เปิด เหตุผล 3 ไม่ ที่คนไทยไม่เอา 'กาสิโน' ไม่ชอบธรรม ไม่เชื่อมั่น ไม่ไว้ใจ

15 ม.ค.2568 - เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน โพสต์ข้อความกรณี ครม.อนุมัตหลัการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) และมีบ่อนกาสิโน ถูกกฎหมาย ว่า "ไม่ชอบธรรม ไม่เชื่อมั่น ไม่ไว้ใจ" เหตุผล 3 ไม่ ... ที่คนไทยไม่เอากาสิโน

1.“ไม่ชอบธรรม”

กาสิโนไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องต้องการ แต่เป็นความต้องการของผู้คุมอำนาจทางการเมืองและอำนาจทุน และกำลังพยายามจะใช้อำนาจมากลากไปเพื่อให้เปิดกาสิโนได้ตามอำเภอใจ
“ไม่ฟัง”

ผลการศึกษาทางวิชาการของทุกสถาบันล้วนตรงกันว่า เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนคนไทยไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโน

ผลสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ในการสำรวจทุกครั้ง ตั้งแต่ปี 2558,2560,2562,2564 และ 2566 คนไทยเกิน 50% ไม่เห็นด้วยกับการเปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย โดยเปอร์เซนต์ของผู้ไม่เห็นด้วยอยู่ระหว่าง 51% ถึง 65% มากกว่าผู้เห็นด้วยกับการเปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมายเกือบเท่าตัว

ผลสำรวจของสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้าโพลล์) วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2564 พบว่า 46.5% และ 10.3 ไม่เห็นด้วยเลยและไม่ค่อยเห็นด้วยให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย

แม้กระทั่งผลที่คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 1 สำรวจโดยวิทยาลัยการเมืองและการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ก็ยังพบว่า มีผู้ตอบเพียง 36% ที่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมาย

แต่ดูเหมือนรัฐบาลไม่เคยฟังเสียงของประชาชน

“ไม่ซื่อ”
ที่สำคัญ ในการเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา การตั้งสถานบันเทิงครบวงจรอันมีกาสิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ไม่ได้ถูกประกาศในนโยบายหาเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดเลย โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และรวมถึงพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา อันเป็นพรรคแกนนำสำคัญ
การกระทำเยี่ยงนี้จัดได้ว่าเป็นความไม่ซื่อของพรรคร่วมรัฐบาล ที่พอมีโอกาสได้บริหารประเทศ ก็ใช้อำนาจกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพวกพ้องของตน โดยไม่สนใจรับผิดชอบต่อสิ่งที่หาเสียงไว้กับประชาชน

“ไม่อาย”
รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้จัดทำการรับฟังความเห็นประชาชนเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ผ่านทางช่องทางอินเตอร์เน็ต โดยไม่มีการประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง และรีบร้อนรวบรัด เปิดรับฟังเพียง 18 วัน และไม่ได้มีข้อคำถามว่า “ประชาชนเห็นด้วยกับกฎหมายนี้หรือไม่?” แต่หลังจากนั้น บุคคลในรัฐบาลกลับให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ประชาชนกว่า 80% เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ นับเป็นเรื่องที่ไม่ละอาย

2.“ ไม่เชื่อมั่น”

“ไม่โปร่งใส”
กฎหมายที่รัฐบาลกำลังเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ยกอำนาจการตัดสินทุกเรื่องเกี่ยวกับกาสิโนให้แก่ คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือเรียกว่า “ซุปเปอร์บอร์ด” อันมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และรองนายกรัฐมนตรี 1 คนกับรัฐมนตรีบางกระทรวง 6 คนและข้าราชการประจำ 3 คน กับผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐมนตรีอีกไม่เกิน 6 คน โดยไม่มีกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนอื่น ทั้งภาคท้องถิ่น และภาคประชาสังคม

