวัสดีค่า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคนเด้อ สบายดีบ่ กินข้าวหรือยัง คิดฮอดกันบ่” พร้อมกล่าวต่อว่าวันนี้ดีใจอย่างมาก ปีใหม่ได้มานครพนมจังหวัดแรก ตั้งแต่เดินเข้ามาได้รับการต้อนรับอย่างดี พรุ่งนี้วันจันทร์กลับไปมีกำลังใจจากพี่น้องนครพนมแน่นอน วันนี้อยากฝากนานยอนุชิต เพราะทำงานหนักเป็นคนนครพนมอย่างแท้จริง เข้าใจปัญหาของนครพนมอย่างแท้จริง นายอนุชิตเป็นคนนครพนมแท้ๆ และมีดีเอ็นเอ เพื่อไทยแท้ๆ มาทีไรช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ ปัญหายาเสพติดต้องหมดไป พรรคเพื่อไทยมาทีไร ใครจนอยู่ ต้องรวยแน่นอน

นางสาวแพทองธาร ปราศรัยถึงปัญหาของพี่น้องว่า  วันนี้ปัญหายาเสพติดหนักหน่วง ลูกหลานไปยุ่งเกี่ยวกับยาบ้า ที่ราคาถูกและเข้าถึงลูกหลานง่าย นายอนุชิต บอกว่าจะเอาคนติดยามาบำบัดเรียนรู้อาชีพ ให้กลับเข้าไปอยู่ในสังคม เพราะคนที่มีปัญหายาเสพติด ไม่ใช่คนไม่ดี เพียงแต่อาจมีปัญหา เราพร้อมรับเขากลับมาหลังผ่านการบำบัดแล้ว เป็นสิ่งที่นายอนุชิตจะทำ อย่างไรก็ตามท้องถิ่นต้องประสานส่วนกลางเพื่อทำงานสอดคล้องกันทั้งประเทศ วันที่ 1 ก.พ.ขอให้กาเบอร์ 8 และมั่นใจว่านายอนุชิตไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ขอบคุณพี่น้องชาวนครพนมเด้อ รักทุกๆคนเด้อ 

ด้าน นางมนพร เจริญศรี  ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า มาวันนี้จะมาบอกว่า การเลือกตั้งนายก อบจ. เป็นการเลือกตั้งท้องถื่นทำงานเป็นโซ่คล้องการทำงานกับรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ก็ขอให้พี่น้องสนับสนุนให้ได้เข้าไปทำงานพัฒนาเมืองนครพนม ขอให้กาเบอร์ 8  ให้โอกาสนายอนุชิต ได้ทำงานเพื่อชาวนครพนม” 

ข้อ 2. ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อ 15 กำหนดไว้ว่า

“ข้อ 15 ผู้สมัครที่ประสงค์จะมีผู้ช่วยหาเสียงเพื่อช่วยเหลือในการหาเสียงเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ช่วยหาเสียง หน้าที่และค่าตอบแทนผู้ช่วยหาเสียง รวมทั้งพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องตามแบบที่กำหนดท้ายระเบียบ ให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบก่อนวันดำเนินการ ทั้งนี้ ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเก็บรวบรวมเอกสารที่ผู้สมัครแจ้งมานั้นไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัด

การหาเสียงเลือกตั้งของผู้ช่วยหาเสียงตามวรรคหนึ่ง ผู้สมัครสามารถจัดหาเสื้อผ้า สิ่งของ เลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่ม สำหรับผู้ช่วยหาเสียง และให้ผู้สมัครต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้ช่วยหาเสียงที่ได้ช่วยเหลือในการหาเสียงเลือกตั้งตามอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ

ในกรณีผู้สมัครไม่แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ช่วยหาเสียง หน้าที่และค่าตอบแทนผู้ช่วยหาเสียง จะดำเนินการหาเสียงเลือกตั้งด้วยวิธีการนี้ไม่ได้

กรณีการแจ้งเปลี่ยนตัวผู้ช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งในการเลือกตั้งนั้น ให้ผู้สมัครดำเนินการแจ้งไม่เกินสามครั้ง ครั้งละไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนผู้ช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งนั้น” 

ข้อ 3. กรณีข้อเท็จจริงจากเว็บไซต์พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2568  จึงเป็นหลักฐานที่ควรรับฟังได้ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัคร นายก อบจ. นครพนม เบอร์ 8 พรรคเพื่อไทย ซึ่งผู้สมัครต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ช่วยหาเสียง หน้าที่และค่าตอบแทนผู้ช่วยหาเสียง รวมทั้งพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องตามแบบที่กำหนดท้ายระเบียบ นั้น (ทั้งนี้ได้แนบแบบที่กำหนดท้ายระเบียบ มาด้วยแล้ว) กรณี จึงเป็นไปตามระเบียบฯ ในฐานะ ผู้ช่วยหาเสียง แต่การที่รัฐมนตรีไปเป็นผู้ช่วยหาเสียง อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ในความหมายของคำว่า ลูกจ้าง 

ข้อ 4. คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 12-13 / 2551 ในราชกิจจานุเบกษา หน้า14 – 15 เล่ม 125 ตอนที่ 122 ก วันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 วินิจฉัยคำว่า “ลูกจ้าง” ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 267 ไว้ส่วนหนึ่ง ดังนี้

“การทำให้เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญดังกล่าวบรรลุผลจึงมิใช่แปลความคำว่า “ลูกจ้าง” ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 เพียงหมายถึงลูกจ้างตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หรือตามกฎหมายภาษีอากร เท่านั้น เพราะกฎหมายแต่ละฉบับ ย่อมมีเจตนารมณ์แตกต่างกันไปตามเหตุผลแห่งการบัญญัติกฎหมายนั้น ๆ ทั้งกฎหมายดังกล่าว เป็นกฎหมายที่มีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ และยังมีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์แตกต่างจากกฎหมายดังกล่าวอีกด้วย อนึ่ง รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์การปกครองประเทศ มุ่งจัดตั้งรับรองสถานะของ สถาบันและสิทธิและเสรีภาพของประชาชน กำหนดพื้นฐานในการดำเนินการของรัฐ เพื่อให้รัฐได้ใช้ เป็นหลักในการปรับใช้กับสภาวการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องตามเจตนารมณ์ 

ดังนั้น คำว่า “ลูกจ้าง” ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 จึงมีความหมายกว้างกว่าคำนิยามของ กฎหมายอื่น โดยต้องแปลความตามความหมายทั่วไป ซึ่งตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ได้ให้ความหมายของคำว่า “ลูกจ้าง” ว่าหมายถึง “ผู้รับจ้างทำการงาน ; ผู้ซึ่งตกลงทำงาน ให้นายจ้างโดยรับค่าจ้างไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร” โดยมิได้คำนึงว่าจะมีการทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร หรือไม่ หรือได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง สินจ้าง หรือค่าตอบแทนในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินอย่างอื่นหากมีการตกลงเป็นผู้รับจ้างทำการงานแล้ว ย่อมอยู่ในความหมายของคำว่า “ลูกจ้าง” ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 ทั้งสิ้น มิฉะนั้นผู้เป็นลูกจ้าง รับค่าจ้างเป็นรายเดือนในลักษณะสัญญาจ้างแรงงาน เมื่อได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ก็สามารถทำงานต่อไปได้ โดยเปลี่ยน ค่าตอบแทนจากค่าจ้างรายเดือนมาเป็นสินจ้างตามการงานที่ทำ เช่น แพทย์ก็เปลี่ยนจากเงินเดือนมาเป็น ค่ารักษาตามจำนวนคนไข้ ที่ปรึกษากฎหมายก็เปลี่ยนจากเงินเดือนมาเป็นค่าปรึกษาหรือค่าทำความเห็น เป็นรายครั้ง ซึ่งก็ยังมีความผูกพันในเชิงผลประโยชน์กันอยู่ระหว่างเจ้าของกิจการกับผู้รับทำงานให้ เห็นได้ชัดเจนว่ากฎหมายย่อมไม่มีเจตนารมณ์ให้หาช่องทางหลีกเลี่ยงบทบังคับกันได้โดยง่ายเช่นนั้น”

ข้อ 6. จากข้อเท็จจริงที่ กกต. ควรทราบแล้วนั้น กรณีดังกล่าวย่อมเห็นได้ว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 2-13/2551 ซึ่งมีผลเป็นเด็ดขาดผูกพัน กกต. ด้วย และรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 187 มีศักดิ์สูงกว่า ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อ 15 ดังนั้น การที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนางมนพร เจริญศรี ไปขึ้นเวทีและร่วมปราศรัยดังกล่าว จึงเป็น “ผู้ช่วยหาเสียง” ที่เข้าข่ายเป็น “ลูกจ้าง” ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 อันอาจเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 (5) ซึ่ง กกต. ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมา24ชม.ไม่เว้นวันพระใหญ่

มีการพนันถูกกฎหมายยังไม่พอ!   นายกฯ สั่งทบทวนช่วงเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

ตอบซักฟอกทุกเรื่อง อิ๊งค์จ่อคุยพรรคร่วมสู้ศึกฝ่ายค้าน/แก้รธน.ส่อแท้ง

“แพทองธาร” ลั่นพร้อมตอบทุกเรื่องในศึกซักฟอก “ทวี” ยกข้อกฎหมาย ป.ป.ช.ขู่หากอภิปรายพาดพิง “ทักษิณ” เท้งโวไม่กลัวถูกฟ้อง รอวัดใจ “เสรีพิศุทธ์” ให้ข้อมูลชั้น 14

ทักษิณปากกล้าขาสั่น ศึกซักฟอก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง"   อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทักษิณปากกล้าขาสั่น

'อิ๊งค์' พบ 'นาโอมิ' นางแบบระดับโลก ต่อยอดอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์

น.ส.นาโอมิ เอเลน แคมป์เบลล์ นางแบบชื่อดังระดับโลก เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่น ในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

‘สว.สำรอง’ บุกดีเอสไอ ร้องสอบปมล็อกโหวตฮั้วเลือก สว. หลัง กกต.ตีตกคำร้อง

กลุ่มสว.เพื่อประชาชน นำโดยพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว เพื่อประชาชน พร้อมตัวแทน สว.สำรอง ประมาณ 30 คน ยื่นคำร้องต่ออธิบดีดีเอสไอ