'จักรภพ'ตีปี๊บ22 ม.ค.2568 วันที่LGBTQ+ ต้องจารึก

'จักรภพ' ชี้ 22 มค.68 เป็นวันประวัติศาสตร์โลก เมื่อประเทศไทยจะมี พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก จวก 'ทรัมป์' ประกาศต่อต้าน LGBTQ+ เอาใจคนกลุ่มเดียว เชื่อ แค่เห่าดังแต่ไม่กัดจริง

26 ธ.ค.2567 - นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในวันที่ 22 มกราคม 2568 จะเป็นวันประวัติศาสตร์ไทยและโลก เนื่องจากประเทศไทยจะประกาศใช้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม อย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความหมายมาก เพราะว่าคนเพศเดียวกันหรือที่เรียกว่า LGBTQ+ ก็สามารถจดทะเบียนสมรสได้ เหมือนกับมนุษย์คนอื่นในโลกนี้ เพื่อยู่ภายใต้ระบบกฎหมายเดียวกัน นี่เป็นการแสดงความใจกว้างและยืดหยุ่นได้ของประเทศไทย ที่ทำให้เห็นว่าวัฒนธรรมไทยเอามนุษย์เป็นหลัก ไม่ได้เอาเรื่องความคิดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นหลัก แต่มองในภาพรวมทั่วไปแบบที่เรียกว่ามนุษยนิยม

อดีตโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะดีขึ้นในแง่นี้ แต่สหรัฐอเมริกา ก็กำลังจะมีเรื่องปวดหัวใหม่ เพราะว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นเวทีแล้วประณามเรื่อง LGBTQ+ อย่างชนิดที่เรียกว่าขนานใหญ่ โดยประกาศจะไปหยุดเรื่องหลักสูตรที่เกี่ยว LGBTQ+ ตั้งในระดับประถม และมัธยม ทั้งหมดในสหรัฐ คือจะไม่ยอมให้มีการเรียนการสอน และให้ไปอยู่ในที่เดิมที่บอกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดพลาด ไม่ใช่ของที่ถูกต้องหรือเป็นสิ่งที่ปกติธรรมดา โดยเขาใช้คำว่า LGBTQ ของฝ่ายซ้าย ซึ่งเป็นกลุ่มสังคมนิยมของประเทศนั้นๆ ซึ่งไม่ใช่ ความจริงแล้วมันเป็นกระบวนการทางสังคมธรรมดา

“ทรัมป์ประกาศว่า LGBTQ+ เป็นพวกฝ่ายซ้าย เขาจะยุติให้หมด จะไม่ให้เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลของเขา คำพูดนี้ก็สร้างความกังวลพอสมควรกับบางคน ว่าเสียงทรัมป์ ทำให้ข่าวนั้นดังเป็นพิเศษ หลายคนเลยกลัวกันว่า สหรัฐจะเป็นประเทศนำทางกลับไปสู่ภาวะขวาจัด หรืออนุรักษ์นิยม โดยที่ไม่ได้ดูว่าโลกในความเป็นจริง มันดำเนินเปลี่ยนแปลงขั้นไหนแล้ว” นายจักรภพ กล่าว

นายจักรภพ ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ทรัมป์มักจะเห่าดังกว่ากัด บางทีถ้าเขาพูดอะไรรุนแรงก็เพื่อจะเอาใจฐานเสียงที่เป็นกลุ่มคนผิวขาว นิกายโปเตสแตนด์ ซึ่งอยู่ใจกลางสหรัฐ แถบ เช่น แคนซัส มิสซูรี่อาร์คันซอ เป็นต้น ซึ่งเป็นคนที่คิดว่าตัวเองเป็นอเมริกันแท้ คนอื่นที่อพยพมาทีหลังเป็นอเมริกันเทียม สมควรที่จะไล่ออกไป หรือยุติการให้เคลื่อนเข้ามาในฐานะผู้อพยพเข้าประเทศ ซึ่งแนวความคิดที่แคบตรงนี้แสดงให้เห็นถึงการเห็นแก่พวกตัวเองที่หน้าตาเหมือนกัน ลักษณะทางร่างกายเดียวกัน โดยไม่ได้ดูว่ามนุษย์มีความแตกต่างแค่ไหนในระดับโลก จึงเป็นที่มาของความรู้สึกต่อต้าน LGBTQ เขาจึงพูดเพื่อที่จะเอาใจคนกลุ่มนี้ ไม่คิดที่เขาจะทำรวดเร็ว หรือทำมากอย่างได้ประกาศไปในการต่อต้าน