ที่สำคัญคือ กฎหมายนี้ได้ตัดมาตราว่าด้วย“การรับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ที่สถานบันเทิงครบวงจรจะไปตั้ง และพื่นที่ใกล้เคียง” ออกไปจากร่างเดิม แสดงให้เห็นเจตนาที่ไม่ต้องการให้มีการตรวจสอบ ไม่มีความโปร่งใส และไร้ซึ่งธรรมาภิบาล

“ไม่จริงใจ”

รายงานการศึกษาเพื่อเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ฯ ของสภาผู้แทนราษฎร เสนอว่าประเทศไทยควรยึดต้นแบบ “สิงคโปร์โมเดล” เป็นสำคัญ โดยต้องมีกลไกป้องกันปัญหาและลดผลกระทบทางสังคมจากการมีกาสิโน แต่ในร่างกฎหมายที่รัฐบาลเสนอกลับไม่มีหน่วยงานป้องกันปัญหาและลดผลกระทบ รวมทั้งตัดหมวดว่าด้วย “กองทุนลดผลกระทบทางสังคม” ออกไป แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจต่อการจะดูแลสังคมของรัฐบาล

“ไม่ไหวแน่”
ปัญหาใหญ่ของประเทศที่มีกาสิโนถูกกฎหมายทั่วโลก คือ ความข้องเกี่ยวกับขบวนการอาชญากรรมและการถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน ซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการทุจริตคอรัปชั่น และความย่อหย่อนของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้น หากไม่มีการปฏิรูปตำรวจ และไม่มีการปราบคอรัปชั่นอย่างจริงจัง จะไม่มีทางจัดการปัญหาอาชญากรรม และการฟอกเงินในกาสิโนได้

3.“ไม่ไว้ใจ”
“ไม่รู้จะรีบไปไหน?”

ปฏิบัติการของฝ่ายการเมืองต่อภารกิจนี้ มีความรีบร้อน และรวบรัด พยายามจะผลักดันกฎหมายให้ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ โดยเร็ว ไม่มีกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชนอย่างจริงจังและจริงใจ ไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ รวมถึงไม่มีการศึกษาผลกระทบทางสังคมอย่างถูกต้องชอบธรรม

“ไม่รู้ว่าเอื้อใคร?”

ในบัญชีแนบท้ายกฎหมายของรัฐบาลฉบับนี้ ได้ลดสเปคกิจการต่าง ๆ อันเป็นส่วนประกอบของสถานบันเทิงครบวงจรร่วมกับกาสิโน เช่น โรงแรมไม่ต้อง 5 ดาว ห้างสรรพสินค้าไม่ต้องครบวงจร ศูนย์ประชุมฯไม่ต้องมี มีสระว่ายน้ำ สวนสนุก และร้านขายสินค้าOTOP เท่านั้นก็พอ
เหล่านี้น่าจะเป็นการเอื้อให้ผู้ลงทุนสามารถลดต้นทุนในส่วนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกาสิโนได้
“ไม่รู้เป็นตู้เอทีเอ็มของนายใหญ่ ... ?”

ในกฎหมายฉบับนี้จะมีการตั้ง “สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร” ขึ้นมา ที่น่าสนใจคือ สำนักงานนี้จะมีรายได้มาจากหลายทาง โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และอื่น ๆ ซึ่งเป็นหลักพันล้านในแต่ละปี โดยมีบทบัญญัติว่า “เงินและทรัพย์สินของสำนักงาน เมื่อได้หักค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว เหลือเท่าใดให้สำนักงานนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน”

การเปิดช่องไว้เช่นนี้ อาจทำให้สำนักงานที่ตั้งใหม่นี้กลายเป็นช่องทางให้เกิดการนำเงินที่รัฐควรได้จากกิจการสถานบันเทิงครบวงจร มาใช้จ่ายเพื่อตอบสนองนโยบายของฝ่ายการเมืองได้ คล้าย ๆ กับกรณีของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในสมัยหนึ่ง ที่รายได้จากการจำหน่าย “หวยบนดิน” ที่ไม่ได้นำส่งเข้าแผ่นดิน กลายเป็นตู้เอทีเอ็มให้นายใหญ่กดนำมาใช้ดำเนินงานทางการเมืองได้อย่างสบายมือ
#ได้เวลาส่งเสียงเราไม่เอากาสิโน

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สังศิต' ชี้ 3 จุดอันตรายดันเปิด 'กาสิโน' ข้องใจ ใช้ระบบให้ใบอนุญาตแทนประมูล

'สังศิต' ชี้ 3 จุดอันตรายดันเปิดกาสิโน ข้องใจ ใช้ระบบให้ใบอนุญาตแทนประมูล เตือนเกิดข่าวอื้อฉาว กังขา เขียนล็อคทุนจดทะเบียนหมื่นล้าน กีดกันคนเข้าร่วมธุรกิจแค่ไม่กี่ราย แนะเปิดแค่ 2 ที่ภายใน 20 ปี ไม่ใช่รอบแรกก็ให้แจกบาคาร่า 10 จังหวัดทั่วไทย

'ศึกษิษฏ์' เชียร์ 'กาสิโน' ไม่ต้องกังวล 'ฟอกเงิน-ทุนสีเทา' เหตุบริษัทยักษ์ใหญ่มืออาชีพ กำกับโดยโลก

'ศึกษิษฏ์' บอก กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผ่านความเห็น ปชช.แล้ว แต่น้อมรับความเห็นต่าง ระบุ ไม่ต้องกังวล 'ฟอกเงิน-ทุนสีเทา' เหตุบริษัทยักษ์ใหญ่มืออาชีพ กำกับโดยโลก เผย ค่าเข้ากาสิโน รอ คกก.เคาะ ขี้นต่ำ ป้องกันกลุ่มเปราะบาง แจงออก พ.ร.บ.ใหม่ เหตุกฎหมายพนันไทยล้าหลัง

'ธนาธร' แนะรัฐบาลทำ 'เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' ต้องรัดกุม ปิดช่องมิจฉาชีพใช้ฟอกเงิน

'ธนาธร' ชี้ ทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต้องรัดกุม ปิดช่องมิจฉาชีพใช้ฟอกเงิน แนะรบ.ฟื้นฟูอุตสาหกรรมไทย ระบุทางออกเดียวเรียกความเชื่อมั่นไทย

'พรรคส้ม' ไม่ค้าน 'กาสิโน' แต่สงสัยรัฐบาลทำเพื่อแก้ปัญหาสังคมหรือผลประโยชน์ทับซ้อน

'ณัฐพงษ์ ' สงสัย รัฐบาล ดัน 'เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' เพื่อแก้ปัญหาสังคมหรือผลประโยชน์ทับซ้อนกันแน่ ชี้ไม่มีแม้แต่ความชัดเจน จี้แจงให้ชัดมาตรการป้องกันปัญหาสังคม-ความโปร่งใสในการให้สัมปทาน

'ดร.อานนท์' ฟันเปรี้ยง! ผู้ปกครองที่ชั่วที่สุดเท่านั้น จึงสนับสนุนให้ปชช.หลงใหลในการพนัน

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัตหลัการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

ฟันธง 'กาสิโน' สิบแห่ง เค้กก้อนใหญ่หลายแสนล้าน 3 กลุ่ม สวาปาม ไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน!

มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ฟันธง ออกใบอนุญาตกาสิโนสิบแห่งเค้กก้อนใหญ่หลายแสนล้านบาท เปิดช่องเรียกเงินใต้โต๊ะ เพราะไม่ใช่การประมูล เชื่อสุดท้าย ไม่พ้น 3 กลุ่ม' ทุนใหญ่-ทุนต่างชาติ-ทุนการเมือง' จับมือกันสวาปาม ทำไทยเป็นแดนสวรรค์แหล่งฟอกเงิน!