“กมธ.วิสามัญชายแดนใต้ฯ” แถลง 4 ข้อ รับมือผลกระทบหลังคดีตากใบจะหมดอายุความ 25 ต.ค.นี้ “ภูมิธรรม” สั่งเฝ้าระวังการก่อเหตุ ติดตามตัวผู้กระทำผิด พร้อมป้องกันภัยจากมือที่สาม แม่ทัพภาค 4 รับเป็นความผิดพลาดของ จนท.
24 ต.ค.2567 - เมื่อเวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษา และเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาฯ แถลงข่าวกรณีตากใบว่า วันนี้ได้มีการเชิญนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม แต่ได้มอบหมายให้และนายฉัตรชัย บางชวด รักษาราชการแทนเลขา สมช.และ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาชี้แจง ซึ่งก็ได้รับข้อมูลและการชี้แจงที่เป็นประโยชน์ ทั้งต่อการช่วยติดตามการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากกรณีตากใบ ที่กำลังจะหมดอายุความ และอาจจะไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้เลย รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการที่จะหาทางสร้างสันติภาพและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในภาคใต้
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า พล.ท.ไพศาลได้กล่าวยอมรับว่ากรณีตากใบเป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น ตนจึงต้องการให้อาศัยกระบวนการยุติธรรมในการเปิดเผยความจริง ขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ 2 คนที่อยู่ในราชการ และมีความพยายามที่จะติดตามตัวมาสู้คดีในชั้นศาล นอกจากนี้ได้ชี้แจงว่าพยายามกำชับให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมาย ทางกรรมาธิการฯ ได้แสดงความกังวลที่มีเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจไปเยี่ยมเยียนประชาชนที่เป็นโจทก์ในคดีนี้ บางคนที่ยื่นฟ้องคดีตากใบ สุไหงปาดีและเจาะไอร้อง ซึ่งชาวบ้านรู้สึกถูกคุกคาม จึงขอให้แม่ทัพภาค 4 รับรองความปลอดภัยและยุติปฏิบัติการเหล่านี้
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรรมาธิการฯ ได้สอบถามว่ากองทัพภาค 4 มีการเตรียมการรับมือการจัดการฝูงชนที่มาชุมนุมอย่างสงบอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในอนาคต ซึ่งในเหตุการณ์ตากใบมีผู้เสียชีวิตในที่ชุมนุม 7 คนที่นอกเหนือจากการเสียชีวิตระหว่างการขนส่ง ในนี้มี 5 คนที่ถูกยิงที่ศีรษะ ซึ่งทาง พล.ท.ไพศาลชี้แจงว่าหน้าที่หลักในการควบคุมฝูงชน คือตำรวจในพื้นที่ที่ได้รับการฝึกอบรม ซึ่งตนได้ให้ข้อสังเกตว่าในการที่มีหลายหน่วยสนธิกำลังกัน แต่มีปัญหาเรื่องการรับผิดชอบว่าใครเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์หลักเวลาเกิดเหตุ และใครเป็นผู้ชี้แจงกับสาธารณะ ฝากแม่ทัพภาค 4 ดูแลทั้งการคุมฝูงชนและการบังคับใช้กฎหมาย ดูแลให้เกิดความยุติธรรมต่อไป
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของรักษาราชการแทนเลขา สมช.ได้ให้ข้อมูลในเรื่องนี้อย่างครอบคลุมดีมากพอสมควร ที่ผ่านมารัฐบาลได้กล่าวคำขอโทษและเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ตากใบ และทางตำรวจได้พยายามติดตามบุคคลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในระดับหนึ่ง โดยมีข้อสั่งการของนายภูมิธรรมให้เฝ้าระวังการก่อเหตุและติดตามตัวผู้กระทำผิด รวมทั้งการยกระดับการเตรียมการเพื่อรับมือการชุมนุม โดยเคารพสิทธิเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบและป้องกันภัยจากมือที่สาม
ทั้งนี้ หลังวันที่ 25 ต.ค.เมื่อคดีหมดอายุความ ได้เตรียมการในประเด็นสำคัญที่จะรับมือผลกระทบที่จะตาม 4 เรื่องคือ 1.มีการคาดการณ์ว่าจะก่อเหตุความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งภาครัฐเฝ้าระวังพื้นที่อย่างเข้มข้นมากขึ้น
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า 2.มีการกำชับระดับหน่วยปฏิบัติให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำบุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัย 3.ดำเนินกระบวนการเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีกรณีตากใบ ซึ่งจะรู้ว่ายังจะมีอะไรที่เพิ่มเติมได้อีกบ้างนอกเหนือจากการเยียวยาที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ และดำเนินการเมื่อนานมาแล้ว 4.กระบวนการพูดคุย รัฐจะเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุย และการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนของการพูดคุยและสร้างสันติภาพระยะต่อไป เลขา สมช.