จี้รัฐบาลยื่นข้อเสนอให้กัมพูชายอมรับแผนที่ UNCLOS เพื่อยุติปัญหาพื้นที่ทับซ้อนโดยเร็ว

6 พ.ย.2567- ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ แผนที่ UNCLOS ช่วยยุติพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา มีเนื้อหาดังนี้่

สาเหตุสำคัญที่ต้องหยิบ UNCLOS ขึ้นมาเป็นบรรทัดฐาน เพราะ UNCLOS ได้ช่วยสร้างแผนที่ทางทะเลของแต่ละประเทศอันมีความเป็นสากลและสามารถสืบค้นได้โดยทั่วไป เท่ากับว่าปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาได้กลายเป็นเรื่องที่ล้าหลังไปเสียแล้ว เส้นเขตแดนทางทะเลของ UNCLOS สามารถช่วยคลี่คลายปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลได้อย่างสันติ ปัญหาที่กินเวลายาวนานจะจบลงทันทีหากกัมพูชายอมรับแล้วลงสัตยาบันเข้าร่วม UNCLOS ในที่สุด

ทางด้าน ดร.วันนาริธ ชเฮียง นักวิชาการชื่อดังชาวกัมพูชา ได้เคยระบุไว้ว่ารัฐบาลกัมพูชากลัวการเข้าร่วม UNCLOS จะทำให้กัมพูชาเสียเปรียบในการเจรจากำหนดเขตแดนทางทะเลกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังที่กัมพูชาพยายามอ้างสิทธิ์ตามเส้นเขตแดนที่ลากขึ้นในสมัยที่ยังเป็นรัฐอารักขาของประเทศฝรั่งเศส จะเห็นได้ว่ารัฐบาลกัมพูชาไม่ยอมเสียเปรียบประเทศไทยอย่างชัดเจน จึงเป็นหน้าที่สำคัญของรัฐบาลไทยเช่นเดียวกันที่จำเป็นต้องไม่ยอมเสียเปรียบใดๆ ให้กับทางกัมพูชา

เมื่อกรอบกติกาของ UNCLOS เป็นหลักสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โปร่งใส และมีความเป็นธรรม โดย UNCLOS น่าจะทำให้ประเทศไทยได้เปรียบมากกว่าข้อพิพาทในอดีตตาม MOU 2544 รัฐบาลไทยจึงควรยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ไม่ควรเดินตาม MOU 2544 ที่อยู่กับสมมติฐานการแบ่งเขตแดนทางทะเลที่ล้าหลัง แถมกัมพูชายังน่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ รัฐบาลไทยควรต้องยื่นข้อเสนอให้กัมพูชายอมรับแผนที่ UNCLOS เพื่อยุติปัญหาพื้นที่ทับซ้อนโดยเร็ว

ส่วนการกำหนดพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา (Joint Development Area : JDA) ต้องเกิดขึ้นภายหลังทั้งสองประเทศยอมรับเส้นเขตแดนทางทะเลของ UNCLOS เรียบร้อยแล้ว จึงค่อยนำข้อมูลการสำรวจน้ำมันดิบและก๊าชธรรมชาติมาดูว่ามีหลุมน้ำมันดิบหรือหลุมก๊าซธรรมชาติหลุมใดบ้างที่คร่อมเส้นเขตแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ก็จะสามารถกำหนดพื้นที่พัฒนาร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาที่เป็นธรรมได้ ยิ่งในปัจจุบันที่มีวิทยาการซึ่งทันสมัยกว่าเดิมมาก

ทรัพยากรของชาติเป็นของปวงชนชาวไทย รัฐบาลไทยจึงควรตระหนักอย่างยิ่งถึงที่สุด ในการคัดเลือกแนวทางการเจรจาที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด เมื่อแผนที่ UNCLOS ได้ระบุเส้นเขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศไว้แล้ว การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนก็ไม่น่าจะมีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะแผนที่ UNCLOS ได้กำหนดเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (Exclusive Economic Zone : EEZ) ไว้อย่างชัดเจน ที่สำคัญพื้นที่พิพาทเดิมส่วนใหญ่น่าจะตกเป็นของไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พปชร.' ลั่น ยกเลิก MOU44 ฝ่ายเดียวได้ หวั่นเอกสารแนบท้าย ทำไทยเสี่ยงเสียพื้นที่ทางทะเล

พปชร. ย้ำจุดยืน ยกเลิกเอ็มโอยู 44 ทำฉบับใหม่ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายสากล ระบุ เลิกฝ่ายเดียวได้ ชี้ เอกสารแนบท้ายมีข้อบกพร่องเยอะ ทำไทยเสียเปรียบ เสี่ยงเสียพื้นที่ทางทะเล จี้ กต.แจง ปมทำผิดกติกาสากล ปัด เคลื่อนไหวหวังผลทางการเมือง

'อิ๊งค์-อ้วน' ยัน MOU44 สำคัญ ไทยต้องคุยกัมพูชาชัดเรื่องเขตแดนภายใต้ JTC แล้วนำเข้ารัฐสภา

นายกฯ ยัน MOU44 สำคัญ ย้ำไม่ยกเลิกฝ่ายเดียวจะเกิดปัญหาระหว่างประเทศ ไทยต้องคุยกับกัมพูชาชัดเรื่องเขตแดน ภายใต้คกก. JTC เพื่อเป็นหลักฐานการคุย คาดตั้งเสร็จกลาง พ.ย.นี้ ลั่นผลประโยชน์ใต้ทะเลยังไม่คุยจนกว่าจะชัดเจนและนำเข้ารัฐสภา ยอมรับกัมพูชาถามคืบหน้า

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' แจงยุค 'ลุงตู่' เจรจา 'เกาะกูด' 3 แนวทาง ไม่มีแรงต้านเหมือนนักการเมือง

8พ.ย.2567-นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าบูรณภาพกับพลังงานอะไรมาก่อน

'หม่อมกร' เห็นพ้อง 'ปานเทพ' ตอกย้ำ กต.แถลง MOU 44 ขัดกับพระบรมราชโองการโดยชัดแจ้ง

ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าวันนี้ปรากฎหัวข้อข่าวว่า“ปานเทพ ซัด กต.กล้าบังอาจแถลงข่าวตัดตอนพระบรมราชโองการ ร.9 ถามกรมสนธิสัญญาฯ ทำเพื่อประโยชน์รัฐบาลชาติใด”