23 พ.ย.2567 - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง 6 ข้อกล่าวหาพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครอง หุ้นไทยพุ่งขึ้น หุ้นนักวิเคราะห์การเมืองดิ่งลง เป็นผลข้างเคียงและสีสัน
ขณะเดียวกันก็มีบางแง่มุมสะท้อนภาพการเมืองไทย
คนส่วนใหญ่จำไม่ได้ว่า 6 ข้อมีเรื่องอะไรบ้าง ฟังวิเคราะห์ก็แทบไม่ลงลึกเรื่องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย แต่ประเมินด้วยมิติการเมือง มองกันแต่เพียงเขาจะจัดการรัฐบาลเพื่อไทยและทักษิณยังไง น่าสนใจว่าหลายปีที่ผ่านมา บทบาทของศาลรัฐธรรมนูญทำให้คนนึกถึงการเมืองก่อนกฎหมายหรือไม่
การรับเรื่อง คำวินิจฉัย ผลที่เกิดจากการวินิจฉัย มักถูกนำไปจับคู่กับคำว่านิติสงคราม มากกว่านิติธรรม
ไล่เรียงทั้ง 6 ข้อ ซึ่งมีอดีตนายกฯทักษิณเป็นผู้ถูกร้องที่ 1 พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ถูกร้องที่ 2
1.กรณีชั้น 14 2.คบคิดผู้นำกัมพูชาละเมิดอธิปไตยทางทะเล 3.สั่งเพื่อไทยให้แก้รัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน 4.เรียกพรรคร่วมเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าให้โหวตคุณชัยเกษม 5.สั่งเพื่อไทยขับพลังประชารัฐจากรัฐบาล 6.สั่งเพื่อไทยให้นำนโยบายที่พูดไว้ไปปฏิบัติ
ถ้าพิจารณาด้วยเหตุผล จะเห็นว่าทั้ง 6 เรื่องไม่มีเรื่องไหนจะเลยเถิดถึงขั้นล้มล้างการปกครอง แต่ที่ติดตามกันเป็นวาระสำคัญ เพราะการเมืองไทยยังมีคนคาดหวังอำนาจและบทบาทขององค์กรอิสระ กำหนดชะตากรรมรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชน
แม้ในรัฐบาลแบบปัจจุบัน พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ยังคงสถานะเปราะบางเมื่อมีเรื่องอยู่ในมือองค์กรอิสระ ตามสถานการณ์ 3 ก๊กที่ผมเคยตั้งข้อสังเกตุไว้ โอกาสหน้าจะขยายภาพนี้ให้เห็นชัดขึ้น
ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ มติของตุลาการทั้ง 9 ท่าน
ประเด็นที่ 1 และ ประเด็นที่ 3-6 มีมติยกคำร้องเป็นเอกฉันท์ มีเพียงประเด็นที่ 2 เรื่องสั่งให้รัฐบาลเพื่อไทยเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา หาประโยชน์ในเขตอธิปไตยทางทะเลของไทย ซึ่งตุลาการมีมติ 7 ต่อ 2 ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา หมายความว่ามี 2 ท่านเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 2 เป็นการล้มล้างการปกครอง ต้องรับเรื่องไว้วินิจฉัย
ส่วนตัวผมและเชื่อว่าคนอีกจำนวนมาก ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครอง ไม่เสียดินแดนเกาะกูด ไม่ขายชาติ และที่สำคัญคือ รัฐบาลปัจจุบันของทั้ง 2 ประเทศยังไม่ได้คุยอะไรกันเลยจนขณะนี้ แต่มีตุลาการท่านคิดอีกแบบ
เมื่อต้นสัปดาห์ผมนั่งคุยในวงพี่ๆน้องๆ มีคนเล่าให้ฟังว่า เจอผู้พิพากษาคนหนึ่งพูดอย่างจริงจังว่าห่วงจะเสียดินแดน อีกคนบอกเจอหมอ คุณหมอก็ว่าห่วงเรื่องนี้เหมือนกัน
เป็นภาพสะท้อนว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มขวาสุด เลือกจับวาระชาตินิยม ปกป้องดินแดน เพราะรู้ว่าเรื่องนี้กระทบหัวใจทั้งประชาชนทั่วไป และคนที่มีสถานะเข้มแข็งในสังคม
ที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย รัฐบาลเจอกับพลังขวาสุดด้วยข้อกล่าวหาเรื่องค่านิยมหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เช่น ปฏิญญาฟินแลนด์ ทำบุญวัดพระแก้ว เขาพระวิหาร ผังล้มเจ้า ฯลฯ จนเกิดความเคลื่อนไหวมวลชน เปิดทางให้อำนาจนอกระบบ นี่เป็นข้อยืนยันว่าความขัดแย้งทางการเมืองไทยยังคงวนรอบเรื่องเดิมๆ
ผมเคารพความเห็นต่าง ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่อยากให้ทรัพยากรปิโตรเลียมมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านบาทถูกนำมาใช้ และเชื่อว่าสามารถทำได้ผ่านการเจรจาของรัฐบาลทั้งคู่ ผมเชื่อว่าสัมพันธภาพอันดียิ่งระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ เป็นคุณต่อเรื่องนี้ ถ้าจะมียุคไหนที่หาข้อสรุปร่วมกันได้ก็ต้องเป็นยุครัฐบาลนี้
แต่ต้องดำเนินการด้วยความรัดกุม โปร่งใส สร้างความเข้าใจกับสังคมทุกระยะ ภายใต้ความจริงที่รัฐบาลต้องเข้าใจว่า มีคนพร้อมจะไม่เข้าใจอยู่จำนวนหนึ่งแน่ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นิพิฏฐ์' ติดใจปมรพ.ชั้น 14 พร้อมให้กำลัง 'ธีรยุทธ'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส. จังหวัดพัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า เห่าหอนไปวันๆ
สส.ธนกร ฝาก 'กกต.' เข้มเลือกตั้งนายกอบจ.โปร่งใส ไร้ซื้อเสียง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีการเลือก
'จตุพร' ปลอบและปลุก อดทนเฝ้าคอยยังมีอีกหลายยก!
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ยอมรับว่า ประเมินสถานการณ์ศาล รธน.รับคำร้องคลาดเคลื่อน แม้ถูกเย้ยหยันหน้าแตก แต่ถัดจากนี้ไปขอให้ประชาชนอดทนเฝ้ารอสถานการณ์
อดีตสว.วันชัย สะใจ! โพสต์สมน้ำหน้า นักร้องถูกตบกระบาลหน้าคว่ำ หมอไม่รับเย็บ
นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า สมน้ำหน้า นักร้องถูกตบกระบาลหน้าคว่ำ หมอไม่รับเย็บ....
ไม่ต้องพิสูจน์แล้ว 'เทพไท' ชี้เปรี้ยง 'ทักษิณ' คนมีเสิ้น!
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า ทักษิณ คนมีเส้น
อดีตบิ๊กข่าวกรอง วอนอย่าสิ้นหวังยังมีอีกหลายคดีให้ลุ้น!
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า อย่าสิ้นหวัง