'อดีตบิ๊กศรภ.' วิเคราะห์ทำไม 'ชนชั้นกลาง' จึงต้องรักษา 'ลุงตู่' ไว้ ทั้งที่เบื่อหน่ายเพิ่มขึ้น

'พล.ท.นันทเดช'วิเคราะห์ทำไม'ชนชั้นกลาง'จึงต้องรักษา'ลุงตู่'ไว้ ทั้งที่เบื่อหน่ายเพิ่มขึ้นจนเห็นได้ชัดเจน แต่ยังไม่มีตัวเลือกที่จะมาแทน'ลุงตู่'ในการต่อสู้กับ'ระบอบทักษิณ'ได้ จึงแสดงออกในผลการเลือกตั้งซ่อมที่เพิ่งผ่านไป

19 ม.ค.2565- พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ทำไมชนชั้นกลางจึงต้องรักษาลุงตู่ไว้

ชนชั้นกลางของประเทศไทย ซึ่งเติบโตขึ้นมาในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จากนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบันมีจำนวนมากพอๆกับชนชั้นหาเช้ากินค่ำ ได้ทำให้ประเทศไทย มีรากฐานที่เข้มแข็ง กลายเป็นสังคมที่สุขสงบ และเมื่อเผชิญกับปัญหาต่างๆ ประเทศไทยจึงฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น ดังนั้นชนชั้นกลางจึงเป็นกลุ่มคนที่ตื่นตัวต่อปัญหาทางการเมืองมากที่สุด เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกถ้าไม่ถึงภาวะวิกฤติจริงๆ

ชนชั้นกลางเหล่านี้จึงเป็นตัวชี้ขาดถึงความเป็นอยู่ของรัฐบาลมาตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมา เพราะถ้าบ้านเมืองไม่สงบสุข ก็จะส่งผลมากระทบต่อความเป็นอยู่ของพวกเขาด้วย ดังนั้น“คนชั้นกลางจึงไม่ต้องการ ส.ส.ที่รวยมากนัก” แต่ต้องการคนที่ซื่อสัตย์มากกว่า

ในปัจจุบัน ปฏิกริยาที่ชนชั้นกลางค่อยๆแสดงออก ต่อการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คือ ปัญหา
ท่ีเกิดจากความเฉื่อยชาในการแก้ไขเรื่องต่างๆ ที่รัฐบาล ชลอสะสมไว้ แต่กลับไปสนใจในงานใหญ่ซึ่งไม่มีใครเถี่ยงได้ว่า ควรจะต้องทำแน่นอน แต่ก็ไม่ควรจะทิ้งปัญหาทางสังคม ให้สะสมมากขึ้น

ประชาชนจึงเริ่มแสดงออกถึงความเบื่อหน่ายต่อ พล.อ.ประยุทธ์เพิ่มขึ้นจนเห็นได้ชัดเจน แต่ก็ยังมองไม่เห็นว่าจะหาใครมาแทน

พล.อ.ประยุทธ์ ได้ในสถานการณ์ขณะนี้ ซึ่งต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศในรูปแบบใหม่ (ภัยใหม่) อยู่อย่างรุนแรง

ความเฉื่อยชาท่ีประชาชนบ่นกันอยู่ในปัจจุบันนั้น ขอยกเฉพาะเรื่องท่ียังไม่เสียหายต่อรัฐบาล แต่น่า
รำคาญใจมากว่า จะยกมาเล่าให้ฟัง เป็นตัวอย่างสัก 3 เรื่อง เช่น

1.ปัญหาการเปิดทางด่วน ลอยฟ้าไปโคราช ที่ประกาศอย่างครึกโครมมาเกือบ 2 ปีแล้วแต่ดูเสมือนยังไม่มีวันเสร็จสิ้นซะที รอกันอยู่นั้น ไม่เปิดเพราะอะไรก็ควรบอกให้ประชาชนรู้ด้วย

2.ปัญหาที่คั่งค้างอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งกำลังกลายเป็นเหมือนโควิดกลายพันธ์ ระบาดไปถึงพรรคร่วม
รัฐบาลอื่นๆด้วย

3.กรณีที่รัฐบาลตั้ง นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อดีตอัยการสูงสุดและประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมมาเป็นประธานให้มีหน้าที่และอำนาจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ความเป็นมาและการดำเนินการเกี่ยวกับกรณี “การลดโทษไปมากสุดถึง 42 ปีให้กับนักโทษเด็ดขาดคดีทุจริตจำนำข้าว ติดต่อกันถึง 4 ครั้งในระยะเวลาเพียง 1 ปี 3 เดือนเศษเท่านั้น” ซึ่งมีสาเหตุมาจากคดีดังกล่าว ศาลฎีกาได้ตัดสินจำคุกไว้สูงถึง 48 ปี

การลดโทษมากมายขนาดนี้ ทำให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจนว่า 'เป็นการกระทำที่น่าจะไม่ถูกต้อง ตามขบวนการยุติธรรม เพราะคดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาทุจริตร้ายแรง มีผลเสียหายต่อประเทศชาติมากถึงกว่า 6 แสนล้านบาท' ปัจจุบันเวลาครบ 30 วันแล้ว ประชาชนจึงควรได้รับทราบผลในเรื่องนี้ จากการดำเนินงาน ของคณะกรรมการฯ ตามที่กำหนดไว้ แต่ก็ยังเงียบอยู่

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลก็อย่าได้คึกนัก ถึงกับประกาศจะกลับบ้านในกลางปีนี้ เพราะประชาชนยังไม่มีตัวเลือกที่จะมาแทนลุงตู่ในการต่อสู้กับระบอบทักษิณได้ และแนวร่วม 3 กีบ ก็มีผู้เข้ามาร่วมเคลื่อนไหวน้อยลงๆ มีแต่พวกตลาดล่างเท่านั้น แต่กลับใช้ความรุนแรง และแสดงออกว่า เป็นม็อบทางการเมืองมากขึ้น

ดังนั้นถ้าใครที่มีแนวโน้ม ว่าอาจจะไปอยู่ในระบอบทักษิณได้ กลุ่มชนชั้นกลางจึงเริ่มออกมาแสดงท่าทีต่อต้านทันที ที่มีโอกาสเช่น ผลการเลือกตั้งซ่อม ที่เพิ่งจะผ่านไปนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ก้าวไกล' เหยื่อระบอบทักษิณ! ตราบใดกระแส 'อนุรักษ์นิยม' ยังไม่ฟื้น

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าพรรคก้าวไกล เหยื่อของระบอบทักษิณ!

18มิ.ย.67วันแห่งความปราชัยของฝ่ายอนุรักษ์ วันแห่งชัยชนะของระบอบทักษิน

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ) โพสต์เฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุข้อความว่า

เทพไท จวก 'แม้ว' หางเริ่มโผล่ ชี้ระบอบทักษิณกำลังกลับมาเต็มระบบ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุเนื้อหาว่า ทักษิณ เริ่มหางโผล่ อีกแล้ว

‘อดีตบิ๊กศรภ.’ ชี้กลยุทธ์’ซุนวู’ กำลังจู่โจม ‘เศรษฐา-ทักษิณ’ เสียขบวน

ตำราพิชัยสงครามของซุนวู มีการนำมาสอนกันใน ร.ร.เสนาธิการทหารของทุกเหล่าทัพ และยังใช้กันอย่างกว้างขวางในแวดวงธุรกิจ ปัจจุบันทางการเมืองก็นำมาประยุกต์ใช้เช่นกัน