'อดีตบิ๊กทอ.' ลั่นไม่ว่าเสื้อสีอะไร ถ้ารังเกียจระบอบทักษิณ ถือเป็นพวกเดียวกัน

19 ธ.ค.2567 - พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ช่วงนี้ถือว่าเป็นปฐมบทของสงครามการเมืองกลางเมือง Political Civil Conflict or Political War ระหว่างระบอบทักษิณที่มีอำนาจรัฐในมือและคนสนับสนุนส่วนหนึ่งกับมวลชนต่อต้านระบอบทักษิณหรือกลุ่มปฏิปักษ์ลัทธิทักษิณนิยม

เหตุการณ์วันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา กลุ่มมวลชนหลายเสื้อสีได้ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. ขอให้เร่งไต่สวน 12 ข้าราชการที่มีส่วนช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ให้ถูกคุมขังในเรือนจำ

ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นยุทธการ “เด็ดหัว Decapitation” ระบอบทักษิณ โดยการใช้ “หลักการทางกฎหมาย คือ ป.ป.ช.เป็นกลไกในการ “เด็ดหัวผู้นำระบอบทักษิณ” Decapitation แปลว่า “การตัดหัว” ในเชิงกายภาพ แต่ในเชิงอุปมาอุปไมย คือการ “กำจัดผู้นำ” ให้หมดอำนาจอิทธิพล” หรือเป็นเพียง “วาทกรรมสัญลักษณ์” เท่านั้นนะครับ

ในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการสงครามนั้นการกำจัด “แม่ทัพ” เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญยิ่ง ชึ่งสามารถชนะศึกได้เลยเพราะทันทีที่แม่ทัพตายหรือพระมหากษัตริย์ผู้ทรงนำทัพสิ้นพระชนม์ “ทัพ” แตกทันที เช่น สมเด็จพระนเรศมหาราชทรงชนะศึกยุทธหัตถีฟันพระศอพระมหาอุปราชสิ้นพระชนม์บนคอช้าง ทัพพม่าแตกและหย่าศึกในทันที

การลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีเคนเนดี้ตายทำให้นโยบายการเมืองสหรัฐฯ เปลี่ยนไปทันทีในปี ค.ศ.๑๙๖๓

การลอบสังหารคุณสนธิ ลิ้มทองกูล เพื่อขจัดผู้นำ “กลุ่มพันธมิตร” ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจน แต่เดชะบุญคุณสนธิ รอดชีวิตมาได้อย่างปฏิหาริย์และคู่ปรับที่สมบูรณ์แบบกับระบอบทักษิณ

และการเด็ดหัวผู้นำต่างๆ ในสงครามกองโจรก่อการร้ายในตะวันออกกลาง แต่นั่นเป็น “การเด็ดหัวผู้นำเชิงกายภาพ” Physical Decapitation ด้วยกำลังอาวุธและความรุนแรงของระบบสงคราม

ดังนั้น “การ รปภ.ผู้นำจึงมีความสำคัญมากๆ” และมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง แต่ในกรณี “อหิงสา” นั้น “กลไกทางนิตินัยและการเมือง” นั้นมีความสำคัญมากๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วยกำลังอาวุธอันนำสู่สงครามกลางเมืองร้อน

วันนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องพึ่ง “กลไกเชิงนิตินัย” เป็นหลักและกรณี “ป.ป.ช.กับระบอบทักษิณหยามกฎหมาย” กฎหมายจึงต้องศักดิ์สิทธิ์

ป.ป.ช.คงต้องรักษาอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ก่อนหน้านี้ พลอากาศโทวัชระ โพสต์ข้อความว่า ขอบคุณอาจารย์แก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการนิติศาสตร์ นักกฎหมายผู้กล้าหาญ ผู้มีอุดมการณ์แน่วแน่ต่อต้าน “ระบอบทักษิณ” ขอบคุณมวลชนที่ร่วมกันออกมา “รวมพลเรียกร้องความยุติธรรม ความถูกต้องชอบธรรม” ในวันนี้ที่ ป.ป.ช.ให้ดำเนินการทางกฎหมาย โดยเฉพาะ ม.157 กับข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือนายทักษิณ ไม่ต้อง “ติดคุก”
 
ไม่ต้องคิดมากนะครับ คนที่ “รังเกียจ ไม่เอาระบอบทักษิณ ไม่นิยมทักษิณ เป็นพวกเดียวกัน” เพราะทักษิณเป็นบุคคลที่ศาลสถิตยุติธรรมพิพากษาตัดสินแล้วว่า “ผิดจริง” ในข้อหาทุจริตคดโกงคอรัปชันโดยใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่นายกรัฐมนตรีทำชั่ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แพทยสภา' ตื่น! สอบจริยธรรมหมอ สั่งรพ.ตำรวจ ส่งหลักฐาน 'ทักษิณ' รักษาตัวชั้น 14

ความคืบหน้ากรณีมีบุคคลหลายกลุ่มเช่น นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นคำร้องให้แพทยสภา ที่เป็นองค์กรวิชาชีพด้านการแพทย์-สาธารณสุข สอบสวนการรักษาพยาบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก

'ชัยชนะ' ลั่นทักษิณไม่ผิด แต่เป็นผู้ได้รับผลของการกระทำนำตัวไปรักษาชั้น 14

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

'จตุพร' ฉะ 'ทักษิณ' เดินเกมการเมืองอบจ. แบบตีท้ายครัว ใช้นโยบายปราบผู้มีอิทธิพลเพื่อต้อนเข้าคอก

นายจตุพร​ พรหมพันธุ์​  กล่าวถึงบทบาทของนายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ในการเป็นผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ต่างๆ ว่า​ จากคำพูดของ ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ สส.พะเยา ที่ออกมาระบุว่าได้พานายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ 

จับตาอนุกมธ.ยุติธรรมตากใบหยิบยกรายงานมาถก เพื่อคืนความยุติธรรมให้ผู้สูญเสีย

นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้เมื่อ 20 ปีก่อน (17 ธ.ค.) รายงานสอบข้อเท็จจริงกรณี #ตากใบ ได้ส่งถึงนายกรัฐมนตรีใน

คดีป่วยทิพย์ชั้น14ในมือ‘ป.ป.ช.’ ‘รอด-ร่วง’สะเทือนการเมือง

เป็นอีกหนึ่งคดีที่ท้าทายสำหรับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังมีมติแต่งตั้ง องค์คณะไต่สวน ซึ่งประกอบด้วยกรรมการ ป.ป.ช.ทุกคน เพื่อตรวจสอบกรณีกล่าวหานายสหการณ์

'สนธิญา' ลุยร้อง กกต. จัดหนัก 'ทักษิณ' จุ้นเพื่อไทย

นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่พรรคเพื่อไทย จัดสัมมนาที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 13-14 ธ.ค. รวมถึงคำพูดของนายทักษิณ ในช่วงปาฐกถาในเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทยในหลายประเด็น