'สมชัย' เผย กิตติรัตน์ เป็นคนเก่ง แต่ตามใจการเมือง จนประเทศเสียหาย

5 พ.ย. 2567 – นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.และนักวิชาการ ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
กิตติรัตน์ ไม่ใช่คนไม่เก่ง แต่เขาเป็นคนที่เคยตามใจฝ่ายการเมือง จนประเทศเสียหาย

ผมเคยประชุมร่วมกับคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง สองครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ครั้งที่สองในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2566 ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันราวสองเดือน

ช่วงเป็นกรรมาธิการงบประมาณในฐานะฝ่ายค้านด้วยกัน ทำให้รู้ว่า เขาตั้งใจทำงานมาก มาแต่เช้า นั่งไม่ลุก ฟังตลอดและ พูดเท่าที่จำเป็น แต่เมื่อพูดนั้นเป็นประเด็นแบบฝ่ายรัฐบาลต้องตั้งใจฟัง

ส่วนปี 2557 เขามาในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลรักษาการก่อนเลือกตั้ง มากับอธิบดี 2 ท่านของกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอให้ กกต. อนุมัติให้ ครม. กู้เงิน 20,000 ล้านจาก ธกส. ไปใช้หนี้ชาวนา โดยจะนำเงินจากการขายข้าว G to G กับจีนมาคืน ธกส.

ผมถามคุณกิตติรัตน์สองคำถามว่า รัฐบาลจะใช้หนี้ ธกส. ภายในเวลาเท่าไร ท่านหันไปถามอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้คำตอบว่า ประมาณ 2 ปี และถามต่อว่า รัฐบาลรักษาการจะรักษาการนานแค่ไหน ท่านตอบว่าคง 2-3 เดือน

สรุป กกต. ไม่ให้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันรัฐบาลภายหน้าได้ ดังนั้น ถ้าให้จะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ ครานั้นสื่อข้างรัฐประโคมด่า กกต.ว่าเป็นอุปสรรคทำให้ชาวนาไม่ได้เงิน

สามปีถัดมา ในเดือนสิงหาคม 2560 ศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก รมว.พาณิชย์ 42 ปี และจำคุกอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 40 ปี และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์อีกหลายราย ด้วยข้อหาค้าข้าว G to G เก๊ ทำให้รัฐต้องเสียหาย
การมีโอกาสเจอและทำงานร่วมกับเขา จึงไม่ลังเลจะรับรองในเรื่องความรู้ความสามารถ

เพียงแต่เขาเป็นคนเก่งที่อาจจะตามใจฝ่ายการเมือง

นาทีนี้ เราต้องการคนเก่ง ที่ยืนหยัดในหลักการ เป็นอิสระ ไม่ตามใจฝ่ายการเมืองจนประเทศอาจเกิดความเสียหายครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตกกต.' เหน็บ 'ทักษิณ' อัจฉริยะเกินไป หรือ สติฟั่นเฟือน รับซื้อหนี้ประชาชนจากแบงก์

สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. โพสต์ข้อความหัวข้อ อัจฉริยะหรือฟั่นเฟือน ระบุรายละเอียดว่า ใครก็ตามที่กล่าวคำใหญ่โตว่า จะให้มีการรับซื้อหนี้

‘ธีระชัย’ ข้องใจ กม.ศูนย์กลางการเงิน หวั่นทำลายระบบการเงิน-ความน่าเชื่อถือแบงก์ชาติ

สนับสนุนแนวคิด ที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเข้าสู่ แต่รัฐบาลสามารถนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนและเศรษฐกิจดิจิทัล มาใช้ในการบริหารประเทศทั่วไปได้อยู่แล้ว โดยต้องไม่ไปทำลายความน่าเชื่อถือของแบงก์ชาติ และระบบการเงินของประเทศ