14 พ.ย.2567 - นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “คำถามที่ประชาชนไทยต้องการคำตอบอย่างตรงไปตรงมาที่สุดก็คือ” มีเนื้อหาว่า นายกฯแพทองธารและรองนายกฯภูมิธรรม ต้องตอบมาตรงๆให้ได้ว่า ทำไมรัฐบาลจึงไม่กล้ายกเลิก MOU 44 หากยกเลิกไทยจะเสียหายอะไรบ้าง จะเสียหายอย่างมากจริงๆหรือ และหากไม่ยกเลิกไทยจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ที่สำคัญประโยชน์จะตกแก่ใคร ระหว่างผู้มีอำนาจในรัฐบาล หรือประชาชนกันแน่ รัฐบาลแพทองธารต้องตอบคำถามนี้ และต้องให้เหตุผลอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาที่สุดว่า ทำไมจึงไม่กล้ายกเลิก MOU 44
ประเทศไทยจะเสียหาย เสียผลประโยชน์ หรือว่าพรรคและพวกของรัฐบาลต่างหากที่จะเสียหายเสียผลประโยชน์ สรุปก็คือ รัฐบาลต้องตอบมาให้ตรงประเด็นอย่าแถไปแถมา ซื้อเวลาให้กับตนเอง ต้องให้เหตุผลและอธิบายออกมาให้ชัดเจนว่า ทำไมจึงต้องเก็บ MOU 44 เอาไว้ เก็บเอาไว้เพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจในรัฐบาล หรือเก็บเอาไว้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนไทย รัฐบาลต้องกล้าตอบประชาชนอย่างตรงไปตรงมา อย่าปกปิดซ่อนเร้นเพื่อเอื้อประโยชน์โดยมิชอบให้กับกลุ่มใดหรือผู้ใดบางคน การบอกว่าไทยไม่เคยยกเลิก MOU44 จึงไม่ใช่คำตอบที่ชอบด้วยเหตุผล และไม่ได้แสดงความจริงใจ เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้บอกประชาชนไทยว่า มีเหตุผลอะไรจึงจำเป็นต้องเก็บ MOU 44 เอาไว้ และที่สำคัญทำไมรัฐบาลแพทองธาร จึงไม่กล้าบอกกับประชาชนไทยอย่างตรงไปตรงมาว่า สมัยรัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร บิดาของนายกฯแพทองธารในปัจจุบันนั้น เป็นฝ่ายที่ไปเจรจาตกลงกับรัฐบาลกัมพูชาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2544 ให้มี MOU 44 เกิดขึ้นมา โดยให้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยในขณะนั้น เป็นผู้ลงนามใน MOU 44 กับนาย สก อาน รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา และที่สำคัญที่สุดก็คือ นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยในขณะนั้น ได้ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วม หรือ JC 44 กับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาด้วย ในวันที่ 18 มิถุนายน 2544 โดย JC 44 นี่แหละคือตัวสำคัญ ที่อาจทำให้ไทยต้องเสียอธิปไตยทางทะเลในพื้นที่ไหล่ทวีปอ้างสิทธิทับซ้อน และอาจจะต้องเสียผลประโยชน์ทางทรัพยากรทางทะเลอย่างมหาศาลให้กับกลุ่มที่จ้องจะทุจริตหาผลประโยชน์เข้าตัวเองและพวกพ้อง
ที่พูดมาทั้งหมดนี้ มีตรงไหนหรือส่วนใดที่รัฐบาลแพทองธารกล้าปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง หากไม่เป็นความจริงก็ให้รัฐบาลรีบตอบหรือชี้แจงกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาทันทีว่า ที่ประชาชนตั้งข้อสงสัย หรือกล่าวหามานั้น จริงส่วนใด และไม่จริงส่วนใด และหากรัฐบาลจะปฏิเสธว่าที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยหรือกล่าวหามานั้น ไม่เป็นความจริง ก็ให้นำข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐานมาหักล้างให้ได้ หากรัฐบาลยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ถามวัวตอบควาย อยู่เช่นนี้ต่อไป ทำให้ประชาชนไทยเข้าใจว่าหรือเชื่อว่ารัฐบาลแพทองธารกำลังปกปิดซ่อนเร้นความจริงเกี่ยวกับผลประโยชน์โดยมิชอบในพื่นที่ไหล่ทวีปอ้างสิทธิทับซ้อนในอ่าวไทย ซึ่งอาจทำให้รัฐและประชาชนไทยได้รับความเสียหาย เข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหลียวหลังแลหน้า การเมืองไทย จาก 2567 สู่ 2568 ส่องจุดจบ ระบอบทักษิณภาค 2
รายการ"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด"สัมภาษณ์ นักวิชาการ-นักการเมือง สองคน เพื่อมา"เหลียวหลังการเมืองไทยปี 2567 และแลไปข้างหน้า
'อดีตบิ๊กทอ.' ไล่บี้นายกฯอิ๊งค์ ใช้กฎหมายรักษาผลประโยชน์ทางทะเล ลบล้าง MOU 44
พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ผมไม่แน่ใจว่า “นายกรัฐมนตรี อ.อ.” เคยรู้เห็นเรื่องเกี่ยวกับ พรบ.การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ปี ๒๕๖๒ หรือไม่
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'อนาคตรัฐบาลชินวัตร 4 ใต้กรอบกฎหมายไทย'
นายแก้วสรร อติโพธิ วิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง "อนาคตรัฐบาลชินวัตร 4 ใต้กรอบกฎหมายไทย"
ดุสิตโพลชี้ผลงานรัฐบาลแพฯ 3 เดือนประเมินไม่ได้ แถมต่ำกว่าคาดหวัง 28%
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “3 เดือนรัฐบาลแพทองธาร” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,162 คน
อภิสิทธิ์-อดีตนายกรัฐมนตรี มอง 'จุดเสี่ยง' รัฐบาลเพื่อไทย ระเบิดการเมือง วางไว้เองหลายลูก
แม้ขณะนี้จะไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่สำหรับ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" การแสดงทัศนะหรือความคิดเห็นทางด้านการเมือง
เปิดข้อเสนอ 'ครูทหารเรือ' เจรจาเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาให้จบก่อน หากถึงทางตันต้องไปที่ศาลโลก
เปิดข้อเสนอ “ครูทหารเรือ” ให้เจรจาเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาให้จบก่อน มองสูตรของกัมพูชาเจรจาขุมทรัพย์ก่อนทำได้ยาก ชี้2เรื่องละเอียดอ่อน-ซับซ้อน ปลายทางอาจจบที่ศาลโลก