ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจข่าวที่ปชช.สนใจ ยาเสพติดชายแดนมาอันดับแรก ขณะที่กระทรวงมหาดไทย ปชช.สนใจติดตามข่าวมากที่สุด ด้านปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพแพง เรื่องสำคัญให้รัฐบาลแก้ปัญหาหลัก
1 ธ.ค.2567 – สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง จัด 10 อันดับข่าว 10 อันดับกระทรวง ที่ประชาชนสนใจ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น จำนวนทั้งสิ้น 1,048 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา พบว่า
10 อันดับข่าวที่ประชาชนสนใจมากที่สุด:
การปราบปรามยาเสพติดที่ชายแดน: 63.8%
ข่าวกีฬาซีเกมส์ในปี 2025: 60.7%
ข่าวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทำงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน: 59.4%
ระเบิดเรือประมงไทย: 53.2%
เว็บไซต์การพนันล่อลวงเยาวชน: 50.1%
เงินกู้ออนไลน์มาเฟียจีนอาชญากรรมข้ามชาติ: 49.7%
อุบัติเหตุรถเครนถล่ม: 48.3%
น้ำท่วมภาคใต้: 45.2%
เหตุทะเลาะวิวาทที่สยามสแควร์: 40.3%
ข่าวเศรษฐกิจการบินไทย: 39.8%
10 อันดับกระทรวงที่ประชาชนสนใจติดตามข่าวมากที่สุด:
กระทรวงมหาดไทย (52.4%): สนใจเกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคม การแก้ไขปัญหายาเสพติด เยียวยาผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ การควบคุมและการให้สัญชาติแก่ต่างด้าว และการแก้ไขปัญหาชายแดน
กระทรวงพลังงาน (51.7%): มีความสนใจในเรื่องของค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้า พลังงานทดแทน และนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืน
กระทรวงสาธารณสุข (49.3%): ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการระบาดของโรคไข้เลือดออก, นโยบายใหม่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ, การจัดการกับโรคระบาดโควิด-19, และปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
กระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคม หรือกระทรวงดีอี (47.3%): สนใจในเรื่องของการป้องกันและจัดการกับการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์, การแจกเงินดิจิทัล, การรับมือกับความไม่ปลอดภัยในไซเบอร์สเปซ, และปัญหาเศรษฐกิจของประชาชน
กระทรวงกลาโหม (45.5%): ระเบิดเรือประมงไทย ปฏิรูปกองทัพ การซื้อเรือดำน้ำ และความมั่นคงชาติ ปกป้องรักษาดินแดนและผลประโยชน์ชาติ เป็นต้น
กระทรวงศึกษาธิการ (42.7%): ความสนใจเกี่ยวกับการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง, การใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการเรียนการสอน, ความปลอดภัยของนักเรียน, และการปฏิรูปการศึกษา เป็นต้น
กระทรวงพาณิชย์ (40.6%): สนใจในการควบคุมราคาสินค้าเพื่อลดความเดือดร้อนของผู้บริโภค
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (39.1%): ติดตามเรื่องคุณภาพชีวิตของคนสูงอายุ, คนพิการ, และการดูแลสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน เป็นต้น
กระทรวงอุตสาหกรรม (35.2%) ได้แก่ เข้มงวดโรงงานสารเคมี โรงงานสร้างมลพิษสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (33.8%) ได้แก่ ผลผลิตทางการเกษตร ลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร ส่งเสริมการเกษตร ช่วยเหลือเกษตรกร เป็นต้น
5 อันดับปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไข
เศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ (67.9%): ปัญหานี้เป็นปัญหาหลักที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไข เนื่องจากส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันโดยตรง ผู้คนต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการลดค่าครองชีพและสนับสนุนด้านเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ยาเสพติด (63.2%): ยาเสพติดยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อสังคมไทย ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามยาเสพติดเพื่อลดผลกระทบทางสังคมและความไม่สงบ
มิจฉาชีพ แก๊งคอลเซนเตอร์ ความไม่ปลอดภัยทางออนไลน์ (60.1%): การหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตและกิจกรรมของแก๊งคอลเซนเตอร์สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ต้องการให้รัฐบาลมีการตรวจสอบและจัดการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและลดปัญหานี้
สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ขยะอาหาร ขยะสารเคมี (58.6%): การจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมเป็นพิษเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างจริงจัง ประชาชนต้องการให้มีการจัดการที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
อุบัติเหตุ ความไม่ปลอดภัยทางถนน ยานพาหนะไม่ได้มาตรฐาน (57.5%): ความไม่ปลอดภัยทางถนนเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่องที่ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนต้องการให้รัฐบาลเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนและมาตรฐานของยานพาหนะ
ข้อเสนอแนะ
เพิ่มการสื่อสารและจัดกิจกรรมเพื่อเข้าถึงประชาชน: กระทรวงต่างๆ ควรเพิ่มการจัดกิจกรรมและการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อเข้าถึงประชาชนให้มากขึ้น โดยให้ข้อมูลที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายเกี่ยวกับนโยบายและโครงการต่างๆ ที่กระทรวงดำเนินการ
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน: กระทรวงควรส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการพัฒนานโยบาย โดยการเปิดพื้นที่ให้มีการแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะได้อย่างอิสระ
ใช้ข้อมูลจากการสำรวจในการวางแผนนโยบาย: ข้อมูลจากการสำรวจความสนใจของประชาชนควรถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานในการวางแผนและปรับปรุงนโยบาย เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเหมาะสม
เพิ่มความโปร่งใสในการทำงานของกระทรวง: ควรมีการเพิ่มความโปร่งใสในการทำงานและการใช้จ่ายของกระทรวง โดยเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์และช่องทางอื่นๆ ให้ประชาชนสามารถติดตามและตรวจสอบได้ง่าย
ผลสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพลนี้ช่วยให้เห็นภาพรวมของความสนใจและความต้องการของประชาชนต่อกระทรวงต่างๆ และข่าวสารที่สำคัญ ซึ่งสามารถนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงนโยบายและการดำเนินงานของกระทรวงในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มท. เลื่อนเก็บภาษีที่ดินออกไป 2 เดือน ผ่อนชำระได้ 3 งวด
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ขยายกำหนดเวลาดำเนินการตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
“อนุทิน” ตรวจน้ำท่วมสงขลา เร่งสำรวจความเสียหาย จ่ายค่าชดเชย
29 พฤศจิกายน 2567 ที่วัดนาทวี ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่ 2
'ปรเมศวร์' ย้ำชัดๆถึงอธิบดีกรมที่ดิน ต้องทำตามคำพิพากษาศาล ที่ดินเขากระโดงเป็นของการรถไฟ
นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กว่า เรื่องที่ดินเขากระโดงนั้นศาลมีคำพิพากษาแล้วทั้ง ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และศาลปกครองกลาง ว่าที่ดินเขากระโดงเป็นที่ดินของการรถไฟ เมื่ออธิบดีกรมที่ดินจะไปตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ตามมาตรา 61 วรรค 1
'ณฐพร' ซัด 'มหาดไทย' ยุค 'ศรีธนญชัย' ฟันธง 'ที่ดินเขากระโดง' จะถูกโทษเช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว
ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความกรณี กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ว่า
'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย
“ผู้ประกอบการ ราชบุรี” ชม “อนุทิน” ฟื้นกีฬาวัวลาน ให้แข่งตอนกลางคืน มั่นใจ เป็นงานเฟสติวัลระดับโลก
จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง ให้การแข่งขันวัวลานจัดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเปิดการแข่งขันวัวลานที่