
4 ก.พ.2568 – ที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. เปิดเผยว่า จากผลการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมา ทุกพรรคการเมืองต้องเริ่มมองแล้วว่าต้องสร้างฐานการเมืองท้องถิ่นให้แข็งแรงเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งการเมืองระดับประเทศ ดูได้จากการที่ พรรคเพื่อไทยส่งลงเลือกตั้ง นายก อบจ. 16 จังหวัด ได้มา 10 เขต ผลงานนี้โดยส่วนตัวคิดว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง
“มนต์ขลังของคุณทักษิณที่ทุกคนพูดว่าเสื่อมแล้ว แต่การเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นแล้วว่ายังมี อิทธิฤทธิ์อยู่พอสมควร ในช่วงขณะนี้ แต่ต้องมองระยะยาวว่าถ้าเพื่อไทยไม่มีคุณทักษิณแล้วจะมีใครเป็นตัวแทนได้หรือไม่ คือปัญหาและไม่มีคนรุ่นใหม่ที่จะมีบทบาทโดดเด่นเหมือนคุณทักษิณ การเลือกตั้งครั้งนี้ทำได้ดีโดยเฉพาะไม่เสียเมืองหลวงเชียงใหม่ถือเป็นหมุดหมายสำคัญถ้าเสียที่เชียงใหม่จะทำให้มีปัญหา ถึงแม้จะเสีย เชียงราย ลำพูนไปแต่เมืองใหญ่ๆยังคงได้อยู่”
รศ.ดร.พรอัมรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับพรรคประชาชนนั้นการเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งนี้พลาดเป้าหมายมากพอสมควรเพราะว่าในจังหวัดที่มี สส. เต็มจังหวัด ทั้งในภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงภาคใต้ที่ภูเก็ตและที่คาดหมายคือ สุราษฎร์ธานี ก็ไม่ได้ตามเป้าแต่ที่ลำพูนคือหนึ่งในเป้าหมายแต่ได้เพียง 1 ที่นั่ง ภาพรวมพลาดเป้าไปเยอะ แต่บริบทของการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติมีบริบทแตกต่างกันอย่างน้อย 2 ประการ ประการแรกการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเขตเลือกตั้งเป็นเขตทั้งจังหวัดจะมีปัญหาสำหรับพรรคการเมืองแนวใหม่ซึ่งต้องการเสนอคนใหม่เข้ามา
“ส่วนใหญ่นายก อบจ. แชมป์เก่าจะเป็นฝ่ายชนะที่ชนะได้เพราะว่า มีผลงาน มีงบประมาณ มีเครือข่ายการจัดตั้ง มีหัวคะแนน มี ส.อบจ. ในเครือข่ายซึ่งเป็นการสานประโยชน์ซึ่งกันและกันและที่สำคัญมีระบบอุปถัมภ์ การเลือกตั้ง อบจ. ที่ผ่านมา ทุกพรรคการเมืองมองเห็นข้อมูลเป็นรูปธรรมว่าเป็นข้อมูลเหล่านี้มันจะเป็นประโยชน์กับพรรคการเมืองของตัวเองในแง่ของการสรุปบทเรียนว่าที่ตัวเองแพ้ในพื้นที่ทั้งที่มี สส. แต่กลับพ่ายแพ้ อบจ. เกิดจากอะไร การคัดเลือกตัวผู้สมัครก็มีความสำคัญและสังเกตดูครั้งนี้มีการเลือกตั้งนายก อบจ. หลายจังหวัดมีผู้ใช้สิทธิแต่เลือกโนโหวต
รศ.ดร.พรอัมรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ดูได้จาก จ. นครราชสีมาคะแนนโนโหวต 100,000 กว่าคะแนน เชียงใหม่ 50,000 กว่าคะแนน และจังหวัดอื่นๆก็ คะแนนโนโหวตออกมา 40,000-50,000 คะแนน ซึ่งคนที่ไปใช้สิทธิแต่ ไม่ลงเลือกใคร ดังนั้นการเมืองต่อจากนี้ไปพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องเลือกผู้สมัครที่โดนใจชาวบ้านที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘แก้วสรร’ แพร่บทความ ‘เกาะติด คดีจริยธรรม 44 สส.ส้ม’
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง เกาะติด “คดีจริยธรรม ๔๔ สส.ส้ม” มีเนื้อหาดังนี้
'เท้ง' ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้ แข่งกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคประชาชนกับภูมิใจไทย
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในเมื่อคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชน
’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน
พรรคส้ม โชว์นโยบายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เกทับ 'ภูมิใจไทย' เปิดรับทหารอาสา
เฟซบุ๊ก พรรคประชาชน เปรียบเทียบนโยบายความมั่นคงกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจะเปลี่ยนจากทหารเกณฑ์ เป็นการเปิดรับทหารอาสา 100,000 อัตรา ประจำการ 4 ปี เงินเดือน 12,000 บาท
ประชาคมแพทย์ชี้ 'ประชาธิปัตย์' เผาสะพานจริงสะเทือนแผนรัฐบาลส้มแดงแป้ง!
เพจประชาคมแพทย์ได้โพสต์ในลักษณะบทความ
'ชูวิทย์' งง 'พรรคส้ม' ย้อนแย้ง กับความฝันเรื่องการเมืองใหม่ แต่กลับไปได้ของเก่ากว่าเดิม
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ความย้อนแย้งของการเมืองใหม่

