22 พ.ย.2567 - ที่บริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญ นายนิยม นพรัตน์ หรือเค สามถุยส์ และนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร เดินทางมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นหนังสือร้อง นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ กรณีให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่า “ศาลต้องรับ ถ้าไม่รับจะเป็นเรื่องนายใหญ่ ใหญ่กว่าศาล”
นายนิยม กล่าวว่าครั้งนี้มายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบพฤติกรรมของ นายธนพร เนื่องจากไปออกรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ และมีพฤติกรรมกล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญ กรณีศาลจะรับหรือไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ยื่นร้องว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างระบอบการปกครอง ซึ่งบางช่วงในรายการ นายธนพรได้กล่าวว่า "ศาลต้องรับถ้าไม่รับ จะเป็นเรื่องนายใหญ่ ใหญ่กว่าศาล" และคำพูดที่ว่า "ถ้าศาลไม่รับภาพจะมองว่านายใหญ่ จะใหญ่กว่าศาล และภาพจะมองอีกว่าศาลกลัวนายใหญ่" ซึ่งตนมองว่าเป็นการกล่าวหาทั้งศาลและนายทักษิณ
นอกจากนี้ยังมีอีกคำพูดที่ว่า "กรณีซุกหุ้นรอบแรก นายใหญ่ฤทธิเดช 8 ต่อ 7 ที่ผมบอกมิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล อย่าได้ประมาทเกมแบบนี้ของนายใหญ่ เพราะเขาเคยทำมาแล้ว และผมก็เป็นคนหนึ่งในปฎิบัติการนั้น ยืนยันว่าเขาเคยทำมาแล้ว 8 ต่อ 7 " ซึ่งเป็นการกล่าวหาศาลอีกเช่นกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่านายทักษิณพยายามทำบางอย่างต่อศาลเพื่อให้ชนะคดี แต่คำพูดทั้งหมดของนายธนพร ไม่ได้มีหลักฐานใด ๆ ยืนยันมีเพียงแต่คำกล่าวหา
ขณะที่นายทันกวินท์ กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่แค่การเมือง ซึ่ง นายธนพร อ้างความเป็นนักวิชาการ แต่เวลาให้สัมภาษณ์ไม่มีความเป็นนักวิชาการเลย เพราะสิ่งที่พูดมาไม่มีข้อเท็จจริง ซึ่งนายธนพรต้องออกมาชี้แจงว่า "นายใหญ่" หมายถึงใครและมีหลักฐานหรือไม่ โดยตนจะไม่จบแค่คดีละเมิดอำนาจศาลแต่จะเอาผิดจนถึงคดีอาญา และหากไม่มีหลักฐานจริง ๆ จะดำเนินการยื่นถอดถอนตำแหน่งทางวิชาการต่อไป เพราะทุกวันนี้มักใช้คำว่านักวิชาการนำหน้าเพื่อวิจารณ์การเมือง แต่หากมีอาจารย์ลักษณะแบบนี้นำตำแหน่งทางวิชาการ แล้วอาศัยคำว่าเสรีภาพทางวิชาการ เพื่อบั่นทอนความมั่นคงมากล่าวร้ายศาลต้องมีการดำเนินคดี
นายนิยม กล่าวด้วยว่า นายธนพรต้องออกมารับผิดชอบคำพูด และจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด และขอฝากถึงสื่อมวลชนการนำนายธนพรไปสำเร็จความใคร่ด้วยการพูดเพื่อความสะใจโดยไม่มีหลักฐานก็คงต้องพิจารณา เพราะ กระบวนการยุติธรรมกำลังปั่นป่วนวุ่นวาย ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด เชื่อว่าหากศาลรับคำร้องจะมีการเรียกพยานหลักฐานและไต่สวนอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พท.' แฉน่านจ่ายหัวละ 300 เก็บบัตรปชช. ผวาซื้อเสียงระบาดหนัก
'หมอชลน่าน' แฉ พบจ่ายหัวละ 300 บาท ที่น่าน เริ่มเก็บสำเนาบัตรประชาชนแล้ว วัตถุประสงค์ไม่ชัดเจน หวั่นซื้อเสียงระบาดหนัก
'อุ๊งอิ๊ง' ปลื้มกระแสญาติพุ่ง!
'แพทองธาร' บอกดีใจค่ะดีใจ หลังกระแส 'ยศชนัน' พุ่ง
'ชัยวุฒิ' จี้ 'อภิสิทธิ์' ประกาศให้ชัดจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยไหม
'ชัยวุฒิ' จี้ 'อภิสิทธิ์' ชี้แจงให้ชัด จะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ หลังประกาศไม่ร่วม 'กล้าธรรม' ชี้ FC ประชาธิปัตย์สับสน
เพื่อไทยแปดริ้ว ดัน ‘โจ๊ะ’ พันธุ์พงศ์ ชิง สส.เขต 2
สนามเลือกตั้ง เพื่อไทยแปดริ้ว “เฮียเน้า” สมชัย อัศวชัยโสภณ ดันลูกชาย “โจ๊ะ” พันธุ์พงศ์ ชิงพื้นที่ เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา อ้อนคนในพื้นที่ขอชนะใจด้วยการทำงาน เชื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ประมาทคู่แข่ง
ข้ามขั้ว! เพื่อไทยเปิดตัว 'นิติศักดิ์ ธรรมเพชร' บ้านใหญ่พัทลุง อดีตรวมไทยสร้างชาติ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย นายก่อแก้ว พิกุลทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยดูแลพื้นที่ภาคใต้
'ภูมิธรรม' มั่นใจแจงศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเรื่องปมให้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้ว สว.
ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานและผู้เกี่ยวข้อง คดีสถานะ อดีตรองนายกฯและอดีตรัฐมนตรียุติธรรม แทรกแซงคดีฮั้วเลือก สว. 'ภูมิธรรม' มั่นใจชี้แจงได้ทุกประเด็น

