'ธีระชัย' ไขปมคุณสมบัติ 'กิตติรัตน์'

05 ธ.ค.2567 - นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “คุณสมบัติกิตติรัตน์” ระบุว่า ข่าวไทยรัฐ

[วันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ไม่ได้ส่งชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ว่าที่ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาให้กฤษฎีกา ตรวจสอบคุณสมบัติแต่อย่างใด เนื่องจากเคยมีแนวคำวินิจฉัยเก่าอยู่แล้ว ซึ่งคงเทียบเคียงจากของเดิมได้ ผมเข้าใจว่าเขาคงดูละเอียดแล้ว และหากเขาไม่ถามเราก็ไม่ต้องบอก

เมื่อถามว่า ข้าราชการการเมือง รวมถึงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า หากตามความเห็นตนที่ปรึกษาของนายกฯ ไม่ได้รวมเป็นตำแหน่งข้าราชการการเมือง]

ผมให้ข้อมูลแก่รัฐมนตรีจากพรรคร่วมว่า

1.ตำแหน่ง "ที่ปรึกษานายกฯ" มีระเบียบกำหนดว่าเป็นข้าราชการการเมือง แต่ตำแหน่ง "ที่ปรึกษาของนายกฯ" ไม่มีระเบียบกำหนดว่าเป็นข้าราชการการเมือง จึงไม่ใช่ข้าราชการการเมืองชัดเจนอยู่แล้ว

2.แกนหลักของระบบการเงินและเครดิตคือความน่าเชื่อถือ และธนาคารกลางจะไม่สามารถรักษาความน่าเชื่อถือไว้ได้

ถ้าหากมีข้อสงสัยว่ารัฐบาลสั่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินได้ตามชอบใจ เช่น ถึงแม้ประเทศเผชิญปัญหาเงินเฟ้อหนัก แต่พอถึงปีที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง รัฐบาลก็ให้ธนาคารกลางลดดอกเบี้ยเพื่อให้เศรษฐกิจสดใส เรียกคะแนนนิยมชั่วคราว เป็นต้น

หรือในเรื่องสถาบันการเงิน ธนาคารกลางจะไม่สามารถรักษาความน่าเชื่อถือไว้ได้ ถ้าหากมีข้อสงสัยว่ารัฐบาลสั่งปกป้องอุ้มแบงก์เน่าไม่ให้ล้ม เพียงเพราะมีคอนเนกชั่นกับนักการเมือง เป็นต้น

ดังนั้น ในการร่างกฎหมายกำกับธนาคารกลาง ผู้ร่างจึงต้องคำนึง ต้องทำให้มีภาพพจน์ความเป็นอิสระจากการเมือง perception of independence เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

3.น่าจะด้วยเหตุผลนี้ พ.ร.บ.ธปท. จึงไม่ได้กำหนดห้ามเพียงแค่บุคคลที่ 'ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง' แต่กำหนดห้ามไปถึงบุคคลที่ 'ดำรงตำแหน่งทางการเมือง' จึงมีเจตนารมณ์ให้เป็นข้อห้ามที่กว้างขวางกว่าข้าราชการการเมือง

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สถิตย์' ขอตั้งหลักรอหนังสือทางการเรื่อง 'กิตติรัตน์'

'สถิตย์' ขอตั้งหลักรอมติกฤษฎีกาเอกฉันท์-หนังสือ ก.คลังทางการ จับตา พท.ส่งชื่อใครแทนเสี่ยโต้ง หลังอดีตปลัดกุลิศ อดีตทีมกุนซือเศรษฐาก็วืดขาดคุณสมบัติ

'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก โต้ 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนาสู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง' คงทดแทนพอแล้ว

'จตุพร' ซัด 'ทักษิณ' สติแตก อารมณ์อึดอัดพลุกพล่าน พูดกราดเกรี้ยวดุดัน โชว์ถ่อยเป็นพ่อไม่ไว้หน้านายกฯ ลูกสาว จวกปราศรัยเหวี่ยงแห ดุด่าสองแง่สามง่าม ยัดเยียดสารพัดเนรคุณ ย้อนแสบทดแทนบุญคุณนักสู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือยัง ลั่น 'ผมเป็นหนี้อะไรนักหนา' สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้ง ชีวิตผจญชะตากรรมไม่รู้จบ บ้านรอถูกยึด คงทดแทนกันพอแล้วมั้ง