'จตุพร' ฟาดการเมืองต้มตุ๋น คำพูดตัวเองยังกล้าตระบัดสัตย์ ยังมีหน้าการันตีจะไม่เสียดินแดน

'จตุพร' ฟาดการเมืองต้มตุ๋น หลอกลวงอุดมการณ์ ลั่นแค่คำพูดตัวเองยังกล้าตระบัดสัตย์ ยังมีหน้าการันตีจะไม่เสียดินแดน ซัดทำเป็นอวดดีผูกขาดรักชาติ จี้เปิด MOU 44 พร้อมชำแหละสัญญาสัมปทานเชฟรอน 50 ปี

31 ต.ค. 2567 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ เย้ยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ออกอาการเร่งรีบทำโครงการสุ่มเสี่ยงทำให้ประเทศเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะบ่อนคาสิโนและการเจรจาผลประโยชน์พลังงานแลกกับไม่มีหลักประกันจะรักษาเกาะกูดเอาไว้ได้

“แม้แต่คำพูดตัวเองยังกล้าตระบัดสัตย์ แล้วยังมีหน้ามาการันตีจะไม่เสียดินแดน คนแบบนี้จะรักษาแผ่นดินได้อย่างไร”นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร ระบุว่า ทุกรัฐบาลผ่านมาไม่มีปัญหา MOU 44 เพราะไม่ได้บรรจุการเจรจาแหล่งพลังงานที่เกี่ยวข้องกับเกาะกูดไว้ในการแถลงนโยบายเร่งด่วนเหมือนรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยไม่รู้แน่ชัดคือ จำนวนปริมาณพลังงานมีเท่าใดกันแน่ เพราะไม่เคยมีการสำรวจอย่างจริงเลย

นายจตุพร ย้ำว่า รัฐบาลอุ๊งอิ๊งต้องกล้าเปิดเผยสัญญายกสัมปทานพลังงานให้เชฟรอน เพราะภูมิรัฐศาสตร์ไม่เหมือนเดิม สถานการณ์มหาอำนาจเกิดเปลี่ยนแปลงปะทุขัดแย้ง การให้สัมปทานเมื่อปี 2515 ในยุคสงครามเย็น แล้วยังขยายอายุสัมปทานเป็นระยะ กระทั่งถึงวันนี้ยาวนานกว่า 50 ปี แต่การขุดสูบพลังงานออกมาใช้ยังไม่เคยเริ่มดำเนินการเลย

ดังนั้น ที่พูดกันมาเนื่องจากท่วงทำนองของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่คนไทยไม่สบายใจกับการเร่งรีบเจรจาแหล่งพลังงาน ไม่แตกต่างจากออกอาการด่วนตั้งบ่อนคาสิโนที่ทำลายคนในชาติ และสิ่งสำคัญ MOU 44 เป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงเสียดินแดนของไทยไปให้กัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ไทยมีปมใจเรื่องการเสียดินแดนนับครั้งไม่ถ้วน จึงเปลี่ยนแปลงจากความรู้สึกไม่ได้ แม้ยอมรับประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้ แต่ปัจจุบันคนไทยไม่พร้อมจะสูญเสียดินแดนอีก ดังนั้น การเจรจาผลประโยชน์ทางทะเลที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์กัน ถ้าวันนี้เรามีเหตุจากวิกฤตน้ำมันไม่มีสักหยด และเราเป็นเจ้าของแหล่งพลงงานในสัดส่วนของเราเต็มๆ กันนี้ก็พอถูไถให้เร่งรีบหาผลประโยชน์เข้าประเทศได้

"หากเมื่อสูบน้ำมันในแหล่งของไทยออกมาใช้ได้ แล้วราคากลับไปอิงกับสิงคโปร์ทำให้ราคาสูง แล้วไทยได้อะไร ดังนั้น สัญญาสัปทานกับเชฟรอนจึงล้าสมัยไปแล้ว ทำไมไม่พูดเรื่องสัญญากันก่อนว่า ไทยต้องเสียเปรียบเรื่องใดบ้าง และมีหลักประกันให้ไทยได้ใช้น้ำมันราคาถูก แล้วพลังงานที่มีมูลค่า 10-20 ล้านล้านนั้น คนไทยได้สักกี่บาท"

