ภาคปชช.งัดคำพิพากษา จี้ 'อธิบดีกรมที่ดิน' เพิกถอสิทธิ์ 'ที่ดินเขากระโดง' ให้เป็นไปตามกฎหมาย

20 พ.ย.2567- นายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงาน คณะราษฎรไทยแห่งชาติ (ครช.) และอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา(สว.) กลุ่ม 17 จ.นครปฐม ได้ยื่นหนังสือทักท้วง อธิบดีกรมที่ดิน กรณีที่ดินเขากระโดง ใช้อำนาจไม่เป็นไป ตามกฎหมาย ม.61 มีใจความว่า

ตามที่คณะราษฎรไทยแห่งชาติ องค์กรตามรัฐธรรมนูญมาตรา42 ส่วนขับเคลื่อนภาคประชาชน ในฐานะตัวแทนประชาชนและชุมชน ผู้เสียภาษีผู้มีสิทธิ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียฯ ได้ติดตามกรณีที่เป็นข่าวปรากฎ กรณีที่ดินเขากระโดง ที่เป็นเรื่องที่สังคมจับตา การทำหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ และ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้มีอิทธิพล อันยิ่งใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับที่ดินจำนวนกว่า 5000 ไร่ นั้น

โดยล่าสุดตามปรากฏทราบทั่วว่า ท่านมีการตั้ง คกก.พิจารณาเรื่องในกรณีดังกล่าว และมีมติออกมา นั้น

ข้าฯได้มีการนำเรื่องนี้ หารือ กับคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ภาคประชาชน เห็นว่า พบว่า การใช้อำนาจในการเลือกกระทำดังกล่าว นั้นไม่เป็นไปตามกฎหมายดังนี้

ประเด็นที่ 1 ข้อเท็จจริงปรากฏชัด กรณีนี้มีคำพิพากษาแล้ว กรณีที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือที่เรียกว่า คดีเขากระโดงหากพิจารณาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842 – 876 /2560 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 ได้วินิจฉัยไว้อย่างชัดแจ้ง ว่า ที่ดินตามแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟแผ่นดินสายนครราชสีมาถึงอุบลราชธานี ตอนแยกที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตรที่ 375+650 เป็นส่วนหนึ่งของ พ.ร.ฎ.กำหนดเขตสร้างทางรถไฟต่อจากนครราชสีมา ถึงอุบลราชธานี ลงวันที่ 8 พ.ย.2462 เมื่อกรมรถไฟแผ่นดินใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยการก่อสร้างทางรถไฟเข้าไปลำเลียงหินที่บริเวณเขากระโดง จึงถือได้ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย

โดยมีข้อเท็จจริงว่า ที่ดินบริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของการรถไฟที่ได้มาตาม พ.ร.บ.จัดวางการรถไฟแลทางหลวงพระพุทธศักราช 2464 และถือเป็นที่ดินของรัฐประเภทหนึ่ง กรมที่ดิน จึงมีหน้าที่ในการคุ้มครองและป้องกันที่ดินบริเวณดังกล่าวตามที่กำหนดในกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมที่ดินกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2557

ประกอบกับ เมื่อมีข้อเท็จจริงที่มีผลเกี่ยวเนื่องจากคำพิพากษาศาลฎีกาทั้ง 2 คดีดังกล่าวว่า อธิบดีกรมที่ดิน ได้มีคำสั่งกรมที่ดิน ที่ 2992/2564 ลงวันที่ 11 พ.ย.2564 แก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ข.) เลขที่ 200 หมู่ที่ 9 (ปัจจุบันเป็นหมู่ที่ 13) ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ตามผลแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 และสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ดำเนินการยกเลิกใบไต่สวน พร้อมจำหน่าย ส.ค.1 เลขที่ 209 หมู่ที่ 1 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดิน และยกเลิกเรื่องการขอออกโฉนดที่ดินจำนวน 40 ฉบับของประชาชนจำนวน 35 ราย ตามผลแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560

รวมทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลจังหวัดบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์ และเพิกถอน

หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 206 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งที่ดินทั้งหมดข้างต้นเกิดขึ้นใน

พื้นที่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวอ้างว่า เป็นการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย แม้ในคำพิพากษาของศาลฎีกาทั้ง 2 คดี และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค3จะไม่ได้วินิจฉัยให้เพิกถอนที่ดินแปลงอื่นๆนอกเหนือจากที่ปรากฎเป็นข้อพิพาทในคดีก็ตาม แต่คำพิพากษาดังกล่าวก็ได้วินิจฉัยอย่างชัดแจ้งถึง ความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดี (รฟท.) จึงสามารถใช้ยันกับบุคคลภายนอกได้

