กระทุ้งฝ่ายค้าน อย่าซูเอี๋ยกัน รุกเรื่องชั้น14ให้ถึงตัวใหญ่ ปกป้องอธิปไตย ทวงคืนทรัพย์สมบัติชาติ

8 พ.ย.2567- นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่าเตือนแกนนำฝ่ายค้าน…!! ระวังล้มละลายด้านความเชื่อถือ

กรณี กรรมาธิการความมั่นคงฯ สภาผู้แทนราษฎรเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำกับกรรมาธิการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณี นักโทษเทวดาชั้น 14

มีคนมาบ้าง ไม่มาบ้าง

แต่ปฏิบัติการลากไส้กระบวนการอุ้มนักโทษเทวดาก็เปิดให้เห็นไส้ที่เน่าเฟะ เช่น

- ให้พยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพเป็นผู้วินิจฉัยโรคของนักโทษทักษิณ ใช้เวลาวินิจฉัยโรคร้ายแรงเพียง 4 นาที ก็สรุปอาการว่า เป็นโรคร้ายแรง มีโอกาสเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้สังคมรู้ว่าพยาบาลประจำแดนพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เชี่ยวชาญการวินิจฉัยโรคติดอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนแพทย์ผู้ให้ความเห็นที่ฟังรายงานอาการป่วยทางโทรศัพท์ ย่อมเป็นแพทย์ที่มีฝีมือการวินิจฉัยอาการป่วยเป็นอันดับหนึ่งของโลก เพราะเพียงแค่ฟังรายงานอาการทางโทรศัพท์ก็สามารถวินิจฉัยโรคได้ ว่าป่วยเป็นโรคอะไร อาการหนักมากแค่ไหน

- ยังลากไส้เน่าๆ ออกมาให้เห็นได้ว่า ไม่มีใครกล้ารับผิดชอบเรื่อง ให้นักโทษชายทักษิณออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้นที่ 14 เป็นระยะเวลาต่อเนื่องถึง 181 วัน มีแต่ปัดสวะ ไม่มีองค์กรหรือหน่วยงานใดกล้ายอมรับว่า หน่วยงานของตนเองเป็นผู้ใช้อำนาจตัดสินให้นักโทษทักษิณ พักรักษาตัวนอกเรือนจำต่อเนื่องยาวนานถึง 181 วัน

อย่าหยุด …! รุกเรื่องชั้น 14 ไปให้ถึงตัวใหญ่

ต้องเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มาให้ข้อมูล เพื่อเปรียบเทียบการนำตัวนักโทษทักษิณออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ ใช้เวลาวินิจฉัยโรคเพียงแค่ 4 นาที เปรียบเทียบกับกรณี ตะวัน, แบม.บุ้ง ฯลฯ ที่เรือนจำใช้เวลาวินิจฉัยโรคหรืออาการป่วย นานเป็นหลายสัปดาห์ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาคดีกระทำผิดมาตรา 112 ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตและยังต้องยื่นคำร้องให้ศาลทราบ เพราะต้องใช้คำสั่งศาลปล่อยตัวออกนอกเรือนจำ ส่วนกรณีนักโทษชายทักษิณออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำที่โรงพยาบาลตำรวจ กรมราชทัณฑ์กลับไม่แจ้งให้ศาลทราบ

กรณี ตะวัน, แบม,บุ้ง ฯลฯ กรมราชทัณฑ์ต้องยื่นคำร้องต่อศาล ส่วนกรณีทักษิณกรมราชทัณฑ์ไม่ยื่นคำร้องต่อศาล

เหตุใดจึงไม่เหมือนกัน

- เรื่องเวชระเบียน กรรมาธิการความมั่นคงฯ ต้องรุกต่อเนื่อง เชิญรองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม นายภูมิธรรม เชิญนายกฯแพทองธาร ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและโรงพยาบาลตำรวจมาให้ข้อมูล

อย่าหยุดแค่วันที่ 7 พฤศจิกายน เดี๋ยวประชาชนจะสงสัยว่า ซูเอี๋ยกัน เกี้ยเซียะกัน เล่นละครตบตาประชาชน งานนี้ต้องเดินให้สุด

และยังมีอีกสามเรื่องสำคัญที่แกนนำพรรคฝ่ายค้านต้องเดินหน้าสุดตัวเพื่อกู้ศรัทธากลับคืนมา

1. การแสดงเจตนารมย์อย่างเข้มแข็งในการปกป้องอธิปไตยและเขตแดนของชาติไทย อย่าหลงกลกับประโยคของนายภูมิธรรม รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เรื่องการคลั่งชาติ เพราะความจริงเรื่องเกาะกูดและเรื่องเขตแดนทางทะเลคือการปกป้องชาติ ปกป้องดินแดน ปกป้องเขตแดนของประเทศไทย การแบ่งเขตแดนทางทะเลไม่จำเป็นต้องมี MOU ก็สามารถทำได้และทำสำเร็จไปแล้ว นั่นคือการแบ่งเขตแดนทางทะเลระหว่างไทย-มาเลเซีย และ ไทย-เวียตนาม โดยแบ่งเขตแดนทางทะเลยึดหลักอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป 1958

การเดินหน้ายกเลิก MOU 44 จึงเป็นแนวทางที่ถูกต้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

