'เทพไท' ซัดพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์เรื่องนิรโทษกรรม

30 ต.ค.2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทวงความจำพรรคเพื่อไทย ก่อนพูด:เราเป็นนายคำพูด เมื่อพูดแล้ว:คำพูดเป็นนายเรา” มีเนื้อหาว่า ผมติดตามข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าต้องรอคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคตัดสินใจในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ แต่ยืนยันได้ว่าจะไม่นิรโทษกรรมการกระทำผิดที่เกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 แน่นอน ต้องไม่แตะมาตรา 112 เพราะเป็นสิ่งที่ย้ำมาตลอด ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลก็เน้นย้ำเรื่องนี้ ทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาล ก็ตกลงว่าจะไม่มีการแตะหมวด 1 และหมวด 2

ตอนนี้มีหลายฝ่ายถามหาจุดยืนของพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าจะรวมมาตรา110และมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ แต่ล่าสุดที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยมีมติชัดเจนแล้ว จะยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยไม่รวมความผิดมาตรา 110 และ 112 ด้วย โดยอ้างถึงข้อตกลงตอนข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม ทั้งที่ตอนรณรงค์หาเสียงของพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ต่างมีจุดยืนต้องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และประกาศชัดเจนว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะผลักดันให้มีการประกันตัวผู้กระทำผิดมาตรา 112 และนำเรื่องมาตรา 112 เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเวทีการพูดคุยแลกเปลี่ยนที่ปลอดภัย

แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ผ่านรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มาถึงรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่การช่วยเหลือผู้กระทำผิดมาตรา 112 ให้ได้รับการประกันตัว และไม่ได้นำประเด็นมาตรา 112 มาหาทางออกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเลย มิหนำซ้ำยังประกาศจุดยืนชัดเจนว่า จะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยกเว้นผู้กระทำผิดมาตรา 112 และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่แตะหมวด1และหมวด2 ซึ่งสวนทางกับคำประกาศหาเสียงทุกอย่าง

วันนี้เมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งสามารถนำนโยบายหาเสียงของพรรค มากำหนดเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลได้ แต่กลับไม่ทำ อ้างเงื่อนไขการเป็นรัฐบาลผสม ต้องฟังมติของพรรคร่วมด้วย ซึ่งเป็นการตระบัดสัตย์นับครั้งไม่ถ้วน เป็นการผิดคำพูดเพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล หวังกุมอำนาจรัฐเพื่อความสำเร็จตามเงื่อนไขดีลลับ 3 ข้อ คือ 1.นายทักษิณได้กลับบ้านแบบเท่ๆ ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว 2.นางสาวยิ่งลักษณ์ ที่หนีคดีจำนำข้าวอยู่ต่างประเทศได้กลับประเทศโดยไม่ต้องติดคุกเช่นกัน 3.นางสาวแพทองธาร ลูกสาวได้เป็นนายกรัฐมนตรี

ตอนนี้ข้อตกลงในดีลลับได้ทำสำเร็จแล้ว 2 ข้อ คงเหลืออีก 1 ข้อ จึงจำเป็นต้องประคองอำนาจต่อไปให้บรรลุเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อ จึงเป็นที่มาของพรรคเพื่อไทยยอมตระบัดสัตย์ ยอมผิดคำพูด ละทิ้งมวลชน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของนายใหญ่และครอบครัวเท่านั้น

เมื่อพรรคเพื่อไทยลืมสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชน แต่ประชาชนจะไม่ลืมคำสัญญาเหล่านั้น จะคิดบัญชีกับพรรคเพื่อไทยในคูหาเลือกตั้งครั้งต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุริยะใส' วิเคราะห์ 'เพื่อไทย-ปชน.' พันธมิตรทางอุดมการณ์ ขาดสะบั้นแล้วจริงหรือ?

ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเผยแพร่บทวิเคราะห์ “เพื่อไทย vs พรรคประชาชน: พันธมิตรทางอุดมการณ์

ประมวลวาทะ ‘แพทองธาร’ ย้อนเกล็ดพรรคประชาชน! ท้าประกาศมาจะร่วมไม่ร่วมกับใคร

“แพทองธาร ชินวัตร“ ตอบโต้ข้อกล่าวหาขาดภาวะผู้นำ ถูกพ่อครอบงำ พร้อมเผยดีลทางการเมืองปี 66 และเรียกร้องให้พรรคประชาชน ประกาศจุดยืนทางการเมืองให้ชัดเจนในการเลือกตั้งครั้งหน้า

'กาโม่' ยืนยัน 'ปู่เฉลิม' ไม่ได้คุยฝ่ายค้าน ขอซักฟอกนายกฯอิ๊งค์

นายอาชวิน อยู่บำรุง ที่ปรึกษา รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรฐกิจและสังคม ฐานะหลานชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมไปขอเวลาฝ่ายค้าน เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