'นักเศรษฐศาสตร์' เปิดสูตรคณิตศาสตร์แชร์ลูกโซ่ ทะลุหมื่นล้าน 'หัวหน้าบอส' ฮุบไป2พันล้าน

16 ต.ค.2567- ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

คณิตศาสตร์แชร์ลูกโซ่หมื่นล้าน : แชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่มีสมาชิกเข้าร่วมเกือบสี่แสนคน
/////
ในช่วงหนึ่งของรายการ THE STANDARD NOW
บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ก่อตั้งบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยข้อมูลยอดสมาชิกในระดับต่าง ๆ ของการดำเนินธุรกิจ ล่าสุด จำนวน 368,257 ราย แบ่งเป็น
ร้านค้าปลีก distributor : 285,833 ราย (ลงทุน 2,500) ยอดลงทุนทั้งสิ้น = 714,582,500 บาท
หัวหน้าทีม Supervisor : 43,976 ราย (ลงทุน 25,000) ยอดลงทุนทั้งสิ้น = 1,099,400,400 บาท
ตัวแทนจำหน่าย Dealer : 31,972 ราย (ลงทุน 250,000) ยอดลงทุนทั้งสิ้น = 7,993,000,000 บาท
ยอดรวมทั้งหมดของการลงทุนในแชร์ลูกโซ่The Icon คือ 9,806,982,900 บาท คือเกือบหมื่นล้านบาท ถือเป็นแชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
หากรวมตัวแทนจำหน่าย (เล็ก) Mini Dealer : 6,476 ราย × 50,000 (ลงทุน) = 323,800,000 บาท ยอดเงินทั้งหมดจะเป็น 10,130,782,900 บาท คือทะลุหมื่นล้านบาท
หากหักค่าจัดการ-ค่าบริหารแชร์ลูกโซ่ไป 30% ก็จะเหลือเงินประมาณ 7,000,000,000 (เจ็ดพันล้านบาท) ที่กระจุกอยู่ใน "กลุ่มบอส" กับเครือข่ายแม่ทีมทั้งหมด ที่มีจำนวน 0.15% (ตัวเลขจำนวนคนระดับยอดพีระมิดของแชร์ลูกโซ่) ของ จำนวนคนที่เข้าร่วมแชร์ลูกโซ่ทั้งหมด 368,257 ราย ก็จะมีคนที่กอบโกยเงินทองจากแชร์ลูกโซ่นี้อยู่ราว ๆ 552 คน
แต่เงินเจ็ดพันล้านบาทที่ดูดมานี้ หาได้กระจายสู่คนจำนวน 552 คน บนยอดพีระมิดอย่างเท่าเทียมกันไม่
ดูทรงแล้วคิดว่า เงินห้าพันล้านบาทจากยอดเจ็ดพันล้านบาทน่าจะตกอยู่ใน "กลุ่มบอส" ที่มีจำนวนไม่น่าเกิน 20 คนเท่านั้น
โดยที่ "หัวหน้าบอส" คนเดียวน่าจะฮุบไปอย่างน้อยสองพันล้านบาทจากยอดห้าพันล้านบาท
นี่คือตัวเลขคร่าว ๆ ที่ ปปง.กับดีเอสไอ ต้องดำเนินคดีและยึดทรัพย์คืนกลับมาให้ได้
~ สุวินัย ภรณวลัย
Suvinai Pornavalai
*******
อีกปัญหาของสังคมไทยใน 10 ปีที่ผ่านมา คือโดนมายาคติคำว่า “อายุน้อยร้อยล้าน” เข้าครอบงำ
ประเด็นแรก ผมคุยกับเพื่อน ๆ สิงคโปร์ อิสราเอล จีน สม่ำเสมอ ที่น่าสนใจคือสังคมรวย ๆ เหล่านี้สนใจ มุ่งมั่น บ้าคลั่งกับการวิจัยสิ่งใหม่ ๆ ไม่ medical ก็ financial services หรือ food tech ส่วนจะได้ 100 ล้าน หรือเข้าตลาดมั้ย นั่นมันเรื่องของอนาคต
เขาจึงทำธุรกิจที่โตได้จริง ยั่งยืนได้จริง และรวยได้มากกว่าเรา เพราะเขาสร้าง “Valuable Intellectual Asset” ที่ไม่ใช่ “money game” หรือ ”fake money game” แบบไทยเรา
ประเด็นสอง ผมตามอ่านจากสื่อ ทุกสัมภาษณ์ของนักธุรกิจมาราว ๆ 15 ปี ตั้งแต่ car care ยันขายตรง ทุกคนจะจบการสัมภาษณ์ว่าเป้าหมายคือเข้าตลาด!!
ต่างชาติเขาหัวเราะเยาะ mindset แบบนี้มาก
เพราะไม่เคยเห็นแม้แต่ 1 คนเลยมั้งที่ตอบว่า จะเอานวัตกรรมไปชนะคู่แข่งในระดับโลก (หรือ regional ก็ยังดี)
ว่าที่เศรษฐีใหม่คนล่าสุดของสิงคโปร์ อายุเพียง 40 เศษ เขาโตด้วยนวัตกรรม “ตรวจเลือดแบบใหม่” ที่ approve จากสมาคมประกันสุขภาพจากอเมริกาเรียบร้อย
นี่คือ Mindset ที่ต่างกันมาก
คนนึงไปคิดก่อนว่าจะทำบ้านที่ดี ด้วยโครงสร้างพิเศษอย่างไร ใช้พลังงานแบบใหม่ยังไง ดีกว่าเดิมอย่างไร?
อีกคนคิดไปไกลว่าอยากจะรวยจากการสร้างบ้าน แต่ใช้โครงสร้างแบบเก่าทั้งหมด?
แพ้ตั้งแต่คิด
ธุรกิจยุคใหม่ในไทยจึงสู้สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน หรือแม้แต่มาเลเซียไม่ได้
สุดท้ายมันก็ลามมาเรื่องปัญหาการเรียนหลักสูตร และ Mindset คนทำธุรกิจเมืองไทย
พอมองเป้าเว่อร์ ก็ต้องมีชีวิตที่เว่อร์
คนเรียนหลักสูตรต่าง ๆ เมืองไทยจึงต้องแห่กัน ”Living large” ใช้ชีวิตเกินตัวกันหมด
ธุรกิจ “โตเร็วผิดหูผิดตา” ยุคนี้ จึงต้องมี “บ้านใหญ่ ๆ” เพื่อเอาข้าราชการ และนักการเมืองมากินเหล้า ปาร์ตี้ฟรีกันเป็นปกติ
ผอ.สำนัก อธิบดี รองปลัด นักการเมือง มากินฟรี อยู่ฟรี
single malt, ซิการ์ตัวละ 20,000, ไข่ปลากระปุกละแสน เพื่อล็อบบี้การทำผิดกฏหมาย
ผมเองปฏิเสธการเรียนหลักสูตรไปหลายตัว ทั้งที่สนใจความรู้ แต่กลัวไม่มีเงินจ่ายการใช้ชีวิตแพง ๆ
จนบางทียังถามตัวเองว่า ผมเห็นหลายคนที่ financial status น่าจะด้อยกว่าผมซะด้วย เค้าเอาเงินที่ไหนไปเผากับการเรียนหลักสูตรแบบนั้น
แต่หลายคนเชื่อว่า “คุ้ม” ในการจ่ายหมดตัว เพื่อเข้าระบบ “รวย fast track”
นี่คือการสร้าง “วัฒนธรรมการปลอม” อย่างเป็นกิจลักษณะ
เมื่ออยู่กับสังคมปลอม ที่วัน ๆ เอาสมองไปสร้างแต่ภาพ
คิดแต่ว่าถ่ายภาพอย่างไรให้สวย
ถ่ายภาพกับใครที่เค้าดัง
ถ่ายยังไงให้ดูดี
Mindset การทำธุรกิจจึงพังตั้งแต่แรก
ขายตรงไม่ใช่สิ่งแย่
แต่เป้าที่สนแต่ขยายวงแบบงูกินหาง บนข้อมูลที่หลอกลวงเกินจริง จากการคิดแต่ว่า ฉันจะรวย ฉันจะรวย ฉันจะรวย โดยไม่สนการสร้างนวัตกรรมใด ๆ
ธุรกิจไทยจึงแป้กแบบ Zero-Sum กันอยู่แบบนี้
หัวขบวนรวยฉิบ
หางขบวนตายเกลี้ยง หมดตัว เป็นหนี้ ฆ่าตัวตาย
นักการเมืองขอ 30 ล้าน กับค่ารายเดือน
อีกนับร้อยธุรกิจก็เป็นแบบนี้
~ Pongprom Yamarat