ประเด็นที่ 2 ตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

+ พรบ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน ม 61 วรรค 8 ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไขอย่างใดแล้ว ให้เจ้าพนักงานที่ดิน ดำเนินการตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นตามวิธีการที่อธิบดีกำหนด

+ระเบียบกรมที่ดินที่3/2516 เรื่องวิธีการเพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดฯกรณีที่ศาลมีคำพากษาแล้วฯ

ตามหน้า 33-34 ในคู่มือ กรณีศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไขตามมาตรา ๖๑ วรรคแปด แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน “สำหรับวิธีการเพิกถอนหรือแก้ไขตามคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดกรมที่ดินวางแนวทางปฏิบัติ ไว้ตามระเบียบกรมที่ดิน ที่ ๓/๒๕๑๖ เรื่อง วิธีการเพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำ ประโยชน์หรือการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจ้งเอกสารรายการจดทะเบียนที่ดิน ในกรณีที่ศาล มีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไข ระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยวิธีการเพิกถอนหรือแก้ไข โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจ้งเอกสาร รายการจดทะเบียนที่ดิน ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไข ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๒๒) การเพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินกรณีนี้ คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลต้องชัดเจน ว่าให้ดำเนินการเพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแปลงใด หากเป็นกรณีที่คำพิพากษาหรือคำสั่งศาล ไม่ชัดเจน หรือไม่ได้ระบุในคำพิพากษาหรือคำสั่งศาล กรณีดังกล่าวหากปรากฏข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่า เป็นการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องไป ดำเนินการแก้ไขหรือเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน โดยอาศัยรองอธิบดีซึ่งอธิบดีกรมที่ดินมอบหมาย”

ตามกล่าวข้างต้น พอรับฟังเป็นที่สุดได้ว่า การใช้อำนาจ ของท่านและ คกก.ที่เกี่ยวข้องไม่เป็นไปตามกฎหมาย และเป็นเรื่องที่จำเป็นสำคัญที่ท่านและส่วนที่เกี่ยวข้อง จำเป็นจักต้อง ทบทวน และแก้ไขให้เป็นไปโดยชอบ โดยในชั้นนี้ข้าฯ ยังไม่ประสงค์กล่าวโทษ ท่านและส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อ คกก.ใด แต่อย่างใด

ด้วยเหตุดังกล่าว อาศัย รธน. มาตรา 3 25 41 43 50 51 53 57 63 ประกอบ พรบ.ความรับผิดทางละเมิดฯ พรบ.บริหารราชการแผ่นดิน พรบ.ข้าราชการพลเรือน ฯ และกฎหมายที่คุ้มครองให้สิทธิข้าฯ และ กฎหมายทุกฉบับที่กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบท่านไว้ ประกอบ ปอ. ปพพ. / พรป.ปปช. ม172 ขอท่านโปรดพิจารณาดำเนินการ

1รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาโดยเร่งด่วน

2ขอให้ดำเนินการตาม ระเบียบกรมที่ดินที่3/2516 เรื่องวิธีการเพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดฯกรณีที่ศาลมีคำพากษาแล้ว

จึงนำเรียนเพื่อให้โปรดพิจารณา /ขอทราบความคืบหน้าการดำเนินการโดยลำดับ/ได้ผลประการใดโปรดแจ้ง

หนังสือนี้เป็นหนังสือสำคัญที่ข้าฯ ผู้มีสิทธิ หน้าที่ ได้ยื่นหนังสือต่อเจ้าพนักงานรัฐผู้มีหน้าที่โดยตรงเป็นการเฉพาะตามกฎหมายแล้ว และได้รับความคุ้มครอง ตาม พรบ.pdpa ม27

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ณฐพร' ซัด 'มหาดไทย' ยุค 'ศรีธนญชัย' ฟันธง 'ที่ดินเขากระโดง' จะถูกโทษเช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว

ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความกรณี กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ว่า

ให้จริง! กมธ.ที่ดินฯ ลุยสอบปมที่ดิน 'เขากระโดง' โวลั่นไม่หวั่นภูมิใจไทยเล่นเกมสกัด

นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทน

สมาพันธ์คนงานรถไฟ จี้มท.1 ทบทวนมติคณะกรรมการที่ให้ยุติการเพิกถอนเอกสารสิทธิพื้นที่เขากระโดง

นายสุวิช ศุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ (สพ.รฟ.) ทำหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง

ปชน.ซัดที่ดินเขากระโดงเป็นมหากาพย์ร่วมมือทำลายหลักนิติธรรม

'จุลพงศ์' ชี้ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง เป็นมหากาพย์ความร่วมมือทำลายหลักนิติธรรม ตั้งข้อสังเกต ม.61 กฎหมายที่ดิน ไม่ได้ให้อำนาจ สอบสวนโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์ออกโดยคลาดเคลื่อน-ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่