26 ธ.ค.2567 - ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่าอานนท์ นำภา ฮีโร่ของด้อมส้มวิญญูชนจอมปลอม
หลังจากที่ทนายอานนท์ นำภา ถูกศาลตัดสินคดีที่ 6 รวมเป็นโทษจำคุก 18 ปี 10 เดือน 20 วัน ขบวนการล้มเจ้าก็นำมาเป็นประเด็นปั่นกระแสบิดเบือนเพื่อด้อยค่า ม.112 ทันที โดยส่วนใหญ่มักให้ข้อมูลเฉพาะที่ทนายอานนท์ต้องติดคุกเกือบ 19 ปี แล้วก็โจมตี ม.112 ให้กลายเป็นปีศาจร้ายอย่างไร้เหตุผลและหลักการใดๆ ทั้งๆ ที่เป็นโทษรวมกันถึง 6 คดี เนื่องจากทนายอานนท์กระทำความผิดซ้ำๆ ซากๆ
ในความเป็นจริง ทนายอานนท์เคยได้รับการปล่อยตัวหลายครั้ง แต่ทว่าทนายอานนท์กลับขาดจิตสำนึก กระทำผิดเงื่อนไขของการประกันตัวจนต้องกลับเข้าไปอยู่ในคุก พฤติกรรมของทนายอานนท์จึงดูสุดโต่งและแปลกประหลาด ไม่ใช่วิสัยของคนปกติ ทำให้น่าสงสัยว่าทนายอานนท์เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการทำผิดซ้ำซาก จงใจรับจ้างติดคุกเพื่อบิดเบือนด้อยค่า ม.112 ใช่หรือไม่?
นับได้ว่าพฤติกรรมหาเรื่องเข้าคุกของทนายอานนท์ต่างจากหลานธนาธรอย่างสิ้นเชิง เพราะหลานธนาธรทำผิด ม.112 เพียงครั้งเดียว แถมยังชิงยอมรับสารภาพผิดก่อนเสียด้วย ทำให้ได้รับความเมตตาจากศาล ได้เข้าสู่การทำแผนบำบัดฟื้นฟูร่วมกับสหวิชาชีพ และสุดท้ายไม่ต้องติดคุก ยิ่งตอกย้ำความน่าสงสัย ทนายอานนท์รับงานขบวนการล้มเจ้าในการติดคุกเพื่อบิดเบือนด้อยค่า ม.112 ใช่หรือไม่?
นอกจากทนายอานนท์จะกระทำผิด ม.112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจนแล้ว ทนายอานนท์ยังมีพฤติกรรมที่น่าตำหนิติเตียนอีกประการหนึ่ง คือ การเปิดหน้าลูกๆ ของตนเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการ romanticize กลับขาวเป็นดำ กลับดำเป็นขาว
ทั้งๆ ที่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ ม.112 หากแต่เป็นทนายอานนท์ที่กระทำผิดกฎหมาย มิหนำซ้ำยังอาศัยความไร้เดียงสาของลูกๆ ในการฟอกขาวความผิดของตน เปิดหน้าลูกๆ โดยขาดจิตสำนึกความเป็นพ่อ พฤติกรรมของทนายอานนท์จึงเป็นการละเมิดสิทธิเด็กของลูกตัวเอง ดังนั้น สิ่งที่สมควรต้องถูกปฏิรูปมากที่สุด คือ ความเป็นคนและความเป็นพ่อคนของตัวทนายอานนท์เอง ไม่ใช่การปฏิรูปผู้อื่นแต่อย่างใด
การยกย่องทนายอานนท์เพื่อบิดเบือนด้อยค่ากฎหมายจึงเป็นพฤติกรรมของวิญญูชนจอมปลอม ถ้าไม่โฉดเขลาเบาปัญญาก็จงใจยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยก ไม่ใช่พฤติกรรมของผู้รักในสิทธิมนุษยชน เพราะเอาแต่ปกป้องผู้กระทำผิดกฎหมาย จนต้องถามดังๆ ว่าเคยให้ความเป็นธรรมกับสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกขบวนการล้มเจ้าคอยละเมิดสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนบ้างหรือไม่?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'อนาคตรัฐบาลชินวัตร 4 ใต้กรอบกฎหมายไทย'
นายแก้วสรร อติโพธิ วิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง "อนาคตรัฐบาลชินวัตร 4 ใต้กรอบกฎหมายไทย"
ดร.นิว ชำแหละพฤติกรรมครอบงำ จุดเริ่มต้นแทรกแซงทหาร ไปสู่ ‘ฮุนเซนโมเดล’
ที่น่ากลัวที่สุด การแทรกแซงทหารจากฝ่ายการเมืองอาจเป็นบันไดสำคัญไปสู่การครอบงำสถาบันสูงสุดตามแผนการฮุนเซนโมเดล
ดร.ศุภณัฐ ชี้ปิดประตูรัฐประหารในไทย ทหารต้องเป็นอิสระจากการเมืองฉ้อฉล
การปิดประตูรัฐประหารในประเทศไทย ต้องนำทหารออกจากการเมือง ที่สำคัญนักการเมืองเองก็ต้องไม่แทรกแซงทหาร
'ทักษิณ-พท.' อย่าเพิ่งตีปีก! ชั้น 14 ป.ป.ช. ใกล้งวด คดีครอบงำยิ่งชัด รอ กกต. เคาะ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้อง
รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง