'ผู้ประสบภัยน้ำท่วมใต้' ร่อนจม.น้อยถึงนายกฯไม่ต้องลงพื้นที่ ขอแผนรับมือในอนาคตดีกว่ามาผัดข้าวให้กิน

'ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้' ร่อนจม.น้อยถึงนายกฯ หากจะลงผัดข้าว แจกถุงยังชีพ ลุยน้ำโชว์ ไม่ต้องมา จวกหน่วยงานรัฐไม่มีแผนรับมืออพยพช่วยเหลือทุกอย่างเหมือนเดิม เชื่อปีหน้าท่วมอีก วอนนายกฯสั่งทุกกระทรวงกำหนดแผนงานรับมือในอนาคตอย่างจริงจัง ดีกว่าลงพื้นที่มาผัดข้าวแจกถุงยังชีพ

4ธ.ค.2567- นายพงศภัค วุฒิปุญญะ ผูัประสบภัยน้ำท่วมชาวจังหวัดสงขลา เผยแพร่ จดหมายน้อยถึงนายกฯ ผ่านสื่อออนไลน์ Tik Tok มีใจความว่า กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่เคารพ ผมทราบจากสื่อ ว่า ฯพณฯ จะลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนในเหตุการณ์น้ำท่วม ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ ในฐานะคนใต้ คนหนึ่ง ขอเรียนกับ ฯพณฯ เพื่อโปรดทราบ ดังนี้

1.ถ้าจะเดินทางมาเพื่อผัดข้าว ไม่ต้องมา
2.ถ้าจะเดินทางมาเพื่อแจกถุงยังชีพ ไม่ต้องมา
3.ถ้าจะเดินทางมาเพื่อมาเดินลุยน้ำโชว์ ไม่ต้องมา

ขอให้ ฯพณฯ เดินทางลงมาแล้วยืนยันกับพี่น้องชาวใต้ ว่า ปีหน้าช่วงมรสุมภาคใด้รัฐบาลมีแนวทางการรับมือย่างไร / อีก 3 ปี

รัฐบาลมีแผนงานอะไรบ้าง / อีก 100 ปีข้างหน้า ในรุ่นลูก-รุ่นหลานของพวกเรา น้ำจะไม่ท่วมภาคใต้รัฐบาลทำได้ใช่หรือไหม

ขอแค่นี้ ฯพณฯ จะทำได้หรือไม่ครับ

ขอแสดงความนับถือ
นายพงศภัค วุฒิปุญญะ

นายพงศภัค เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ถ้าผมมีโอกาสได้เรียนให้ท่านนายกฯทราบด้วยตัวเอง ก็อยากบอกว่า ผมไม่ได้จะสื่อสารกับท่านในฐานะที่ผมเป็นคนภูมิภาคเดียวกันกับสามีของท่าน ผมเป็นชาวบ้านที่มีภาระต้องติดตามสถานการณ์น้ำและเฝ้ารอแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งก็ไม่มีและที่ตลกร้าย คือ รูปแบบการรับมือของหน่วยงานรัฐในปีนี้กับปีที่มีน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ ทุกอย่างเหมือนเดิม พูดให้เป็นรูปธรรมแบบเร็วๆ เราทราบการแจ้งเตือนจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 วัน รู้ว่าฝนกำลังจะตก รู้ว่าประมาณปีนี้จะเยอะมากกว่าปีก่อน เรารู้ล่วงหน้า

"แต่ที่ชาวบ้านอย่างผมไม่เห็นและไม่รู้ คือ ไหนละครับแผนการช่วยเหลือ ไหนละครับแผนอพยพ ไม่มี แล้วเมื่อวันที่ฝนตกหนักมาถึง ชาวบ้านอย่างผมจะพบกับภาพข่าวเหมือนทุกๆปี ประชาชนส่วนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมเจ้าหน้าที่ก็ต้องไปช่วยออกมา ภาพมอบของจำเป็นจากหน่วยงานต่างๆ แล้วบอกว่านี้คือการเยียวยา พอน้ำลดทุกอย่างคลี่คลาย ชาวบ้านอย่างผมก็เฝ้ารอว่าวันนี้ในปีหน้าน้ำก็จะท่วมอีก จริงไหมครับท่านนายกฯ"

ผู้ประสบภัยน้ำท่วมรายนี้ กล่าวอีกว่า "ผมไม่ได้จะบ่นให้ท่านนายกฯอย่างเดียว อยากจะบอกจริงๆ ว่า ชาวบ้านไม่ได้อยากทานข้าวผัดฝีมือท่านนายกฯช่วงน้ำท่วม ชาวบ้านอย่างน้อยก็แบบผมคนหนึ่ง ไม่ได้อยากได้ถุงยังชีพ ชาวบ้านไม่ได้อยากเห็นท่านนายกฯของประเทศไทยมาเดินลุยน้ำ จริงๆนะครับ พวกเราอยากเห็นแผนพัฒนาที่จะสามารถเป็นฝันและกำลังใจว่าอย่างน้อยเรามีแผนรับมือกับสถานการณ์น้ำในอนาคต ท่านนายกฯอาจจะยังไม่รู้ว่าน้ำท่วมปีนี้ ชาวสงขลาบางกลุ่มซ้ำใจที่สุดกว่าปีไหนๆ เพราะเนื่องจากในขณะที่สถานการณ์น้ำกำลังเข้าขั้นวิกฤต บรรดา ฯพณฯ สส.พรรคร่วมรัฐบาลของท่านเฉลิมฉลองวันเกิดกันใหญ่โต จนชาวบ้านแบบผมหลายๆคนต้องตั้งคำถามกับตัวเอง ว่า “เราอยู่ในวัฒนธรรมประชาธิปไตยแบบไหนกัน ที่พรรคการเมืองและตัวแทนของประชาชน ร่วมกันเฉลิมฉลอง ในวันที่ประชาชนต้องทนทุกข์”

"ประเทศของเราเสียเวลาไปกับวัฒนธรรมการแก้ปัญหาต่างๆ แบบงาน Event ซึ่งมันล้าสมัยมากในความคิดผม ขอให้ท่านนายกฯ ใช้วิกฤตการณ์น้ำในสมัยของท่าน ทำให้ท่านเป็น “นายกรัฐมนตรี” ด้วยตัวเองจริงๆสักครั้ง แล้วสั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องซึ่งก็มีอยู่นับ 10 กระทรวง กำหนดเป็นแผนงานจริงๆจังๆ และปฎิบัติในทันที แค่นี้ก็ดีกว่าที่ท่านจะพื้นที่มาผัดข้าวครับ“ นายพงศภัค กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พิชัย' เผยนายกฯ สั่งสินค้าอุปโภคบริโภคภาคใต้ 'ห้ามขาด ห้ามแพง'

'พิชัย'เผย 'นายกฯ' กำชับแต่แรก ให้ดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคภาคใต้ ห้ามขาด ห้ามแพง! เร่งจัดส่งถุงยังชีพให้ ปชช. สั่งพาณิชย์จังหวัดลุยฟื้นฟูหลังน้ำลด

อดีตรองผู้ว่าฯ แฉยับ! ภัยธรรมชาติ เป็นอาหารอันโอชะของ ขรก.-นักการเมือง ทุจริต กินหัวคิว สร้างภาพ

อดีตรองผู้ว่าฯกระบี่ แฉยับ! ข้าราชการ-นักการเมือง เห็น ‘ภัยธรรมชาติ’ เป็นอาหารอันโอชะ ทำโครงการเบิกงบฯร่วมกันทุจริตเบียดบังจัดถุงยังชีพใช้ของไม่มีคุณภาพแจกชาวบ้าน กิน ‘หัวคิว’ ยักยอกไปแจกจ่ายพวกพ้อง หลังนำลดจะเห็น ‘ผีเปรต’ ออกมาหาแสง สร้างภาพ แย่งตั้งงบฯฟื้นฟู เบิกจ่ายย้อนหลังเท็จ

นายกฯ โต้กระแสดราม่า ลั่นรัฐบาลนี้จ่ายเงินเยียวยาเร็ว น้ำท่วมภาคไหนก็ดูแลเท่ากัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ขอเพิ่มกรอบเงินทดลองของจังหวัด จาก 20 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท ในจังหวัดที่ผู้ว่าฯประกาศเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 6 จังหวัด คือ จ.นครศรีธรรมราชสุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส