ลุ้นศาล รธน.พิจารณาคำร้อง 'จตุพร' เชื่อรับไว้วินิจฉัยเพื่อหยุดอหังการอำนาจ ลั่นจะเริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง เปิดความหวังประเทศก้าวเดินสู่ผลประโยชน์ชาติ
22 พ.ย.2567- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์โดยมั่นใจว่า ถ้าศาล รธน.รับคำร้อง 6 ประเด็นของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร จะเป็นจุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลง และเปิดความหวังให้ประเทศได้เดินไปสู่ผลประโยชน์บ้านเมืองอยู่เหนือกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวของคนบางกลุ่ม
“ผมยังเชื่อด้วยประสบการณ์ว่า ศาล รธน.จะรับคำร้องทั้งฉบับ เพื่อหยุดอหังการ ถัดจากนั้นแรงกระเพื่อมจะทำให้อำนาจต่อรองของรัฐบาลเพื่อไทยไม่เหมือนเดิม และเป็นสัญญาณการเริ่มจุดเปลี่ยนของบ้านเมือง”
อีกทั้งกล่าวว่า รัฐบาลและกองเชียร์ประโคมถึงอนาคตที่แข็งแรง แต่อีกด้านหนึ่งสัญญาณความไม่แข็งแรงของรัฐบาลมีมาตั้งแต่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ทักษิณ ชินวัตร ออกนอกประเทศ สิ่งนี้แสดงถึงความแข็งแรงที่กล่าวอ้างกัน เพราะเป็นเพียงความเสแสร้งเท่านั้น
"การนำเสนอสิ่งที่มาเร็วเครมเร็ว แล้วทิ้งความหายนะให้กับชาติ ถ้ามั่นใจบ้านเมืองจะแข็งแรงแล้ว ทำคุณไม่กล้าประกาศหาเสียงเลือกตั้งว่าจะมาทำบ่อนคาสิโน ถ้าแน่จริงทำไมไม่ใช้หาเสียง เรื่องแลนด์บริดจ์ซุกที่ดิน 3 แสนไร่ให้ต่างชาติเช่า 99 ปี รวมทั้งการเจรจาผลประโยชน์ไทยกัมพูชา 50 ต่อ 50 ทำไมไม่ใช้หาเสียง” นายจตุพร กล่าว และระบุว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหลังหาเสียงแล้ว และไม่เป็นไปตามคำมั่นสัญญาให้ไว้กับประชาชนทั้งสิ้น จากนั้นหลังเลือกตั้งจบลง ผลประโยชน์ส่วนตนที่อยู่เหนือประโยชน์ชาติก็งอกขึ้นมาแทน
นายจตุพร หวังว่า หลังจากวันที่ 22 พ.ย. นี้ เมื่อศาล รธน.รับคำร้อง พวกอ้างไฟเขียวมาสร้างความเสื่อมเสียจะได้หยุดการกระทำเสียที เพราะการปล่อยไฟเขียวเพื่อไปเจรจาสุ่มเสี่ยงการเสียดินแดน ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น อีกอย่างไฟเขียวให้ทำบ่อนหรือการทำลายระบบเงินตรา สิ่งเหล่านี้ไม่เชื่อว่า จะมีไฟเขียวให้กระทำได้ และไม่มีมนุษย์หน้าไหนจะทำลายชาติได้ขนาดนั้น
"ผมรับไม่ไหวกับนโยบายที่มีลักษณะทำลายชาติกันแบบนี้ และไม่คิดถึงอนาคตของคนในชาติ แล้วสร้างปัญหาให้คนในยุคต่อไป และยังสุ่มเสี่ยงกับการเสียดินแดน เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของบางคนทั้งสิ้น"
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า จุดเปลี่ยนในวันที่ 22 พ.ย.จะมีความหวังให้กับประชาชน อย่างน้อยเราจะชำแหละเรื่องที่มีผลกระทบกับชาติบ้านเมือง และคนรักชาติบ้านเมืองจะหยุดยั้งความอหังการ ที่จะสร้างความเสียหายให้บ้านเมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่เอาไว้ทำพ่อ! 'ทักษิณ' ขู่ฟ่อ ต่อไปนี้ใครเล่นงาน จะเล่นกลับหมด บางคนให้ตังค์ใช้ พอไม่เลี้ยงโดนมันกัด
ช่วงเย็นวานนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาปราศรัยหาเสียงช่วยนายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร ผู้สมัครนายกองค์การบริหาร
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
'ทักษิณ' ปราศรัยเดือด ไม่ทนพวกเห่าหอน ซัดมาซัดกลับ เหน็บพรรคส้มขี้โม้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดย ทันทีที่นายทักษิณมาถึงได้เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย
'เต้น' ปราศรัยเชียงใหม่ ขออย่าเปลี่ยนใจ ถามเลือกตั้ง สส. ทำไมเพื่อไทยได้แค่ 2 คน
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เบอร์ 2 หาเสียง โดยมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี
'ทักษิณ' อวย 'แพทองธาร' เก่งกว่าตัวเองสมัยเริ่มต้น ปัดเขียนสคริปต์ให้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งให้กับรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บุตรสาว ว่า สงสัยสื่อมวลชนเห็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.)
'ทักษิณ' เกทับ! เลือกตั้งครั้งหน้า กวาด สส.เชียงใหม่ ครบ 10 ที่นั่ง
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงให้ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือสว.ก๊อง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่