อีกทั้งกล่าวว่า ถ้าไม่ชัดเจนเรื่องดินแดน โดยยังตกลงกันไม่เสร็จ กลับไปเอาผลประโยชน์จากแหล่งพลังงานก่อน เท่ากับยอมรับในเรื่องดินแดน ซึ่งเหมือนกับปัญหาปราสาทพระวิหาร ฉะนั้นควรตกลงเขตแดนให้เรียบร้อยก่อนและต้องไม่มีการสมยอมกันแบ่งครึ่งเกาะกูดอย่างเด็ดขาด

นายจตุพร กล่าวว่า ผู้นำกัมพูชามีความชัดเจนในเรื่องดินแดน เพราะประเทศเขาต่อสู้ปกป้องเอกราชดินแดนมาต่อเนื่อง ดังนั้น ดินแดนจึงเป็นแนวทางชาตินิยมให้ยึดถือเพื่อหลอมรวมเอกภาพการรักชาติของคนในชาติ เขาจึงไม่ยอมเสียเปรียบในเรื่องดินแดน ส่วนไทยกลับด้อยค่าคนรักชาติที่ปกป้องแผ่นดินว่า เป็นพวกคลั่งชาติ

สิ่งสำคัญ ไทยไม่มีเหตุผลใดที่ต้องรีบเร่งเจรจาผลประโยชน์แหล่งพลังงานก่อน แต่เราต้องปักปันเขตแดนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาให้เรียบร้อยชัดเจนแล้วจึงเจรจาเรื่องผลประโยชน์พลังงานกัน หากเราไปยอมรับผลประโยชน์น้ำมันและก๊าซใต้ดินเท่ากับยอมรับสิ่งที่อยู่บนดิน นั่นเป็นหลักที่เขาได้ปักไว้แล้วกับปัญหาดินแดน ซึ่งจะนำพาให้ไทยไปสู่การเสียดินแดนซ้ำอีก ด้วยเหตุนี้ ตลอดเวลา 23 ปีจึงยังไม่จบ และเมื่อถอยไปอีก 50 ปีก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันไม่ได้ เพราะแต่ละประเทศไม่ยอมเสียดินแดน

“วันนี้ ใครหน้าไหนมาการันตีว่าจะไม่เสียดินแดน เมื่อคำพูดของมันยังตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคำพูด แล้วจะรักษาดินแดนได้อย่างไรกัน ดังนั้น คุณ (รัฐบาลเพื่อไทยกับผู้บ่งการอยู่เบื้องหลัง) ต้องฟังคนไทยบ้างในฐานะเป็นเจ้าของประเทศ เพราะผลประโยขน์ที่เร่งรีบเจรจาไม่ได้กับชาติบ้านเมือง แต่กลับมีโอกาสจะเสียดินแดน”

พร้อมทั้งย้ำว่า ใครที่ตระบัตสัตย์คำพูดตัวเองแล้ว อย่าไปปรามาสคนรักชาติที่ปกป้องดินแดนว่า พวกคลั่งชาติ เพราะเรามีปมใจในเรื่องเสียดินแดนมาตลอดตั้งแต่ยุคฝรั่งเศลล่าอาณานิคมในอินโดจีน แล้วขีดเส้นเขตแดนไทยจนเสียเปรียบเรื่องเขตแดนทั้งลาวและกัมพูชาอีกหลายพื้นที่ รวมทั้งเกาะกลางน้ำโขงในปัจจุบัน

นายจตุพร กล่าวว่า การเร่งรีบเจรจาผลประโยชน์พลังงานก่อนตกลงเรื่องเขตแดน เพราะบรรดานักการเมืองพ่อค้าทั้งหลายมีอาการตาโตกับผลประโยชน์อื่นใดที่ในสัญญาได้ตกลงไว้กับเชฟรอน จึงเห็นช่องว่างเป็นหนทางทำมาหากินกัน ซึ่งอาการตาโตเช่นนี้เป็นพฤติกรรมเร่งรีบที่สุ่มเสี่ยงกับการเสียแดนของไทยอย่างยิ่ง อย่าได้มาอวดดีผูกขาดการรักชาติ คุณรักชาติอะไรกัน แล้วไปใส่ไว้ในนโยบายเร่งด่วนทำไม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จตุพรชี้ รัฐบาลพ่อเลี้ยง ขาดพ่อก็จบ ไม่มีคนเกรงใจ