ชี้แจงว่าได้เตรียมการทำข้อเสนอต่อรัฐบาล โดย สมช.เสนอตั้งคณะพูดคุยสันติสุขใหม่ ภาครัฐยินดีที่จะเปิดพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ ดำเนินการภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ และยังให้ข้อมูลอีกว่านายมูฮัมหมัด ราบิน บาเซีย ฝ่ายมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยมีความจริงจังอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายปี และฝ่ายภาครัฐกำลังพิจารณาลดการใช้กฎหมายพิเศษ และอาจออกกฎหมายอื่นใช้แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ตนได้ฝากความเห็นไปยังเลขา สมช.ควรรีบสรุปบทเรียนจากเหตุการณ์ตากใบที่ผ่านมา ตั้งแต่การควบคุมดูแลการชุมนุม การปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม การดำเนินคดี ซึ่งเรื่องเหล่านี้ในช่วงขั้นตอนการควบคุมการชุมนุม และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เป็นบาดแผลที่สำคัญของสังคมไทยไปรอบหนึ่งแล้วในทางความรู้สึกของประชาชน
ต่อมาเมื่อพบว่ามีความพยายามที่จะดำเนินคดี และสามารถดำเนินคดีได้ในระยะหลังนี้ ในที่สุดพบว่าไม่สามารถดำเนินคดีใครได้เลย เนื่องจากคดีกำลังจะหมดอายุความ ก็จะเป็นบาดแผลที่สำคัญร้ายแรงมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นควรจะสรุปบทเรียนตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การชุมนุม การดูแลการชุมนุม การบังคับใช้กฎหมายและการดำเนินคดี เพื่อให้เกิดความยุติธรรมที่ล้มเหลวไป เพื่อที่จะหาทางทั้งเยียวยาเพิ่มเติม และหานโยบาย มาตรการ วิธีการในการดูแลผู้ชุมนุม การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างยุติธรรม
ที่สำคัญทำให้กระบวนการยุติธรรมสามารถใช้ในการให้ความยุติธรรมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะประชาชนได้จริง ซึ่งจะเป็นการรื้อฟื้นความเชื่อถือ ความไว้วางใจต่อกระบวนการยุติธรรม
“ขอให้เลขา สมช.รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอรัฐบาล และคณะกรรมาธิการฯ ขอให้ทุกฝ่ายงดใช้ความรุนแรง และใช้พื้นที่ทางการเมืองในการแสดงออก และทราบว่าทางฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะ สมช.เห็นความสำคัญการพูดคุยสันติภาพ และการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีส่วนรับรู้ สามารถแสดงความคิดเห็นต่อการพูดคุยมากขึ้น
ทั้งนี้ จะเชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาหารือกับกรรมาธิการฯ เร็วๆนี้ แต่ไม่ใช่เฉพาะผลกระทบกรณีตากใบ แต่จะเชิญมาสอบถามและแลกเปลี่ยนเห็นยุทธศาสตร์และนโยบายการดำเนินการแก้ปัญหาความขัดแย้ง การพูดคุยสร้างสันติภาพชายแดนใต้ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่สดๆร้อนๆ มาประกอบรายงานช่วงท้าย และได้ข้อมูลที่สมบูรณ์มากที่สุด“ นายจาตุรนต์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สั่งผู้ว่าฯ นครพนมสอบข้อเท็จจริงปลัดอำเภอท่าอุเทนโผล่ทำงานหลังคดีตากใบหมดอายุความ!
'อนุทิน' มอบ ปลัด มท.สั่งผู้ว่าฯนครพนม สอบข้อเท็จจริง 'ปลัดอำเภอท่าอุเทน' 1 ใน 14 จำเลยคดีตากใบ ภายใน 15 วัน โผล่ทำงานวันแรก หลังคดีขาดอายุความ
'รอมฎอน' ชี้ช่องใช้อำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศลุยคดีตากใบ!
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
ศาลนราธิวาสสั่งจำหน่ายคดีตากใบ แต่ความทรงจำของประชาชนไม่หมดอายุความ
ศาลจังหวัดนราธิวาสได้มีคำสั่งจำหน่ายคดี ในคดี หมายเลขแดงที่ อ.1516/2567 ระหว่าง นางสาวฟาตีฮะห์ ปะจูกูเล็ง ที่ 1 กับ
มท.1 สั่งปลัดมท. ตั้งกก.สอบ 'ปลัดอำเภอท่าอุเทน' จำเลยคดีตากใบ โผล่ทำงานหลังคดีหมดอายุความ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เลิศสงคราม ปลัดอำเภอ
จำเลยตากใบลอยนวล 20ปีขาดอายุความศาลสั่งคดีออกจากสารบบไร้เงา14คน
ปิดฉาก 20 ปี "คดีตากใบ" ศาลจังหวัดนราธิวาสสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
คดีตากใบ หมดอายุความ วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด กับผลการเมืองระหว่างประเทศ
ชื่อ "จักรภพ เพ็ญแข" คงไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากว่าเป็นใคร มาจากไหน มีบทบาททางการเมืองอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา เพราะชื่อนี้ถือเป็นคนดังในแวดวงการเมืองอยู่แล้ว