'หมอยง' หวนระลึกโควิด19 ปีที่สองของการระบาด!

28 พ.ย.2567 – ศ.นพ.ยง ภู่รวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬา โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ย้อนดู 5 ปี โควิด 19, ปีที่สองของการระบาด” มีเนื้อหาว่า ขอเล่าต่อในปีที่ 2 ของการระบาด

ในช่วงต้นปี การระบาดเป็นสายพันธุ์ G ที่ระบาดในแรงงานต่างด้าว และมีแนวโน้มที่จะแพร่กระจายออกมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม เป็นในคนหนุ่มสาว อัตราการเสียชีวิตจึงยังน้อยอยู่

ในเดือนมกราคม สิ่งที่เฝ้าระวังอย่างมากคือสายพันธุ์ที่ระบาดได้ เรียกว่าสายพันธุ์ Alpha หรือสายพันธุ์อังกฤษ จากประเทศอังกฤษ เราเองเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ แต่แล้วก็ระบาดจนได้ โดยสายพันธุ์นี้เชื่อว่าเข้ามาทางทิศตะวันออกของไทย มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่แหล่งบันเทิง และทำให้เกิดการระบาดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่ยากจะควบคุม ยอดผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นเป็นหลักพันรต่อวัน ทุกคนเรียกร้องและรอวัคซีน

ทีมของเราได้เตรียมพร้อมในการที่จะศึกษา ประสิทธิภาพของวัคซีน ที่จะมีการนำมาใช้ ซึ่งมีทั้งวัคซีนเชื้อตายจากจีน และรอวัคซีน Astra Zeneca ผลิตในประเทศไทย ส่วน mRNA วัคซีน คงจะยากเพราะผลิตในประเทศทางตะวันตก ถึงแม้ผลการศึกษาระยะสั้น การวัดประสิทธิภาพระยะสั้น และดูจากภูมิต้านทานที่ขึ้นสูงมาก ทำให้ประสิทธิภาพดูเหมือนสูงมาก

ประเทศไทยได้รับวัคซีนเชื้อตาย จากประเทศจีนเข้ามาในปลายเดือนกุมภาพันธ์ และเริ่มฉีดกันตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์ต่อ ต้นเดือนมีนาคม ผมเองอยู่ในเหตุการณ์และได้เป็นผู้ฉีดให้กับท่านรองนายก หรือรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และรีบขอมาทำการศึกษาวิจัย โดยมีโครงร่างผ่านคณะกรรมการจริยธรรมไว้ก่อนแล้ว เราเริ่มทำการศึกษาวิจัยในคนไทยตั้งแต่ต้นมีนาคม ในระยะแรกวัคซีนเชื้อตาย อนุญาตให้ฉีดอายุ 18 ถึง 60 ปี ดังนั้นผู้สูงอายุที่เกิน 60 ปีจึงจะยังไม่ได้รับวัคซีน

ต่อมาอีกประมาณ 2 สัปดาห์ เราได้รับ วัคซีนAstra จากต่างประเทศ มาจำนวนหนึ่งไม่มากนัก พอจะเริ่มฉีด ก็มีข่าวการเกิดลิ่มเลือด ก็เลยต้องเลื่อนการฉีดออกไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์จนข้อมูลนิ่งแล้วจึงเริ่มฉีดให้ท่านนายกรัฐมนตรี

ขณะนั้นผมมีข้อมูลว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 แล้วนำมาวัดภูมิต้านทาน ระดับภูมิต้านทานจะได้เท่าๆ กับการฉีดวัคซีนเชื้อตาย และวัคซีนเชื้อตายฉีดห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ แต่วัคซีน AZ ต้องฉีดห่างกันประมาณ 8-12 สัปดาห์ ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นของ AZ จะสูงกว่าวัคซีนเชื้อตาย และการติดเชื้อธรรมชาติ เกือบ 10 เท่า หรือ 1 ล็อกสเกล ส่วนตัวผมผมยังมีความเชื่อมั่นว่าระดับภูมิต้านทานเท่ากับการติดเชื้อธรรมชาติ ของวัคซีนชนิดใดน่าจะเพียงพอ และน่าจะมีการกระตุ้นเข็มที่ 3 ของวัคซีนเชื้อตายที่ 6 เดือนแบบการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีคือ 0, 1 และ 6 เดือน ก็น่าจะเพียงพอ แต่ก็ยังไม่มีการแนะนำให้ฉีดเดือนที่ 6 และยังไม่มีข้อมูล จำนวนวัคซีนก็ไม่เพียงพอ