หัวหน้าพรรคประชาชนอย่าปล่อยให้ลุงป้อมประกาศศักดาเรื่องปกป้องเขตแดนเพียงพรรคการเมืองเดียว เพราะงานนี้ลุงป้อมคว้าหัวใจคนไทยไปครองได้ทั้งสี่ห้องเลยทีเดียว

2. แกนนำพรรคฝ่ายค้านต้องเป็นหัวหอก ในการทวงสมบัติของชาติ นั่นคือ ที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย 5083 ไร่ ที่เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะศาลฎีกาได้พิพากษาไปแล้วในปี 2560 และ 2561 จากกรณีที่อธิบดีกรมที่ดินออกหนังสือลงวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดง เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่มีหลักฐานเป็นข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย

เรื่องนี้คือการฉีกคำพิพากษาของศาลฎีกาทิ้ง เอาคำพิพากษายัดลงชักโครก

มติคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 1195-1196/2566 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 จะใหญ่กว่าคำพิพากษาศาลฎีกาได้อย่างไร จะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิ 995 ฉบับได้อย่างไร

3. กรณีรรัฐบาลแพรทองธาร เพิกเฉยไม่ยอมบังคับคดีที่ศาลฎีกาพิพากษาให้คณะกรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยมีมีความผิดในการแก้ไขสัญญาสัมปทาน(ครั้งที่ 6) เพื่อลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้าให้ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) มิชอบ
เอื้อเอกชน ช่วยเหลือเอกชน ให้รัฐสูญเสียประโยชน์
โดยให้จำคุกผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ในขณะนั้นหกปี และให้กรรมการองค์การโทรศัพท์ร่วมกันชดใช้เงินคืนให้รัฐ 46,855,463,990.92 บาทพร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี

จนถึงปัจจุบันเป็นเงินกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท วันนี้รัฐยังไม่ได้รับการชดใช้แม้แต่สลึงเดียว

รายชื่อผู้ที่ต้องร่วมกันชดใช้ความเสียหาย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานและกรรมการองค์การโทรศัพท์ฯ

นายศุภชัย พิศิษฐวานิช ประธานกรรมการ(ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว)
พลเอกชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ รองประธาน
นายวันชัย ศารทูลทัต กรรมการ
พลตำรวจเอกบุญฤทธิ์ รัตนะพร กรรมการ
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ กรรมการ
นายสุรินทร์ ตุลย์วัฒนจิต กรรมการ
ส่วนนายสุธรรม มลิลา ผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ฯ ในขณะนั้น ศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุก 6 ปี

เดินหน้าเรื่องนักโทษเทวดาชั้น 14 ให้สุดทาง

เดินหน้าปกป้องแผ่นดิน แผ่นน้ำ

เดินหน้าทวงคืนทรัพย์สมบัติของชาติ

รับรองว่าพรรคฝ่ายค้านกู้ศรัทธากลับคืนมาได้ 100% ส่งผลให้ประชาชนแห่เทใจ เทคะแนนให้ในวันเลือกตั้งชนิด ไม่มีข้อกังขาใดๆ

ที่หัวหน้าพรรคประชาชนหวังไว้ 270 ที่นั่ง ไม่ไกลเกินเอื้อม

แต่ถ้าไม่ทำ ยังโอ้เอ้วิหารราย เกรงใจกันอยู่ ก็เอวัง…..

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จี้รัฐบาลประท้วงกัมพูชา

"สนธิรัตน์" นำทีมพลังประชารัฐลงพื้นที่ตราด "ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์" ชี้อันตรายมาก แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไป หากไม่มีการประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก

พปชร. ลงตราด ชวนชาวบ้านในพื้นที่ร่วมคัดค้าน MOU 44

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่

'อดีตบิ๊กทอ.' ไล่บี้นายกฯอิ๊งค์ ใช้กฎหมายรักษาผลประโยชน์ทางทะเล ลบล้าง MOU 44

พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ผมไม่แน่ใจว่า “นายกรัฐมนตรี อ.อ.” เคยรู้เห็นเรื่องเกี่ยวกับ พรบ.การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ปี ๒๕๖๒ หรือไม่

'นักโทษเทวดา' หนาว! พบหลักฐานสำคัญการนำผู้ต้องขังออกไปนอกเรือนจำไม่ขออนุญาตศาล โทษจำคุก20ปี

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.สหลายสมัยพรรคประชาธิปัตย์ พบหลักฐานสำคัญเป็นกฎกระทรวง ยุติธรรม

‘เกาะกูด’ สงครามที่ ‘ทักษิณ’ ไม่มีทางชนะ จับตาจะถอยอย่างไร ไม่ให้ตัวเองเสียหน้า และ ‘ฮุนเซน’ เสียใจ

ประเด็นเรื่องเกาะกูดเป็นของไทยหรือไม่ นั้น ได้ข้อยุติจากคุณทักษิณเมื่อวานนั้น ว่ารัฐบาลไทยก็เห็นด้วย ว่าเป็นของคนไทย แต่จะเห็น

เปิดข้อเสนอ 'ครูทหารเรือ' เจรจาเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาให้จบก่อน หากถึงทางตันต้องไปที่ศาลโลก

เปิดข้อเสนอ “ครูทหารเรือ” ให้เจรจาเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาให้จบก่อน มองสูตรของกัมพูชาเจรจาขุมทรัพย์ก่อนทำได้ยาก ชี้2เรื่องละเอียดอ่อน-ซับซ้อน ปลายทางอาจจบที่ศาลโลก