“จตุพร” ชำแหละรัฐบาลพ่อเลี้ยง สะท้อนนายกฯ ยังละอ่อนการเมือง ฉะพ่อก้าวร้าว อาละวาดตบจูบทำเสมือนเป็นนายกฯ ตัวจริง ส่วนลูกแค่ร่างทรง เชื่อขาดพ่อรัฐบาลก็จบ จับตาเชือด “พีระพัง” หลังปีใหม่ ระบุขวางผลประโยชน์กลุ่มทุนผูกขาด ซัดสหายใหญ่ ทำตัวเป็นแมวเสียศักดิ์ศรีคุมกลาโหม ชมฉายา “อนุทิน- รมต.น้ำ” รู้เท่าทันสถานการณ์บังคับให้เล่นเป็น อยู่ได้ ชี้นายกฯ แพทองโพย เอาแต่อ่านทำภาพลักษณ์ผู้นำหายหมด

การเมืองมกรา’68 พรรคร่วมร้อนรุ่มแตกหัก ‘ทักษิณ’ หนาวสะท้านชั้น 14

ทักษิณขยี้หนัก โชว์ภาพตีกอล์ฟขนาบข้างทุนผูกขาด ส่อสื่อสัญญาณรุก “พีระพันธุ์-รวมไทยสร้างชาติ” คาดชะตากรรมไม่แตกต่าง “ประวิตร-พปชร.” ประเมินปี 68 ปมชั้น 14 ทำการเมืองร้อนแรง

'จตุพร' ฉะ 'ทักษิณ' เดินเกมการเมืองอบจ. แบบตีท้ายครัว ใช้นโยบายปราบผู้มีอิทธิพลเพื่อต้อนเข้าคอก

นายจตุพร​ พรหมพันธุ์​  กล่าวถึงบทบาทของนายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ในการเป็นผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ต่างๆ ว่า​ จากคำพูดของ ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ สส.พะเยา ที่ออกมาระบุว่าได้พานายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ 

'จตุพร' อัดคนทุจริต จิตตกมาตรฐานต่ำ อวดยิ่งใหญ่ตวาดไล่ รมต.

จตุพรฟาดทักษิณ คุณใหญ่มาจากไหน เย้ยมาตรฐานการเมืองต่ำ ชกใต้เข็มขัด ลามปามลากครอบครัวไม่เกี่ยวข้องการเมืองมาโพนทะนาเสียหาย ซัดกลับมีอาชีพอะไรทำไมรวยแล้วยังโกงบ้านเมือง ปัดหากินกับม็อบเพราะไม่ได้คุมเงิน ปูดบางพรรคหลังเลือกตั้งจ่ายเงินให้ สส.คนละ 5 ล้านแล้ว ย้อนคุณรู้หรือไม่? จะให้ ปปง.ตรวจสอบหรือไม่

ฮึ่ม! โชว์ภาพแกนนำทุกวงการ เขย่าขวัญรัฐบาลเพื่อไทย นัดเยี่ยม ป.ป.ช.ถามปมป่วยทิพย์ชั้น 14

'จตุพร' เผย ฝ่ายปชช.แทบทุกวงการนัดหารือปัญหาชั้น 14 จ่อขยับไปเยี่ยม ปปช.ทวงถามทำหน้าที่ตรวจสอบป่วยทิพย์ จี้รัฐบาลเลิก MOU 44 หวั่นก่อปัญหาระหว่างประเทศ ย้ำต้องเจรจาเขตแดนก่อนหารือผลประโยชน์ เตือนสิ่งทีรัฐบาลทำไม่ต่างจากเรียกทหารออกมายึดอำนาจ

ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' ประเดิม 18 ธ.ค. บุก ป.ป.ช. หึ่งล็อบบี้หนักล้มคดีชั้น 14

วงหารือฝ่ายต้านรัฐบาล ตั้งป้อมชน 'ระบอบทักษิณใหม่' นำร่อง 18 ธ.ค. บุกตึก ป.ป.ช. หลังได้กลิ่นล็อบบี้หนัก 3 กรรมการฯ ล้มคดีชั้น 14