'เชาว์' บี้ 'สภาทนายความ' สอบมรรยาท 'ษิทรา'

‘เชาว์’ บี้สภาทนายความสอบมรรยาท ‘ทนายตั้ม’ หลังโดนแจ้งความฉ้อโกง 71 ล้าน วอนเร่งจัดระเบียบทนายโซเชียลผุดเป็นดอกเห็ด

25 ต.ค. 2567 – นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และทนายความ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “สภาทนายความ ต้องสอบปม ”ทนายตั้ม“ หลังถูกแจ้งความข้อหาฉ้อโกง 71 ล้าน” โดยระบุว่า กรณี นางสาวจตุพร อุบลเลิศ นักธุรกิจสาวที่มีกิจการในต่างประเทศและในไทย ในฐานะผู้เสียหายได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรปากช่องจังหวัดนครราชสีมา โดยแจ้งข้อกล่าวหานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ว่าฉ้อโกงเงินจำนวน 71 ล้านบาท ขณะที่ทนายตั้มร้อนตัวรีบชิงออกสื่ออ้างว่าได้มาโดยเสน่หา รวมทั้งการรับโอนเงินมีการแสดงหลักฐานปกปิดการทำธุกรรมเพื่อเลี่ยงภาษี ตามที่ปรากฏข่าวอยู่ในสื่อโซเชียล

ในฐานะที่เป็นทนายความ ได้ยินข่าวทำนองนี้ก็รู้สึกหดหู่ใจ เพราะโดยปกติภาพพจน์ของทนายความก็ไม่ค่อยเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจต่อสังคมสักเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดังที่อาศัยสื่อโซเชียลในการสร้างภาพลักษณ์ตนเองจนมีผู้ติดตามนับล้านคน มีความปรากฏว่าผู้เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา ข้อหาฉ้อโกงเงินของลูกความ 71 ล้านบาท ถ้าเป็นจริงกรณีถือเป็นเรื่องร้ายแรง ตามข้อบังคับสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ.2529

นายเชาว์ ยังเรียกร้องไปที่สภาทนายความและคณะกรรมการมรรยาททนายความซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการกำกับดูแลการประกอบอาชีพของทนายความ ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณีนี้ ซึ่งสามารถกระทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามา เพื่อทำความจริงให้ปรากฏต่อสังคมว่าองค์กรทนายก็มีการตรวจสอบ การทำหน้าที่ของทนายด้วยกันเอง ไม่เพิกเฉยต่อกรณีที่เกิดขึ้น และไม่ปกป้องคนของตนเอง ถ้าผิดจริง ก็ต้องถูกลงโทษไม่ให้เป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ

“เราเห็นทนายความเฟซบุ๊กได้รับความเชื่อถือ มีประชาชนเข้าหามากกว่าสภาทนายความเสียอีก เพราะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป การแสวงหาชื่อเสียง หรือหาแสงก็มีมากขึ้น เรียกตัวเองว่าทนายความ แต่ปฏิบัติตนเหมือน อินฟลูเอนเซอร์ เรียกยอดไลค์ แต่กลับไร้ความผิดชอบต่อสังคม ผมคิดว่าสภาทนายความรควรมีบทบาทเข้าไปจัดการเรื่องนี้ ไม่ให้เกิดเรื่องแปดเปื้อนกับวิชาชีพทนายความ“ นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมีย-ลูก 'หมอบุญ' มอบตัวคดีร่วมกันฉ้อโกง อ้างถูกปลอมลายเซ็น ยันเอาผิดสามี-ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของนายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ พร้อมด้วย น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ

'เชาว์' ชี้เลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีฯ เกิดปรากฏการณ์ตื่นตัวทางการเมืองสูงจนน่าประหลาดใจ

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้(24 พย.67) ว่า  จากการที่ตนได้ติดตามการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้เห็น ปรากฏการณ์ ความตื่นตัวทางการเมืองของพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช

'สนธิ' ร้องเรียนสภาทนายความ สอบมรรยาท 'ทนายษิทธา-ทนายเดชา'

ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อม

ตร. เรียก 'เจ๊อ้อย' ให้ข้อมูลเพิ่ม 2 คดี 'ทนายตั้ม' วางแผนเป็นผู้จัดการมรดก-เงิน 39 ล้าน

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย จำนวน 39 ล้านบาท ว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วจำนวนหลายปาก รวมถึงสืบพบพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมหลายอย่าง

'เชน ธนา' ปล่อยโฮกลางวงสื่อ ชี้แจงหลังถูกกล่าวหาโกงเงิน 79 ล้าน!

กำลังเป็นประเด็นร้อนเลยทีเดียวเมื่อ เชน-ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ อดีตนักร้องนักแสดงที่ผันตัวไปทำธุรกิจ บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ถูกกล่าวหาว่าโกงเงินค่าสินค้ามากถึง 79 ล้านบาท ล่าสุดเจ้าตัวพร้อมภรรยา เจมส์ กาลย์กัลยา และทนายความ ได้หอบหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ในช่วงบ่ายของวันนี้ (จันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567) ที่กองบังคับการปราบปราม

สาวไส้ 'ทนายตั้ม' เปลี่ยนพินัยกรรม ตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก 'เจ๊อ้อย'

ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความกับพวก ในข้อหาฉ้อโกง