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จิราพร' หารือ 6 หน่วยงาน จ่อตั้ง คกก.ป้องกันปัญหาธุรกิจหลอกลวง-แชร์ลูกโซ่

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทำธุรกิจหลอกลวง

'บิ๊กเต่า' เผยเรียก 'เอก สายไหมต้องรอด' สอบปากคำวันนี้ ปมปั้นพยานเท็จดิไอคอน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคลิปเสียงตบทรัพย์ผู้ต้องหาเครือข่ายดิไอคอน ว่า ได้รับการประสานมาจากนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล“ และ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า วันนี้จะไปพบ น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ “บอสปัน”

'บิ๊กเต่า' เผยใกล้สรุปคดี 'เจ๊พัช' กรรโชกทรัพย์บอสพอลภายในสัปดาห์นี้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป. และ เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-

'ดีเอสไอ' ให้เวลา 15 วัน '18 บอส' อธิบายธุรกิจดิไอคอน หลังแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-ขายตรง

"โฆษกดีเอสไอ" เผยคณะพนักงานสอบสวนเข้าแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ - พ.ร.บ.ขายตรงฯ 18 บอสดิไอคอนฯ เรียบร้อย แย้มให้กรอบเวลา 15 วัน

'ทนายบอสพอล' มั่นใจชี้แจงได้หมด อ้าง 'ดีเอสไอ' แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ ค่อนข้างหลวม

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมบอสพอล ว่า หลวมดี เพราะหากดูจากพฤติการณ์ที่ดีเอสไอแจ้งมา

'ดิไอคอน-18 บอส' อ่วม! 'ดีเอสไอ' บุกคุกแจ้งเพิ่ม 3 ข้อหาหนัก

'ดีเอสไอ' บุกเรือนจำ แจ้งเพิ่ม 3 ข้อกล่าวหา 'ดิไอคอน-18 บอส' ความผิดตามกฎหมายขายตรง-แชร์ลูกโซ่ พร้อมเปิดโอกาสนำหลักฐานมาแจงความบริสุทธิ์ได้