อดีตผู้พิพากษา เล่าประสบการณ์พิจารณาพิพากษาคดีที่มีเอกสารจำนวนมาก

2 พ.ย.2567 - นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊กว่า.....ข่าวเรื่องดิไอคอนที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วมีจำนวนเป็น 10,000 คน ถ้าเฉลี่ยคำให้การคนละ 3-4 หน้า ก็จะมีจำนวน 30,000-40,000 หน้า ยังไม่นับคำให้การของพยานและเอกสารอื่น ๆ กับคำเบิกความของพยานในชั้นศาลซึ่งยังไม่รู้จะมีมากน้อยแค่ไหน

.....รู้สึกเห็นใจและเหนื่อยใจแทนท่านผู้พิพากษาและองค์คณะที่เป็นผู้พิจารณาพิพากษาคดีนี้ ที่ต้องนั่งอ่านคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายทุกคน พยานเอกสาร และคำเบิกความของพยานรวมกันหลายหมื่นหน้าเช่นนี้

.....ทั้งต้องเขียนคำพิพากษาซึ่งก็คงมีความยาวเป็นร้อยหน้าแน่นอน เพราะโจทก์ต้องขอให้จำเลยชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายทุกคน ดังนั้นนอกจากต้องวินิจว่าจำเลยมีความผิดหรือไม่แล้ว ยังต้องวินิจฉัยว่าจำเลยจะต้องชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหายทุกคนหรือไม่ แต่ละคนมีจำนวนมากน้อยเพียงใด

.....ที่กล่าวเช่นนี้เพราะเคยมีประสบการณ์ในการพิจารณาพิพากษาคดีที่มีเอกสารมากมายอ่านอยู่เป็นอาทิตย์ตาเปียกตาแฉะ

.....คดีแรกขณะดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดลำพูน เป็นคดีที่มีการตัดต้นไม้นอกเขตสัมปทานมาสวมตอไม้ในเขตสัมปทานแล้วอ้างว่าเป็นไม้ที่ตัดในเขตสัมปทาน

.....สมัยก่อนประเทศไทยอนุญาตให้ประชาชนขอสัมปทานป่าไม้เพื่อตัดไม้ในเขตป่าสัมปทานขายได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพิ่งได้มีการยกเลิกการให้สัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2532

.....คดีดังกล่าวมีการตัดไม้นอกเขตสัมปทานมาสวมตอไม้ในเขตสัมปทานนับพันต้นหลายหมื่นท่อน จึงต้องตรวจตราประทับของเจ้าหน้าป่าไม้ที่ประทับตราทั้งด้านโคนและด้านปลายของไม้ทุกท่อน รวมทั้งเส้นผ่าศูนย์กลางหรือขนาดของไม้แต่ละท่อนแล้วนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับเส้นผ่านศูนย์กลางหรือขนาดของตอต้นไม้ในป่าสัมปทาน ก็จะรู้ได้ว่าเป็นท่อนไม้ที่ตัดจากโคนต้นไม้ที่อยู่ในเขตสัปทานหรือไม่

.....ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการตรวจดูตราประทับของเจ้าที่ป่าไม้และเส้นผ่าศูนย์กลางหรือขนาดของไม้แต่ละท่อนทั้งด้านโคนและด้านปลายพอสมควร จำได้ว่าต้องใช้เวลาอ่านเอกสารเป็นอาทิตย์กว่าจะสรุปได้ว่าเป็นไม้ที่ตัดมาสวมตอต้นไม้ในเขตสัมปทานทั้งหมด

.....ผลของคดีคือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 2 คนที่ตีตราไม้ทั้งหมด มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี

.....แต่ที่ต้องแปลกใจมาก ๆ ก็คือเจ้าของสัมปทานป่าไม้กับผู้เช่าป่าสัมปทานเพื่อตัดไม้ขายที่เป็นอดีต ส.ส.คนหนึ่งและมีบุตรเขยเป็นนายตำรวจคนดังอดีตรองอธิบดีกรมตำรวจซึ่งเป็นผู้ตัดโค่นต้นไม้นอกป่าสัมปทานมาสวมตอไม้ในเขตสัมปทานกลับไม่ถูกฟ้องคดีต่อศาล

.....คดีที่สองขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในศาลฎีกา คือคดีที่มีการฟ้องว่า จำเลยปั่นหุ้นของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด(ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว) คดีนี้มีเอกสาร 5-6 กล่องโทรทัศน์ขนาด 29 นิ้ว ซึ่งก็มีนับหมื่นหน้า(เป็นโทรทัศน์รุ่นเก่าไม่ใช่โทรทัศน์ที่มีจอแบนแบบปัจจุบัน) คดีนี้แม้จะมีเอกสารมากมาย แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงไม่ต้องอ่านเอกสารทั้งหมด อ่านเฉพาะข้อสรุปที่เป็นประเด็นปัญหาสำคัญเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยข้อกฎหมาย แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพิฏฐ์' หวิดถูกขัง! หลังเผลอเรียกผู้พิพากษา 'ใต้เท้า'

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมเป็นคนแก่ที่ผู้ปกครองนำเด็กนักเรียนเข้ามาปรึกษาเรื่องการเรียนด้านกฎหมายอยู่บ่อย

'ผู้พิพากษา-อัยการ-บิ๊กสีกากี' แห่สมัคร! ชิง 3 เก้าอี้ ป.ป.ช.

ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะหน่วยธุรการ เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

โปรดเกล้าฯ ให้ผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนฯ พ้นจากตำแหน่ง 8 ราย

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง ให้ผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวพันจากดำแหน่ง

อดีตผู้พิพากษาฯ ชี้ 2 หมื่นคนได้ประโยชน์จากแก้รธน.ครั้งนี้ อีก 66 ล้านคนจะได้รับความเสียหาย

นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาระบุ.....ในขณะที่ประชาชนไทยหลายล้านคนกำลังได้รับความเดือดร้อนมีความทุกข์ทั้งกายและจิตใจอย่าง