นายจักรภพ ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ขบวนการ LGBTQ+ ได้กลายเป็นขบวนการทางสังคมไปแล้ว จริงอยู่ก่อนหน้านี้อาจจะเป็นเพียงความคิดของคนกลุ่มน้อย ที่พยายามจะมีสิทธิในสังคมเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ท่ามกลางคนกลุ่มใหญ่ที่ยังมีอคติและต่อต้านอยู่ แต่ปัจจุบันประชามติเกือบทั่วโลก แม้กระทั่งในประเทศที่บอกว่า LGBTQ+ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามหลักศาสนา สังคมก็ตอบรับกันมากมายในหลายๆ ประเทศที่มีศาสนาคอยห้ามอยู่ แต่สังคมเขาจะเดินไปข้างหน้าด้วยความเป็นเสรี ดังนั้นการที่ทรัมป์ ออกมาพูดในคราวนี้ เขาแค่แสดงให้คนทึ่ง ว่าเขาสามารถที่จะพูดสวนทางกับกระแสสังคมในขณะนี้ได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเฉพาะกลุ่มเฉพาะด้าน แต่ผลที่เกิดขึ้นกับสังคมนั้น ตราบใดที่เรายังต่อสู้กันอยู่ ทั้งคนที่เป็น LGBTQ+ และคนที่ไม่ได้เป็น ก็ยังเห็นใจ เข้าใจ และอยากร่วมโลกด้วยกันในฐานะมนุษย์ที่มีความสงบสันติอยู่ภายในใจ

“ถ้าเราช่วยกันแบบนี้ กระแสความคิดแบบขวาจัดก็ชนะไม่ได้หรอกครับ การแสดงออกของเขาก็เป็นเรื่องของคนที่อยากจะหมุนนาฬิกาทวนเข็มย้อนไปด้านหลัง เช่นเดียวกับเรื่องต่าง ๆ เท่านั้นเอง แต่โลกไม่ได้เป็นอย่างนั้น แม้กระทั่งพุทธศาสนิกชน ที่ไม่มีอะไรต่อต้านเรื่อง LGBTQ+ ก็ยังมีหลักธรรมที่ชัดเจนว่า ทั้งหมดนี้มันก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป เราอยู่ในปัจจุบันก็จริง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเห็นถึงอนาคตที่จะมาต่อไปด้วย นี่คือการอยู่ในโลกกับการมีทรรศนะแบบรอบคอบ ไม่เสี่ยงอันตราย และไม่สร้างความขัดแย้งที่จะนำไปสู่มาสงคราม แต่อย่างว่าแหล่ะครับ ถ้ากลัวว่าทรัมป์จะมาสร้างบรรยากาศไม่ดีมาก ๆ ก็ให้นึกไว้ว่า เห่าแล้วไม่กัด หรือเห่าดัง แต่ไม่กัดแรง เอาไว้เท่านั้นเอง” นายจักรภพกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรีนแลนด์ ยืนหยัดคัดค้าน 'โดนัลด์ ทรัมป์'

ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ประกาศย้ำอีกครั้งว่า เขาต้องการควบคุมกรีนแลนด์ แต่ผู้นำรัฐบาลของเกาะมีปฏิกิริยาตอบโต้เรื่องนี้ด้วยคำพูดที่ชัดเ

'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