ขณะทุกคนต้องการวัคซีน AZ มากกว่า ทั้งที่อาการแทรกซ้อน มีมากกว่า และเป็นวัคซีนใหม่ที่เป็นไวรัสเวกเตอร์ ปริมาณวัคซีนไม่เพียงพอ และมีการด้อยค่าวัคซีนเชื้อตายเอย่างมาก และมากล่าวหาผมอย่างรุนแรง รวมทั้งการให้ร้ายมากมาย และเรียกร้องวัคซีน mRNA เท่านั้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

ในช่วงนี้งานวิจัยของเราเริ่มออกมามากขึ้น และงานที่สำคัญคือการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ โดยการให้เชื้อตายนำและตามด้วยไวรัสเวกเตอร์ ใน 4 สัปดาห์ต่อมา พบว่าภูมิต้านทานจะได้เท่ากับการให้วัคซีนไวรัสเวกเตอร์ 2 เข็มเท่ากัน เมื่อเผยแพร่ข้อมูลนี้ออกมา ระยะแรกก็มีการ bully อย่างมาก และต่อมาการสลับวัคซีน ก็ยอมรับ ขององค์การอนามัยโลก เขียนในคำแนะนำ การให้สลับกันจะทำให้การบริหาร วัคซีน ได้ดียิ่งขึ้น และในระยะแรก วัคซีนเชื้อตายห่าง่ายกว่า แต่ความยอมรับน้อยกว่า

ระยะต่อมามีการเรียกร้องวัคซีน mRNA กันมาก จนในที่สุดทางรัฐบาล ก็พยายามจัดหามาให้ ซึ่งเราเสียเงิน ค่าใช้จ่าย เป็นค่าวัคซีนเป็นจำนวนมากมาย เป็นการจัดหามาให้ตามทำเรียกร้อง วัคซีนจึงมีเรื่องราวค่อนข้างมาก

ทีมของเราได้ทำการศึกษาต่อ พบว่าการให้วัคซีนเริ่มต้นไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดใด ถึงแม้จะสลับกัน และเมื่อมาเข็มที่ 3 ให้ mRNA วัคซีน ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่แตกต่างกับการให้ mRNA 3 เข็ม และภูมิต้านทานขึ้นสูงมาก สูงกว่าการติดเชื้อธรรมชาติประมาณ 100 เท่า และลดลงตามกาลเวลา ในที่สุดก็ยอมรับว่าไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้

ผมเองถูกว่าให้ร้าย อย่างหนัก และมีการไปแก้ใน Wikipedia ของผม จนทุกวันนี้ก็ยังมีข้อความที่ไม่จริงอยู่ในวิกิพีเดียอีกมาก ซึ่งจะพยายามลบออก วิกิพีเดียก็ไม่ยอม ทั้งที่ข้อความไม่เป็นจริงมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ในเชิงกล่าวหาให้ร้าย

ทุกสิ่งเป็นสิ่งใหม่ เราทำการศึกษาผลของวัคซีนชนิดต่างๆ ฉีดตรง ฉีดไขว้ ทำให้ยอมรับไปทั่วโลก มีผลงานตีพิมพ์ในภาษานานาชาติมากกว่า 30 เรื่อง องค์การอนามัยโลกก็ยอมรับผลงานการศึกษาวิจัยดังกล่าว และงานดังกล่าวได้รับรางวัลจากสภาวิจัยแห่งชาติอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอธีระวัฒน์' ยกตัวอย่างคนป่วยวัคซีนโควิด รายแล้วรายเล่า ถ้านิ่งเฉยไม่ควรเป็นแพทย์หรือมนุษย์

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ตัวอย่างของคนป่วย รายแล้วรายเล่า ไม่จบไม่สิ้นนำมาแสดงบางราย ทั้งนี้เป็นที่หมอดูเองและร่วมดูทั้งสิ้น

‘หมอยง’ สะท้อนความรู้สึกโควิด-19 ปีที่ 2 'ยุ่งเหยิง-ดราม่าวัคซีน-เซียนคีย์บอร์ด'

หลังการระบาดใหญ่ทั่วโลก ในปีแรก ทุกคนมุ่งหวัง ที่จะยุติการระบาดด้วยวัคซีน จึงมีการผลิตคิดค้นวัคซีนกันมากมาย มากกว่า 10 platform