จี้ กทม.ใช้ยาแรงแก้ปัญหา PM2.5

อนุ กมธ.ขับเคลื่อนนโยบายบริหารราชการรูปแบบพิเศษ จี้ กทม.บังคับใช้กม.แก้ PM 2.5 ด้าน 'รัดเกล้า' ลั่นผิดหวังผู้บริหารระดับนโยบายไม่เข้าร่วม ยันติดตามใกล้ชิด หากไม่ดีขึ้นเตรียมถกนัดถัดไป

22 ม.ค.2568 - ที่รัฐสภา นายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาและติดตามการขับเคลื่อนนโยบายการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ ในกมธ.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร แถลงการประชุม กมธ.ว่า เราได้มีการประชุมโดยเชิญหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับพิจารณาการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในกทม. แต่น่าเสียดายที่ผู้บริหารของกทม.ไม่ได้เข้ามาร่วมประชุมด้วย มีเพียงผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อมกทม. เข้าร่วมชี้แจง โดยคณะอนุกมธ.ได้เสนอกรณีศึกษาการดำเนินการของต่างประเทศเพื่อเป็นต้นแบบให้ กทม. พัฒนาวิธีการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ให้เป็นในเชิงรุกมากขึ้น

ด้านนางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี โฆษกอนุกมธ.ฯ กล่าวว่า ขอให้กรุงเทพมหานครยึดหลักปฏิบัติเหมือนประเทศเกาหลีใต้ คุณภาพชีวิตของประชาชนยิ่งใหญ่กว่าเงินตราที่เสียไป (The value of human beings is far greater than that of money) พร้อมทั้งคณะอนุกมธ.ฯ ได้มีข้อเสนอแนะให้พิจารณามาตรการ ปิดไซต์ก่อสร้าง เพื่อเป็นการกดดันรถบรรทุกที่ปล่อยควันดำในทางอ้อม และติดตั้งป้ายเตือนค่าฝุ่น PM 2.5 ในบริเวณสถานที่สาธารณะ เช่น ป้ายรถเมล์ และทางเข้าสวนสาธารณะทุกแห่งเพื่อให้เป็นมาตรการระยะสั้น และสำหรับมาตรการระยะยาวนั้น ให้พิจารณากำหนดเขตมลพิษต่ำ Bangkok Low Emission Zone

นางรัดเกล้า กล่าวต่อว่า อยากเห็นกรุงเทพมหานคร ใช้ยาแรงในการตรวจสอบว่าไซด์ก่อสร้างไหนที่มีรถปล่อยควันดำออกมา ให้ปิดไซต์ก่อสร้างนั้นเลย เพราะในสภาวะฉุกเฉินแบบนี้เราต้องช่วยกันทำให้ฝุ่นลดลง ส่วนเรื่องการสั่งปิดโรงเรียน ตนเกิดการตั้งคำถามว่าโรงเรียนที่ปิดไปแล้ว มีการเรียนออนไลน์หรือไม่ หรือไม่มีการเรียนการสอนเลย แต่ก็ได้คำตอบมาว่าในบางโรงเรียนมีการเรียนออนไลน์ และบางโรงเรียนสามารถเรียนชดเชยได้ ซึ่งหากใช้กฎหมายจะสามารถแจ้งล่วงหน้าให้ผู้ปกครองได้เตรียมความพร้อม และแผนการรับมือ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างต่อเนื่องควบคู่กันไปกับการเรียน

นางรัดเกล้า กล่าวว่าอยากเห็นความเข้มงวดเข้มแข็ง เอาจริงเอาจัง และการทำงานเชิงรุกของ กทม. ที่มากกว่านี้ วันนี้แอบผิดหวังเล็กน้อยที่ระดับผู้บริหารของ กทม. ไม่มาเข้าร่วมการประชุม และทางอนุกมธ.ฯ จะติดตามสถานการณ์ฝุ่นอย่างใกล้ชิดต่อไป ถ้ายังไม่ดีขึ้น จะมีการนัดประชุมอีกครั้ง และหวังว่าในระดับนโยบาย และระดับบริหาร คนที่สามารถชี้แจงในประเด็นเชิงลึกได้ จะมาเข้าร่วมประชุมในครั้งถัดไปด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่

รทสช. เปิด 3 แคนดิเดตนายกฯ ชูสโลแกน เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค แถลงนโยบายพรรค พร้อมเปิดสโลแกนพรรค “เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ” และเปิดแคนดิเดตนายกฯ 3 คน ได้แก่ นายพีระพันธุ์ นายอรรถวิชช์ และนายนราพัฒน์

'รทสช.' เตรียมเปิดตัว แคนดิเดตนายกฯ-นโยบายพรรคชุดแรก 22 ธ.ค.นี้ 

พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เตรียมแถลงเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และนโยบายชุดแรก ในวันที่ 22 ธ.ค.68 เวลา 13.00 น. ณ ที่ทำการพรรค

รทสช. ปลุกว่าที่ผู้สมัคร สส. ยึดความซื่อสัตย์ ต้องไม่ก้มหัวให้นายทุน

รทสช. ปลุกใจว่าที่ สส. ต้องรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอำนาจประชาชน ยึดความซื่อสัตย์ ไม่ก้มหัวให้นายทุน-ระบบซื้อเสียง ตั้งเป้าฟื้นเศรษฐกิจฐานราก ปลดล็อกข้อพิพาทที่ดินให้เกษตรกร

รทสช. ติวเข้มผู้สมัคร สส. ชูนโยบายปราบสแกมเมอร์ ปิดฉากรบสยบเขมร

รทสช. พร้อมลุยเลือกตั้ง "พีระพันธุ์" นำเวิร์กช็อป ติวเข้มว่าที่ผู้สมัคร สส. ทั่วประเทศ ย้ำจุดยืน ‘เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ’ ปิดฉากรบสยบเขมร ปราบทุจริต-สแกมเมอร์ ลดค่าไฟ-น้ำมัน เสริมเศรษฐกิจฐานราก สร้างเงินให้เกษตรกร

อดีตนักบินขับไล่ เชียร์ทัพฟ้า เร็ว-รุนแรง-เด็ดขาด จบเกมรบกัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจ ปชช.

‘กัปตันตุ้ย- ปุญณัฐส์’ เชียร์ ‘ทัพฟ้า’ จบเกมรบกัมพูชา ‘เร็ว-รุนแรง-เด็ดขาด’  แนะผนึก 3 เหล่าทัพเปิดปฏิบัติการ ‘ยึดจุดสำคัญก่อนเจรจา’ เร่งปิดฉากสู้รบภายในสิ้นปี สร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน